5 ภารกิจสำคัญ ประธานบอร์ด ก.ล.ต. สู่การผลักดันตลาดทุนโต 2 เท่า GDPไทย

     "ตลาดทุนไทย" ยังคงเผชิญความท้าทายหลากหลาย โจทย์สำคัญที่ต้องก้าวข้ามให้ได้คือ "ความเชื่อมั่น" ภายใต้ความเสี่ยงของสถานการณ์โลกที่ผันผวน การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย สินทรัพย์ใหม่ๆเกิดขึ้น รวมถึงนโยบายของผู้นำประเทศมหาอำนาจที่เหนือการควบคุมและยากเกินคาดเดานั้น นโยบายของ "ผู้คุมกฎตลาดทุน" ย่อมต้องเร็ว ทันเหตุการณ์ เพื่อสร้างเกราะคุ้มกันรอบด้านก่อนภัยโจมตี

"ภารกิจสำคัญของ ก.ล.ต. คือ สร้าง Trust and Confidence, Fair play, ผลักดันสินทรัพย์ดิจิทัล(Digital Asset)พร้อมยกระดับกฎหมาย สืบสวนยันสอบสวน ต้องไม่ให้ใครได้ประโยชน์หรือแสวงหาโอกาสที่เหนือกว่าคนอื่น นี่คือหลักการที่ต้องทํา ด้วยระบบที่มีจะช่วยป้องกันและเกิดการเล่นที่ยุติธรรม ก.ล.ต. เป็นผู้ดูแลทำงานสอดคล้องกับตลาดหลักทรัพย์ฯเพื่อให้บริษัทที่ดีอยู่ในตลาด ไม่ให้มีข้อบกพร่อง ถ้ามีพ่อค้าแม่ค้าขายของไม่ดีหรืออะไรต่างๆ เราต้องพยายามดูแล แต่ว่าตลาดจะโตหรือไม่ มีส่วนประกอบอื่นที่นอกเหนือการควบคุม อย่างไรก็ดีมูลค่าตลาดทุนไทยยังขยายตัวได้มากกว่า 2 เท่าของจีดีพีที่โต 3%"

     ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ประธานกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ "โพสต์ทูเดย์" ว่า ตนเองเข้ามาดำรงตำแหน่งในเดือนกรกฎาคม 2567 จวบจนวันนี้ราว 4 เดือนครึ่ง ภารกิจสำคัญคงเน้นเรื่อง Trust and Confident การสร้างความเชื่อมั่นในตลาดทุน โดยใช้เทคโนโลยีทำให้ข้อมูลมีความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ เช่น การใช้ระบบ Tokenization ช่วยให้สามารถติดตามที่มาของสินทรัพย์ได้อย่างชัดเจน ซึ่งจะเพิ่มความน่าเชื่อถือในตลาด

     อีกทั้งระยะเวลาพิจารณาคดีหรือดําเนินการต่างๆต้องเร็วขึ้น เบื้องต้นอยากเห็นใช้เวลาพิจารณาเป็น "เดือน" แม้ระบบอาจจะยาก แต่ไม่ต้องการคําว่า "ปี" ซึ่งการปรับระบบพิจารณาอาจต้องค่อยเป็นค่อยไป ถือว่าการดำเนินงานในปัจจุบันดีขึ้นมาก 

     ขณะที่ "กระบวนการบังคับใช้กฎหมายของ ก.ล.ต." กำหนดภายใต้การบังคับใช้กฎหมายของ ก.ล.ต.เป็นหลัก พร้อมกับบูรณาการเชื่อมโยงการทำงานไปจนถึงการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ เพื่อการจับกุมและการพิพากษาสิ้นสุด ฉายภาพกระบวนการบังคับใช้กฎหมายของ ก.ล.ต.ได้เห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้น 

"เราได้มีการหารือเกี่ยวกับการปรับปรุงกระบวนการทำงานของสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเน้นการลดระยะเวลาในการดำเนินการต่างๆ และการสร้างความคาดหวังที่ชัดเจนเกี่ยวกับระยะเวลาที่ควรใช้ในการดำเนินการแต่ละขั้นตอน นอกจากนี้การเร่งรัดการพิจารณาคดีที่คั่งค้าง รวมถึงการปรับปรุงระบบการทำงานเพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความยุติธรรมได้อย่างรวดเร็ว"

     พร้อมกับเดินหน้าทำงานร่วมกับ "ตลาดหลักทรัพย์ฯ"อย่างไร้รอยต่อ เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้ง การสร้างความเข้าใจและการทำงานร่วมกันระหว่าง ตลาดหลักทรัพย์ฯ และ ก.ล.ต. จะช่วยให้สามารถเห็นปัญหาและประเด็นต่างๆได้เร็วขึ้นซึ่งจะทำให้กระบวนการทำงานมีความชัดเจนและลดเวลาดำเนินการ

     เมื่อตระหนักถึงการเดินหน้าผลักดันตลาดทุนในปี 2568 ทาง ก.ล.ต. และ ตลาดหลักทรัพย์ เตรียมประชุมหารือถึงแนวทางกำกับดูแลและส่งเสริมพัฒนาผู้มีส่วนร่วมในตลาดทุนไทยขึ้นในวันที่ 9 ธันวาคม 2567เพื่อให้ทุกฝ่ายได้เข้าใจถึงแนวทางที่จะมุ่งไปข้างหน้าร่วมกันได้อย่างชัดเจน

     อีกหนึ่งภารกิจสำคัญ นั่นก็คือ การปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานให้เป็นดิจิทัล ใช้เทคโนโลยีที่มีเข้ามาช่วยตรวจจับปัญหาต่างๆได้เร็วขึ้น (Early Detection) และสามารถส่งข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดช่องว่างเวลาในการดำเนินการ พร้อมกับปรับปรุงระบบให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วขึ้น โดยไม่ต้องเพิ่มภาระงานให้กับบุคลากร ซึ่งจะช่วยให้การดำเนินการต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

"การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบและการดำเนินการ โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัล,AIเข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูล,ตรวจสอบการซื้อขาย(Trading)และการตรวจจับปัญหา(Early Detection)ช่วยให้สามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่างๆได้เร็วขึ้นและลดเวลาในการดำเนินการ"

     ผลักดันสินทรัพย์ดิจิทัล

     โลกกําลังเข้าสู่ Digital Asset ถ้าเราเตรียมตัวไม่พร้อมหรือว่าวางกติการะเบียบไม่ทันอาจส่งผลกระทบ ดังนั้นการสร้างความร่วมมือในการตรวจสอบและการจัดการกับ Digital Asset พร้อมกับพัฒนากระบวนการตรวจจับตั้งแต่เริ่มต้นและการแทรกแซงเพื่อให้สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งกระบวนการทำงานต่างๆต้องทำร่วมกับหลายหน่วยงานเพื่อให้เดินไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง

"ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีมีมูลค่าสูงถึง 3 ล้านล้านบาทและยังสามารถเติบโตได้อีกมากในอนาคต ดังนั้นการจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้ง การหลอกลวงออนไลน์ต่างๆนั้นต้องเร่งดำเนินการ นั่นจึงเป็นที่มาของการเสนอแนวทางในการสร้างหน่วยงานเฉพาะเพื่อจัดการกับปัญหาดังกล่าว รวมถึงพัฒนากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อป้องกันการฉ้อโกงในอนาคตเช่นกัน"

     นอกจากนี้ เทคโนโลยีดิจิทัลช่วยให้สร้างสินทรัพย์ใหม่ๆ เช่น "คาร์บอนเครดิต" ที่สามารถนำมาซื้อขายในตลาดได้ ซึ่งจะช่วยขยายขอบเขตของตลาดทุน สร้างโอกาสใหม่ในตลาด อย่างไรก็ดี การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาตลาดทุนให้มีความทันสมัยและสามารถแข่งขันได้ในระดับโลก

     ท้ายที่สุด ภารกิจทั้งหมดที่ "ตลาดทุนไทย" เตรียมเดินหน้านั้นคงต้องผนึกกำลังกันทุกฝ่ายเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด ความสำเร็จนั้นจะเกิดเพียงฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่ได้อย่างแน่นอน.

ก.ล.ต. ปักหมุดพัฒนาตลาดทุนเพื่อความยั่งยืน หนุนการซื้อขาย “คาร์บอนเครดิต”

ขุนคลังสั่งการ"ก.ล.ต.-ตลท.-ปปง."งัดกฎหมายเข้มฟันหุ้นโกง ฟื้นเชื่อมั่น

จับตา 2 ประธานนักกฎหมาย ล้างบางโจรตลาดทุน

"อัสสเดช" พร้อมปราบบอสปั่นหุ้น ฟื้นเชื่อมั่น ดันหุ้นไทยสู่ไฟแนนเชียลฮับ

เปิดใจ ‘กิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์’ รื้อกฎหมายเชือดหุ้นปั่น! ยกระดับตลาดทุน

มาแน่! สิงหาคมนี้ "ยึดเงินก่อนตรวจสอบ" แก๊งปั่นหุ้น-ปั้นงบดุล อ่วม!

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.