SINO ปิดเทรดวันแรก 1.93 บาท เหนือจอง 37.86%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SINO เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันนี้ (20 ก.ย.2566) เป็นวันแรก ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์
โดยเปิดซื้อขายที่ราคา 1.60 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 14.29% จากราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่ราคา 1.40 บาท ระหว่างวันปรับตัวขึ้นไปทำราคาสูงสุดที่ 1.97 บาท ปรับตัวต่ำสุดที่ 1.58 บาท และปิดซื้อขายที่ราคา 1.93 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 0.53 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 37.86% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1,940.88 ล้านบาท
นายนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SINO เปิดเผยว่า ราคาหุ้น SINO ที่เปิดซื้อขายวันแรก สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อพื้นฐานธุรกิจของบริษัท โดย SINO เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศอย่างครบวงจร (Integrated Logistics Service Provider) จากการให้บริการจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Freight Forwarder) ทั้งทางทะเล ทางอากาศ และทางบก รวมถึงการให้บริการให้เช่าคลังสินค้า การให้บริการด้านพิธีการศุลกากร และการให้บริการสนับสนุนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับด้านโลจิสติกส์
สำหรับกลยุทธ์สร้างการเติบโตต่อจากนี้ บริษัทมีแผนเข้าลงทุนในบริษัทที่ประกอบธุรกิจ Freight Forwarding ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดและขยายฐานลูกค้าเพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยส่งเสริมขีดความสามารถเชิงการแข่งขันในระยะยาวในการให้บริการขนส่งระหว่างประเทศในทุกรูปแบบ ทั้งทางทะเล ทางอากาศและทางบก
รวมไปถึงเข้าลงทุนในบริษัทที่ประกอบธุรกิจจัดการขนส่งระหว่างประเทศทางอากาศ (Air Freight) และการขยายพื้นที่บริการรับฝากตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ เพื่อตอบสนองการให้บริการขนส่งสินค้าทางบกภายในประเทศและข้ามแดนระหว่างประเทศแก่ลูกค้าได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
“เรามุ่งมั่นพัฒนาและขยายการให้บริการไปยังกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อส่งมอบบริการที่ครบวงจรอย่างมืออาชีพ ด้วยมาตรฐานและคุณภาพการให้บริการที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัยและตรงต่อเวลา เพื่อตอบสนองความต้องการให้แก่ลูกค้าอย่างดีที่สุดและผลักดันการเติบโตของบริษัทอย่างยั่งยืน” นายนันท์มนัส กล่าว
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปี 2566 คาดว่าจะเติบโตได้ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก ที่มีรายได้จากการให้บริการ อยู่ที่ 830.34 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 45.97 ล้านบาท เนื่องจากมีความต้องการใช้ค่อนข้างสูง ประกอบกับเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ รวมทั้งค่าระวางเรืออิงจากดัชนี SCFI จะปรับตัวได้ดีขึ้น หลังจากดัชนี SCFI ที่ 1,100 จุด เชื่อว่าเป็นจุดต่ำสุดแล้ว
ด้านผลการดำเนินงานปี 2567 คาดว่าจะยังคงมีทิศทางที่ดีขึ้น ด้วยปริมาณยอดขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ที่เพิ่มสูงขึ้น จากแผนการลงทุนในการซื้อกิจการ (M&A) โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจา น่าจะเห็นความชัดเจนในไตรมาส 1/2567 ช่วยสนับสนุนให้ปริมาณยอดขนส่งตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มขึ้นเป็น 55,000-56,000 ตู้ จากปัจจุบันอยู่ที่ 40,000 ตู้
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบรายชื่อผู้ถือหุ้น 10 รายแรก พบว่า บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SJWD ถือหุ้นอันดับ 5 จำนวน 43,800,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4.21% นั้น เป็นการสร้าง Synergy ร่วมกันผ่านการประกอบธุรกิจและการเป็นคู่ค้าในบางธุรกิจที่แต่บริษัทมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ไม่ได้เป็นการเข้ามาเก็งกำไรราคาหุ้นในระยะสั้น
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า SINO เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศอย่างครบวงจร ที่มีความชำนาญการให้บริการบนเส้นทางขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางทะเลมากกว่า 100 ประเทศ ครอบคลุม เส้นทางไทย-โซนอเมริกาเหนือ เส้นทางไทย-เอเชียและเส้นทางไทย-ยุโรป ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการส่งออกและนำเข้าของการค้าโลก ประกอบกับแผนการลงทุนเชิงกลยุทธ์มุ่งยกระดับคุณภาพการให้บริการ เพื่อขยายการให้บริการครอบคลุมไปยังประเทศในภูมิภาคอาเซียน เชื่อมั่นว่า SINO จะเป็นหุ้นน้องใหม่ที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุนได้ในระยะยาว
ขณะเดียวกัน เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนและตอกย้ำความมุ่งมั่นในการนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมยังสมัครใจทำข้อตกลงไม่จำหน่ายหุ้นส่วนที่เหลือจากการติด Silent Period ตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นระยะเวลา 6 เดือนนับจากวันที่หุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกด้วย
นางสาวจิรยง อนุมานราชธน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจย์ แคปปิตอล แอดไวเซอรี จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในครั้งนี้ ทำให้ SINO มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนแผนการรุกขยายฐานลูกค้าไปยังภูมิภาคอาเซียน และช่วยเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการให้ดียิ่งขึ้น จึงมั่นใจว่า SINO จะเป็นอีกหนึ่งหุ้นที่สร้างความมั่งคั่งแก่นักลงทุนในระยะยาวได้
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.