SAK งบ 9 เดือน กำไรสุทธิ 608.4 ล้าน โต 12.3% พอร์ตสินเชื่อ 14,317.2 ล้าน พุ่ง 17.7%

          นายศิวพงศ์ บุญสาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SAK เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงาน 9 เดือนของปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.2567) พอร์ตสินเชื่อโดยรวมเพิ่มเป็น 14,317.2 ล้านบาท เติบโต 17.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 เกินเป้าหมายพอร์ตสินเชื่อรวมทั้งปี 2567 ที่วางไว้ที่ 14,300 ล้านบาท 

          ทั้งนี้ มีปัจจัยจากการเป็นฐานทุนในการประกอบอาชีพทั่วไป โดยเฉพาะอาชีพเกษตรกรรมที่มุ่งเพิ่มขีดความสามารถในการผลิต ภายใต้แนวคิด “สร้างรากฐาน สร้างงาน สร้างคน” ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการตอบโจทย์ความต้องการสินเชื่อครบในทุกมิติที่เข้าถึงได้ง่าย โดยบริษัทมอบสินเชื่อเพื่อสนับสนุนเกษตรกรที่กลับมาทำการเพาะปลูกหรือดำเนินกิจการต่างๆ รวมทั้งใช้เป็นฐานทุนหมุนเวียนหลังสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย   

          สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกปี 2567 (ม.ค.-ก.ย.) ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีกำไรสุทธิ 608.4 ล้านบาท เติบโต 12.3% และมีรายได้รวม 2,294 ล้านบาท เติบโต 13.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 

          นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถบริหารจัดการคุณภาพพอร์ตลูกหนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดและการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถควบคุมอัตราหนี้เสียให้อยู่ในระดับต่ำเพียง 2.5 % ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม

          “ศักดิ์สยามลิสซิ่ง มีความแข็งแกร่งในด้านการบริหารจัดการความเสี่ยงทางการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจลิสซิ่ง การที่บริษัทสามารถควบคุมอัตราหนี้เสียให้อยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมได้ มาจากการที่บริษัทมีกระบวนการคัดเลือกลูกค้าที่เข้มงวด มีระบบติดตามและควบคุมหนี้สินที่มีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม” นายศิวพงศ์ กล่าว 

          ส่วนแผนธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายปี 2567 บริษัทมุ่งดำเนินการภายใต้แนวคิด “สร้างรากฐาน สร้างงาน สร้างคน” เพื่อส่งเสริมเงินทุนให้กับประชาชนที่ต้องการประกอบอาชีพ โดยจะให้ความสำคัญสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพ มุ่งรักษาและเพิ่มคุณภาพหนี้และเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งจะรุกขยายสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และสินเชื่อโซลาร์ รูฟท็อป 

          ขณะที่สถานการณ์สินเชื่อช่วงไตรมาส 4/2567 ดีมานด์ของสินเชื่อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรเพื่อใช้เป็นฐานทุนสำหรับการเพาะปลูกอย่างต่อเนื่อง และมีปัจจัยบวกหลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 2.50% เป็น 2.25% ต่อปี ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทลดลง

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.