SET มีปัจจัยกดดัน แต่ลุ้นฟื้นตามแนวรับ แนะ “Selective Buy” ชู CPAXT และ AOT

          บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า SET ได้รับ Sentiment ลบ หลังทรัมป์เตรียมขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนนาดา เม็กซิโก และจีน ด้านรายงานประชุมเฟด ระบุจะลดดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ตลาดมองเดือน ธ.ค. มีโอกาสคงดอกเบี้ยไว้ก่อน เป็นปัจจัยกดดันดัชนี โดยมีแนวรับที่ 1,430 และ 1,425 จุด ตามลำดับ เป็นจุดลุ้นฟื้นตัว ด้านแนวต้านอยู่ที่ 1,445-1,455 จุด

          ทั้งนี้ ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัว Sideways ในกรอบ หลังขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ ทั้งนี้ปัจจัยต่างประเทศยังค่อนข้างจำกัด โดยตลาดคาดดัชนี PCE ต.ค. ของสหรัฐฯ จะทรงตัวใกล้เคียงกับ ก.ย. ที่ระดับ 0.2%MoM และดัชนี PMI ภาคการผลิต พ.ย. ของจีนจะขยายตัวเล็กน้อยหรือใกล้เคียง ต.ค. ที่ระดับ 50.1 ส่วนกระแสเงินทุนคาดยังมีแนวโน้มไหลออกต่อเนื่อง จากตลาดหุ้น EM รวมทั้งไทยและจีน สืบเนื่องมาจากความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์และความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีของทรัมป์ 

          ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังอยู่ในช่วง บจ. ให้แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2567 และปี 2568 พร้อมรอติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของภาครัฐ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ "Selective Buy“ ใน 4 ธีมที่มีปัจจัยเฉพาะตัว ดังนี้

          1. หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากมาตรการกระตุ้นการบริโภค, ท่องเที่ยว และมาตรการแก้หนี้ครัวเรือนของภาครัฐ แนะนำ กลุ่มพาณิชย์ (CPALL CPAXT CRC HMPRO TNP) กลุ่มท่องเที่ยว (AWC AOT MINT) และกลุ่มธนาคาร (BBL)

          2. หุ้น Earnings Play ซึ่งมองมีโมเมนตัมกำไรไตรมาส 4/2567 จะเติบโตดี YoY และ QoQ อีกทั้งเราแนะนำ Outperform เลือก GULF OSP CBG AMATA AU TIDLOR BCP

          3. หุ้นที่จ่ายปันผลสูงและคาดได้อานิสงส์จากการเป็นเป้าหมายสะสมของกองทุนวายุภักษ์และกองทุนที่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีช่วงปลายปี แนะนำหุ้น SET100 ที่คาดให้ Div. Yield ขั้นต่ำปีละ 3.5% และมี ESG Rating และ CG สูง อีกทั้งมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตได้ในปี 2025 เลือก BBL ADVANC HMPRO BCP

          4. สำหรับนักลงทุนที่ยังกังวลสถานการณ์ในตะวันออกกลางและต้องการหุ้นน้ำมัน สำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP

          สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ CPAXT ไตรมาส 4/2567 คาดกำไรจะเป็นจุดสูงสุดของปีนี้ โดยจะเพิ่มขึ้น YoY จากยอดขายและมาร์จิ้นที่ดีขึ้น และ QoQ จากปัจจัยฤดูกาล ขณะที่ปี 2567 คาดกำไรเติบโต 24.6%YoY และจะเติบโตต่อดีที่สุดในกลุ่ม 19%YoY ในปี 2568 (เทียบกับกลุ่มเติบโตเฉลี่ย 15%YoY) ทั้งนี้หลังควบรวมกิจการคาด Synergy จะเริ่มมีให้เห็นในไตรมาส 4/2567 และชัดเจนมากขึ้นในปี 2568-2570

          AOT เป็นหนึ่งในหุ้นเด่นของเราในกลุ่มท่องเที่ยว โดยกำไรจะมีแนวโน้มเติบโตสดใสตามจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยปี FY2568 คาดกำไรจะเติบโต 18%YoY อิงจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศที่ 84 ล้านคน เติบโต 15%YoY ซึ่งไตรมาส 1/2568 คาดกำไรจะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ จากเข้าสู่ High Season ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.