คลัง ได้กฤษ์ชง "หวยเกษียณ" เข้าครม.พ.ย.นี้ ดีเดย์ขายภายในไตรมาส1/68
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการ “สลากออมทรัพย์เพื่อการเกษียณ (หวยเกษียณ)” ว่า คาดว่าจะสามารถเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ภายในเดือน พ.ย. 2567 หลังจากนั้นจะเป็นไปตามกระบวนการของสภาผู้แทนราษฎร โดยเบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มจำหน่ายหวยเกษียณได้ภายในไตรมาส 1/2568
ทั้งนี้ การดำเนินนโยบายดังกล่าวจะผ่านกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ซึ่งจะต้องมีการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กอช. โดยเฉพาะการปรับปรุงเงื่อนไขในการขยายอายุผู้มีสิทธิ์ซื้อหวยเกษียณ จากเดิมกำหนดที่ 15-60 ปี เป็นผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ก็สามารถซื้อหวยเกษียณได้ แต่จะต้องถือบัญชีซื้อหวยเกษียณไว้ต่อเนื่อง 10 ปี จึงจะสามารถถอนเงินออกมาได้ และหากกรณีเสียชีวิต เงินดังกล่าวจะตกเป็นมรดกให้กับทายาท หรือผู้ได้รับผลประโยชน์ที่ระบุไว้
ความคืบหน้าตอนนี้ คือ ต้องรอความเห็นของ กอช. ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมการ กอช. ในวันที่ 11 พ.ย. นี้ หลังจากนั้นจะนำความเห็นและรายละเอียดทั้งหมดเสนอต่อที่ประชุม ครม. โดยมั่นใจว่านโยบายนี้ จะช่วยรักษาเสถียรภาพ และลดภาระทางการคลังของภาครัฐในระยะยาว ทำให้ประชาชนมีความมั่นคงด้านรายได้ เมื่อเกษียณอายุ
สำหรับหวยเกษียณนั้น จะมีลักษณะเป็น สลากขูดดิจิทัล จำหน่ายใบละ 50 บาท ซื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน ออกรางวัลทุกวันศุกร์ เงินรางวัล แบ่งเป็น รางวัลที่ 1 มูลค่า 1 ล้านบาท จำนวน 5 รางวัล และ รางวัลที่ 2 มูลค่า 1,000 บาท จำนวน 10,000 ราววัล โดยผู้ถูกรางวัลจะได้รับเงินภายในวันถัดไป และหากรางวัลออกไม่ครบ จะทบไปงวดถัดไป
อย่างไรก็ดี นายเผ่าภูมิ ยังได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “วินัยการออม เสาหลักสู่ความยั่งยืนในสังคมไทย” ในงานวันออมแห่งชาติ ว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญภาวะแก่ก่อนรวย ซึ่งมีผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ จากวัยแรงงานลดลง ส่งผลให้การจัดเก็บรายได้ของรัฐลดลง และค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้สูงอายุสูงขึ้นแบบขั้นบันได ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของรัฐ ที่ต้องบริหารจัดการ โดยการกระจายรายได้ เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม
โดยโจทย์ใหญ่ของรัฐบาลในขณะนี้ คือ ทำอย่างไรให้ผู้สูงอายุมีรายได้ในวัยเกษียณที่เพียงพอต่อการดำรงชีพ และไม่กลายเป็นกลุ่มเปราะบางในสังคม
อยากให้คนไทย ร่วมกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ให้ความสำคัญกับการออมเพื่อการเกษียณ อย่ามองเป็นเรื่องไกลตัว เพราะเริ่มต้นเร็วย่อมได้เปรียบ เพราะขณะนี้ครัวเรือนไทย ตระหนักถึงการออมค่อนข้างต่ำ มีพฤติกรรมจ่ายก่อนและออมทีหลัง ซึ่งเงินออมที่ไม่เพียงพอ ทำให้คนยากจนในวัยเกษียณ และเกิดความไม่ยั่งยืนทางการคลังของรัฐ
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.