TDRI เตือนรับดาบ 2 มาตรการกีดกันการค้า แนะไทยดึงดูดการย้ายลงทุนจากจีน

นายนณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโสจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวถึงกรณีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่า เตรียมจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าทุกชนิดจากเม็กซิโกและแคนาดา 25% ตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่งว่า ตอนนี้ถือว่ายังมีความไม่แน่นอนสูงว่าการขึ้นภาษีจะจบแบบไหน กรณีหลักๆ ที่วิเคราะห์กันคือ การขึ้นภาษีของสหรัฐไปยังจีนอาจสูงราวๆ 30% ในขณะที่ประเทศเม็กซิโก แคนาดาอาจจะอยู่ราวๆ 20-25%  ซึ่งจะทำให้เกิดการย้ายฐานการผลิตมายังสหรัฐฯ จากเม็กซิโก และการย้ายฐานการผลิตจากจีน ไปยังประเทศใกล้เคียง เช่น เวียดนาม รวมถึงไทย 

แต่ดาบที่สองที่กังวลใจกัน คือ การออกมาตรการกีดกันการค้า กับประเทศที่เกินดุลการค้าจากสหรัฐ มากๆ เช่น เวียดนาม เยอรมัน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ทำให้ประเทศเหล่านี้อาจจะต้องหาทางลดการเกินดุลด้วย ซึ่งอาจจะมาในรูปของการซื้อของสหรัฐมากขึ้น หรือการย้ายฐานจากประเทศเหล่านี้ก็ได้ด้วย ซึ่งไทยเราโชคดีที่เกินดุลสหรัฐไม่มาก แต่จะรับการลงทุนอย่างเดียวก็ต้องระวังว่าจะเป็นเป้าสายตาของทรัมป์

       ดังนั้น ไทยต้องใช้โอกาสนี้ในการดึงเม็ดเงินลงทุนมาไทย ในขณะเดียวกันก็ต้องเริ่มขยายตลาดใหม่ๆมาทดแทนมากขึ้น

ในระยะแรกไทยน่าจะยังไม่ได้เป็นเป้าหมาย แต่ระยะต่อมาอาจจะเริ่มเข้าข่ายถ้ามีการย้ายฐานมาไทยมาก ส่วนสินค้าจีนที่เผชิญกับการกีดกันทางการค้า น่าจะไหลเข้าประเทศอื่นๆ ไทยเสี่ยงที่จะเผชิญกับปัญหานี้ เพราะที่ตั้งอยู่ใกล้จีนและมีการเปิดการค้าเสรีผ่าน ASEAN ด้วย

        สำหรับมาตรการการรับมือของไทย อาจจะต้องอาศัยการควบคุมมาตรฐานสินค้า การเก็บภาษีอย่างเป็นธรรมระหว่างธุรกิจไทยกับต่างชาติ และการเสริมแกร่งช่วยเหลือธุรกิจไทย


 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.