เทรดวอร์มาแน่! ชงรัฐบาลเร่งเคลียร์หนี้เสีย-SME-เปิดประเทศรับมือเต็มสูบ
"ประเทศไทยคือหนองน้ำน้อย แต่ว่าช้างสารจากเมืองจีนเลือกที่จะมาที่ไทย เพราะว่าหนองน้ำใหญ่มันแห้ง ตอนนี้ทะเลที่ยิ่งใหญ่ในตลาดโลกมันแห้งแต่เมื่อทะเลยิ่งใหญ่มันกว้างขวางแล้วก็มีน้ำมาเต็มไปหมด หมายความว่าสินค้าจากเมืองจีนที่เข้ามาตีตลาดไทยจะมีที่ไป ซึ่งสินค้าของเมืองไทยที่ต่อสู้ SME จะดีขึ้น แต่อยากฝากรัฐบาลทำ 3 เรื่องนี้ "เคลียร์หนี้เสีย - ช่วย SME - เปิดประเทศ" ถ้าทำได้ ไทยจะไปต่อได้"
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยจากนี้จะได้รับอานิสงส์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังจากการลดดอกเบี้ยลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการส่งออกดีขึ้น, นักท่องเที่ยวมีกําลังใจมาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น และเมื่อโลกดีขึ้น สินค้าจีนจะมีตลาดที่กว้างใหญ่มากขึ้น สินค้าของไทยที่ต่อสู้ SME จะดีขึ้น แม้สิ่งที่ต้องติดตามคือผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ซึ่งไม่ว่าฝั่งไหนชนะย่อมเกิดเทรดวอร์อย่างแน่นอน เพียงแต่จะส่งผลมากหรือน้อยเท่านั้น
สิ่งที่อยากฝากรัฐบาลเตรียมพร้อมกับเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวและเตรียมตัวรับการค้าโลกในอนาคต เรื่องแรก คือ "หนี้เสีย" ถือเป็นตัวบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้ดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับไทยจะสามารถเคลียร์หนี้เสียได้หรือไม่ โดยเฉพาะหนี้เสียในภาคของรายย่อยต้องเคลียร์ให้ได้ถึงจะไปต่อได้
เรื่องที่สอง คือ SME ปัญหาค่อนข้างเยอะ ในอนาคตหากไม่ปรับตัวเรื่องของเทคโนโลยีอาจจะไปต่อไม่ได้ ดังนั้นรัฐบาลจะมีนโยบายเพื่อมาเอื้อต่อการปรับตัวของ SME ไทยและช่วย SME ที่ถูกกระทบจากสินค้าจีนให้ฟื้นตัวพร้อมเข้าถึงสินเชื่อได้ ซึ่งทาง บสย.อยากให้รัฐบาลช่วยกระตุ้นตรงนี้
สุดท้าย เรื่องที่สาม คือ อยากให้รัฐบาลเดินหน้าให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยเต็มที่ โดยเฉพาะการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment : FDI) ซึ่งการได้ดาต้าเซ็นเตอร์เข้ามาลงทุนถือเป็นเรื่องที่ดีแต่ยังดีไม่พอ ส่วนตัวคิดว่าต้องทําให้มากกว่านี้ อาทิ การเปิดประตูบ้านให้กว้างในการดึงดูด FDI เข้ามาเต็มที่
ประกาศนโยบาย Open Thailand เปิดประเทศเดินหน้าให้สตาร์ทอัพหรือบริษัทจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนอย่างสะดวก สมมุติบริษัทไหนลงทุนมากกว่า 10,000 ล้านบาทฟาสต์แทรคเต็มที่ หรือ ใครเข้าลงทุนช่วงนี้ให้โปรโมชั่นพิเศษเข้าออกประเทศได้ และได้การ์ดพิเศษสามารถเข้าออกได้ สามารถจ้างงานต่างๆได้แบบพิเศษ 1 ปีเต็มด้วยนโยบายพิเศษนี้เป็น Thailand Investment Yeah ช่วยกระตุ้นการลงทุนและทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง
โค้งสุดท้ายหุ้นไทย
แนวโน้มการลงทุนในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้คาดว่าจะฟื้นตัว แต่ที่กังวลและมองไม่ทะลุคือ ผลการเลือกตั้งของสหรัฐฯจะได้สรุปแบบไหน ถ้าหาก "กมลา" มาสงครามการค้าคาดว่าไม่แรงมาก แต่หากเป็น "ทรัมป์" คาดว่าจะมีมาตรการแปลกใหม่ตลอดเวลานี่คือสิ่งที่ต้องติดตามและน่าจะได้คำตอบในวันพุธนี้
ทั้งนี้ สมาคมนักวิเคราะห์ประเมินดัชนีหุ้นไทยสิ้นปี 2567 แตะระดับ 1,494 จุด พร้อมประเมินภาพหุ้นไทยในปี 2568 คาดแตะระดับ 1,614 จุด ผลจากการลดดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เบรกก็คือสงครามใหญ่ ซึ่งทรัมป์บอกว่าไม่มีสงคราม ถ้าหากไม่มีสงคราม ประกอบกับมีการลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง แน่นอนว่าไทยจะได้รับอานิสงส์บวก
โดยกลุ่มที่น่าสนใจ คือ กลุ่มท่องเที่ยว, COMMERCE, การเงิน ธนาคารกำไรดีพอสมควร ช่วงเศรษฐกิจฟื้นแบงก์จะดีขึ้น ถ้าคลี่คลายเรื่องหนี้ครัวเรือนได้จะช่วยให้หนี้ NPL ของแบงก์เบาลง แต่ช่วงเศรษฐกิจไม่ดีจะโดนกดเรื่องมาร์จิ้นและโอกาสปล่อยสินเชื่อลดลง
"ภาพในอนาคตเราคงเดินไปกับกลุ่มเดิม สิ่งที่เราเข้มแข็งคือ ท่องเที่ยว,ศูนย์แพทย์,อาหาร แต่ต้องใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ และเราต้องลุยเทคโนโลยี พวกแอนิเมชัน(Animation), ความคิดสร้างสรรค์ทางดิจิทัล(Digital Creativity)และการเปลี่ยนผ่านสีเขียว(Green Transition),พลังงานหมุนเวียน(Renewable Energy)และธีมการลงทุนในต่างประเทศเพราะไทยไม่ค่อยโตหรือโตได้ไม่ดีมากนัก ดังนั้นบริษัทที่ไปโตในต่างประเทศจะน่าสนใจ"
เลือกตั้งสหรัฐสูสี SETวันนี้แกว่งกรอบ 1,455-1,475 จุด หลบภัยซบ 5 หุ้นกำไรดี
4 กูรู "หุ้น-ทองคำ-คริปโท" ผ่าเกมลงทุน เลือกตั้งสหรัฐฯ "ทรัมป์ - แฮร์ริส"
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.