GULF เปิด COD โซลาร์ฟาร์ม 5 โครงการ รวม 295 MW-โรงไฟฟ้าหินกองหน่วย 2 ขนาด 700 MW

นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทได้แจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ทราบเรื่องการเข้าลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreement) ระหว่างกลุ่มบริษัทกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อพัฒนาและดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เป็นระยะเวลา 25 ปี จำนวนรวมทั้งสิ้น 25 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวมทั้งสิ้น 1,353.1 เมกะวัตต์ (ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 2,537.8เมกะวัตต์) 

ทั้งนี้ ประกอบด้วย โครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (solar farms) จำนวน 13 โครงการ ซึ่งมีขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 652.9 เมกะวัตต์ (ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 869.8 เมกะวัตต์) และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน (solar farms with battery energy storage systems) จ านวน 12 โครงการ ซึ่งมีขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 700.2 เมกะวัตต์ (ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 1,668.0 เมกะวัตต์) โดยมีแผนเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในช่วงปี 2567-2572 แล้วนั้น

บริษัทขอแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ทราบว่า เมื่อวันที่ 31ธ.ค.2567 กลุ่มบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นทางอ้อมผ่าน บริษัท กัลฟ์ รีนิวเอเบิล เอ็นเนอร์จี จำกัด (GRE) ในสัดส่วน 100% ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว จำนวนรวมทั้งสิ้น 5 โครงการ (โครงการฯ) มีขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 295.0 เมกะวัตต์ (ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 531.8 เมกะวัตต์)

โดยแบ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน จำนวน 3 โครงการขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 160.0 เมกะวัตต์ (ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 212.9เมกะวัตต์) และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน จำนวน 2 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 135.0 เมกะวัตต์ (ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 318.9เมกะวัตต์) โดยรายละเอียดมีดังนี้

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 1 ม.ค.2568 บริษัท หินกองเพาเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมค้าที่บริษัทถือหุ้นร่วมกับ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH ในสัดส่วน 49% และ 51% ตามลำดับ โดยเป็นผู้ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าเอกชนขนาดใหญ่ (Independent Power Producer: IPP) ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าหินกอง (HKP) ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์หน่วยผลิตที่ 2 ซึ่งเป็นหน่วยการผลิตสุดท้ายของโครงการ มีขนาดกำลังการผลิตตามสัญญา 700 เมกะวัตต์ (ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 770 เมกะวัตต์) โดยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นที่เรียบร้อยตามกำหนด (โดยหน่วยผลิตที่ 1 กำลังการผลิตติดตั้ง 770เมกะวัตต์ เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วเมื่อวันที่ 1 มี.ค.2567 ที่ผ่านมา)

โครงการ HKP เป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม (Combined-Cycle Gas Turbine) ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง โดยมีบริษัท หินกองเพาเวอร์โฮลดิ้ง จกำด เป็นผู้จัดหาและน าเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) สำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า โดยโครงการ HKP มีขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 1,540 เมกะวัตต์ (แบ่งเป็น 2 หน่วยผลิต หน่วยผลิตละ 770 เมกะวัตต์) ตั้งอยู่ที่ตำบลหินกอง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ. เป็นระยะเวลา 25 ปี ซึ่งโครงการ HKP เป็นโรงไฟฟ้าเพื่อความมั่นคงและมีความจำเป็นต่อความต้องการใช้ไฟฟ้าของประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคกลาง ภาคตะวันตก และภาคใต้

การเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการ HKP ดังกล่าว เป็นการต่อยอดการเติบโตของกำลังการผลิตไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องของกลุ่มบริษัท อีกทั้งสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของประเทศไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เนื่องจากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติจะปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิลประเภทอื่น ในขณะที่คงเสถียรภาพในการผลิตไฟฟ้าให้อยู่ในระดับสูงจึงสามารถรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาที่โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนไม่สามารถผลิตไฟได้อีกด้วย

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.