โกโกลุก เลือกไทยเป็นฮับในอาเซียน ยกระดับป้องกันภัยการฉ้อโกง

จุดเริ่มต้นจากเคยโดนหลอกสู่บริษัทระดับโลก

          เจฟฟ์ กัว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทโกโกลุก ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน Whoscall พาเล่าย้อนหลังไปเมื่อ 14 ปีที่ผ่านมาถึงจุดกำเนิดในการก่อตั้งบริษัทว่า ในสมัยเรียนตนเองถูกหลอกว่าได้รับรางวัลใหญ่ แต่ก่อนรับเงินรางวัล ต้องเสียภาษีก่อน จึงรู้สึกไม่แน่ใจ ทำให้เกิดการหาข้อมูลก่อนและพบว่า มันไม่จริง เป็นการหลอกลวง ซึ่งสำนักงานใหญ่แห่งแรกของบริษัทอยู่ที่ไต้หวัน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2555 จากนั้นก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

          เป้าหมายของบริษัทคือ ต้องการสร้างความน่าเชื่อถือ ขณะที่ประชาชนทั่วไปเชื่อว่าสิ่งที่เกิดบนโลกอินเทอร์เน็ต คือ ความจริง มิจฉาชีพออนไลน์ มีพัฒนาการในการหลอกลวงอยู่ตลอดเวลา เริ่มแรกจากการเป็นเพียงแค่สร้างมัลแวร์ จากนั้นก็เป็นการสร้าง ดาร์กเว็บ พัฒนาการสู่ การสแกม และกำลังก้าวสู่เทรนด์ใหม่ การหลอกลวงด้วย Deep Fake 

          มิจฉาชีพมีการนำเทคโนโลยี AI มาใช้หลอกลวงประชาชนมากขึ้น ขณะที่ทั่วโลกเอง ก็เริ่มมีการกดดันให้ภาคเอกชนมีส่วนรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชนด้วย เช่น อังกฤษ ที่เริ่มบังคับให้ธนาคารต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดกับประชาชน ขณะที่ประเทศไทยเอง ก็เริ่มมีการพูดถึงบทบาทดังกล่าวด้วย ทำให้กลายเป็นโอกาสอันดีที่บริษัทจะขยายตลาดองค์กร จากเดิมที่  Whoscall เป็นบริการที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายสำหรับลูกค้าคอนซูเมอร์

เจฟฟ์ กัว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทโกโกลุก

          แต่ละประเทศมีรูปแบบการถูกหลอกลวงที่แตกต่างกัน ประเทศไทย กับ มาเลเซีย มักถูกหลอกจากการโทรหลอกลวง ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ ถูกหลอกจากการส่ง SMS ขณะที่ญี่ปุ่นถูกหลอกผ่านการส่งอีเมล์

ธุรกิจเผชิญความท้าทายจากมิจฉาชีพมากขึ้น

          ผลการศึกษาวิจัยเรื่องต้นทุนที่แท้จริงของการฉ้อโกงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกประจำปี 2566 (2023 True Cost of Fraud Study Asia Pacific), พบว่า 58% ของบริษัทในภูมิภาคนี้ต้องรับมือกับการฉ้อโกงจากมิจฉาชีพเพิ่มขึ้น บริษัทต้องมีค่าใช้จ่ายที่นำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาจากการหลอกลวง เช่น การดำเนินคดีความกับผู้กระทำความผิด และค่าชดเชย เฉลี่ยอยู่ที่ 100 บาท (4 ดอลลาร์สิงคโปร์)  ต่อทุกๆ 25 บาท (1 ดอลลาร์สิงคโปร์) ที่สูญเสียไป โดยบริษัทค้าปลีกจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 80 บาท ต่อทุกๆ 25 บาท หรือ  (3.07 ดอลลาร์สิงคโปร์) ในขณะที่สถาบันการเงินจะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยสูงถึง 128 บาท ต่อทุกๆ 25 บาท หรือ (4.59 ดอลลาร์สิงคโปร์)

          นอกจากนี้รายงานสถานการณ์การหลอกลวงจากมิจฉาชีพในภูมิภาคเอเชียประจำปี 2567 (Anti-Scam Asia Report 2024) ที่จัดทำโดย องค์กรต่อต้านกลโกงระดับโลก Global Anti-Scam Alliance (GASA) ร่วมกับ ScamAdviser ได้ประเมินมูลค่าความเสียหายที่ประชากรและธุรกิจได้รับจากการหลอกลวงทางไซเบอร์ใน 13 ประเทศทั่วภูมิภาคสูงถึง 688.42 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

          การปรากฎตัวและการแพร่กระจายของเทคโนโลยี AI เป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้สถานการณ์การหลอกลวงในภาคธุรกิจมีความน่าเป็นห่วงมากขึ้น เพราะมิจฉาชีพได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI เพื่อก่ออาชญากรรมอย่างแพร่หลาย อาทิเช่น การขโมยข้อมูลส่วนบุคคล (identity thef) การแอบอ้างเป็นบุคคลอื่นในรูปแบบต่างๆ (impersonation scams)  

          รวมถึงการนำเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อหลีกเลี่ยงกระบวนการยืนยันตัวตนลูกค้า (Know Your Customer or KYC)  ส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมต่อต้านการหลอกลวงทั่วโลกจะมีมูลค่าสูงถึง 129.2 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2572 จากความต้องการของรัฐบาลและธุรกิจทั่วโลกในการแสวงหาเครื่องมือเพื่อปกป้องภัยจากมิจฉาชีพ

จับมือ ScamAdviser ต่อยอดโซลูชันป้องกันการหลอกหลวงองค์กร 

          โกโกลุกได้ผนึกการให้บริการโซลูชันสำหรับธุรกิจร่วมกับ ScamAdviser เพื่อต่อยอดโซลูชันที่ออกแบบมาสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ไปจนถึงธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ให้สามารถรับมือกับภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ภายใต้กลยุทธ์นี้ทำให้บริษัทมีข้อมูลต่อต้านการหลอกลวงคุณภาพสูงที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบด้วยหมายเลขโทรศัพท์กว่า 2,600 ล้านเลขหมาย รวมถึง โดเมน  (domain) ที่อันตราย รายชื่อ URL ลิงก์ที่มีความเสี่ยง ลิสต์สกุลเงินดิจิทัล และกระเป๋าเงินดิจิทัล 

          กว่า 60 ล้านรายการ ที่นอกจากช่วยให้บริษัทสร้างฐานข้อมูลในการต่อต้านการหลอกลวงทางดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ยังช่วยให้บริษัทสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาผสานเข้ากับความเชี่ยวชาญด้าน AI มาวิเคราะห์ และจำลองรูปแบบการหลอกลวง เพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์ที่จะช่วยป้องกันการหลอกลวงองค์กรที่เหนือระดับ และขยายโอกาสในการดำเนินธุรกิจไปยังภูมิภาคต่างๆทั่วโลก 

          ปัจจุบันโซลูชันสำหรับธุรกิจประกอบด้วย Anti-Scam Intelligence (ASI Solutions), บริการ Watchmen Reputation Protection Service และบริการ Identity Suite ที่ช่วยปกป้องชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของธุรกิจในทุกอุตสาหกรรม

4 เหตุผล เลือกไทยเป็นฮับในอาเซียน

          แล้วทำไม โกโกลุก จึงเลือก ประเทศไทย เป็นสำนักงานใหญ่แห่งที่ 2 เพื่อเป็นฮับในภูมิภาคอาเซียนนี้ เจฟฟ์ กัว อธิบายถึง 4 เหตุผลในการเลือกประเทศไทยและแบ่งงบลงทุนมาที่ประเทศไทย 10 % ว่า ประการแรกคือ ประเทศไทยมีสแกมเกิดขึ้นจำนวนมาก ทำให้ประการที่สอง ภาครัฐและเอกชนให้ความสำคัญและให้ความร่วมมือในการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ประการที่สามคือที่ตั้งภูมิศาสตร์ของประเทศไทยเหมาะกับการเป็นฮับในภูมิภาค และที่สำคัญ ประการสุดท้าย Whoscall ในประเทศไทยมีการเติบโตสูง ปัจจุบันมียอดดาวน์โหลด 25 ล้านดาวน์โหลด

โซลูชันสำหรับธุรกิจในประเทศไทย

          Watchmen Reputation Protection Service ประกอบด้วย

1.Whoscall Verified Business Number หรือ VBN ช่วยยืนยันเบอร์โทรศัพท์ของธุรกิจ เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจในความถูกต้องของสายเรียกเข้า ธุรกิจสามารถใช้โซลูชันนี้เพื่อเสริมสร้างการสื่อสารกับลูกค้า ปกป้องภาพลักษณ์ของแบรนด์ และป้องกันความเสียหายต่อชื่อเสียงจากการถูกแอบอ้าง โดยเบอร์โทรศัพท์ที่ได้รับการยืนยันแล้วจะแสดงชื่อ โลโก้ จุดประสงค์ของการติดต่อ และเครื่องหมายการยืนยัน

2.ระบบเตือนภัยล่วงหน้าเกี่ยวกับการฉ้อโกง (Fraud Early Warning System) เป็นระบบอัจฉริยะที่ให้บริการครบวงจร ทั้งการตรวจสอบ การแจ้งเตือนล่วงหน้า และการป้องกันจากการโทร ข้อความ โดเมน URL หรือโซเชียลที่อาจเป็นภัยต่อองค์กร

          ปัจจุบันมีลูกค้าองค์กรและเอสเอ็มอีในภาคส่วนต่างๆ ตั้งแต่โลจิสติกส์ สถาบันการเงิน ประกันภัย และอสังหาริมทรัพย์ กว่า 100 บริษัทลงทะเบียนเพื่อยืนยันหมายเลขธุรกิจบน บริการ Whoscall Verified Business Number

          สำหรับแผนงานในอนาคตของบริษัท โกโกลุกมีแผนที่จะขยายบริการไปยังภาคเทคโนโลยีทางการเงิน และนำเสนอโซลูชันเพื่อป้องกันภัยจากอาชญกรรมไซเบอร์ให้เข้ากับความต้องการของภาคธุรกิจต่างๆ ทั้ง สถาบันการเงิน โทรคมนาคม และผู้ให้บริการทั้งหมดบนอินเทอร์เน็ต

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.