แกะรอยคดีซ้ำ “ตั้งคารวคุณ” จาก STARK ถึง DPAINT ครอบครัว “พี่ใหญ่-น้องรอง”

          คดีสะเทือนวงการตลาดหุ้นที่นักลงทุนไม่มีวันลืมคดีหนึ่ง คงหนีไม่พ้น บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK คดีดังในปี 2566 จากปัญหาทุจริต ตกแต่งบัญชี นำไปสู่การกล่าวโทษของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กรณีตกแต่งงบการเงินปี 2565 เปิดเผยข้อความอันเป็นเท็จในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ และกระทำโดยทุจริตหลอกลวง ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) 

          จากนั้น DSI ได้สั่งฟ้องในความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ฐานตกแต่งบัญชีและงบการเงิน และฐานฉ้อโกงประชาชน รวมถึงความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม 

          ขณะเดียวกัน ในภายหลัง ก.ล.ต. ได้มีการขยายผลการตรวจสอบเพื่อดำเนินการกับผู้กระทำผิดเพิ่มเติม ทำให้มีการกล่าวโทษกรณีเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานของ STARK   

          นอกจากนี้ STARK ยังมีการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ 5 รุ่น มูลค่ารวม 9,198.40 ล้านบาท อีกด้วย

          คดีนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจากเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) แต่ปัจจุบันได้ถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว เมื่อวันที่ 3 ก.ย.2567 โดยเหตุแห่งการเพิ่มถอน คือ บริษัทเปิดเผยข้อมูลอันเป็นเท็จในงบการเงิน ตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่อง การเพิกถอนหลักทรัพย์ จดทะเบียน พ.ศ. 2564 ข้อ 7 (3) 

          อีกทั้งคดีดังกล่าวยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับทายาทของตระกูลใหญ่ที่มีชื่อเสียง อย่าง “ตั้งคารวคุณ” และมีความเสียหายมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท ซึ่งในทางคดี ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการทางกฎหมาย

          ล่าสุด “ตั้งคารวคุณ” กลับมาถูกกล่าวถึงอีกครั้ง เมื่อ ก.ล.ต. กล่าวโทษผู้กระทำความผิด 29 ราย ซึ่งปรากฎชื่อของ “ละออ ตั้งคารวคุณ” และ “วิไล ตั้งคารวคุณ” ร่วมอยู่ด้วย กรณีสร้างราคาและ/หรือปริมาณการซื้อขายหุ้น บริษัท สีเดลต้า จำกัด (มหาชน) หรือ DPAINT ในวันที่ 28 ต.ค.2564 ซึ่งเป็นวันแรกของการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) 

          โดยมีพฤติกรรมการซื้อขายอย่างต่อเนื่อง ทั้งในช่วงก่อนเปิดตลาดภาคเช้าและในระหว่างวัน เช่น ส่งคำสั่งเสนอซื้อและ/หรือเสนอขายในปริมาณมากหลายระดับราคา รวมถึงผลักดันราคาหุ้น DPAINT ให้ปรับตัวสูงขึ้น เป็นต้น ส่งผลให้หุ้น DPAINT เปิดทำการซื้อขายที่ราคา 22.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาสูงสุดของวัน หรือคิดเป็น 200% ของราคาที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ และมุ่งหมายให้ราคาหรือปริมาณการซื้อหรือขายหุ้น DPAINT ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด

          การกระทำดังกล่าว เข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 244/3 (1) และ (2) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ) ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งมีระวางโทษตามมาตรา 296 มาตรา 296/1 และมาตรา 296/2 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ

          จุดเชื่อมโยงของ 2 คดี คือ “ตระกูลตั้งคารวคุณ” โดย STARK เป็นธุรกิจส่วนตัวของ “วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ” บุตรชายคนโตของ “ประจักษ์ ตั้งคารวคุณ” ผู้ก่อตั้ง บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA และ “ละออ ตั้งคารวคุณ”  

          “ประจักษ์ ตั้งคารวคุณ” และ “ละออ ตั้งคารวคุณ” มีบุตรด้วยกัน 4 คน ได้แก่ “วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ” บุตรชายคนโต เคยเป็นกรรมการ TOA เมื่อมีคดี STARK ได้ลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว แต่ยังคงถือหุ้น TOA อันดับ 5 จำนวน 182,600,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 9.00% 

          “จตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ” บุตรชายคนที่ 2 ปัจจุบันเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการ ถือหุ้น TOA อันดับ 4 จำนวน 182,600,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 9.00%

          “ณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ” บุตรชายคนที่ 3 ปัจจุบันเป็นกรรมการ ถือหุ้น TOA อันดับ 2 จำนวน 182,600,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 9.00% 

          “บุศทรี หวั่งหลี” บุตรสาวคนเล็ก ปัจจุบันเป็นกรรมการ ถือหุ้น TOA อันดับ 2 จำนวน 182,600,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 9.00% 

          ขณะที่ DPAINT มีผู้ก่อตั้งบริษัท คือ “อาจณรงค์ ตั้งคารวคุณ” เป็นพี่น้องกับ “ประจักษ์ ตั้งคารวคุณ” และเป็นคู่สมรสของ “วิไล ตั้งคารวคุณ” มีบุตรด้วยกัน 3 คน ได้แก่ “รณฤทธิ์ ตั้งคารวคุณ” บุตรชายคนโต ปัจจุบันเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการ ถือหุ้น DPAINT อันดับ 3 จำนวน 17,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 7.39%     

          “วาณุภัณฒ์ ตั้งคารวคุณ” บุตรสาวคนกลาง เป็นผู้ถือหุ้น DPAINT อันดับ 5 จำนวน 11,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4.78% และ “อรรถพล ตั้งคารวคุณ” บุตรชายคนเล็ก ปัจจุบันเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานบัญชีและการเงิน และกรรมการ ถือหุ้น DPAINT อันดับ 2 จำนวน 31,500,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 13.70%

          หวังว่าในอนาคตจะไม่ได้เห็นบริษัทใน “ตระกูลตั้งคารวคุณ” โผล่เป็นคดีขึ้นมาอีก!!