PTTEP ไตรมาส 3/67 กำไรสุทธิ 1.79 หมื่นล้าน งวด 9 เดือนทำได้ 6.05 หมื่นล้าน

     นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เปิดเผยว่า ในไตรมาส 3/2567 นี้ บริษัทมีความคืบหน้าในการดำเนินงานโครงการในต่างประเทศ โดยโครงการอาบูดาบี ออฟชอร์ 2 ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้รับการอนุมัติแผนพัฒนาโครงการจากหน่วยงานรัฐบาลของอาบูดาบีแล้ว โดยคาดว่าจะตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) ได้ในปี 2568 เพื่อเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมและอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติให้บริษัทในอนาคต

     ส่วนการดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาและการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในองค์กร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานด้านต่างๆ รวมทั้งช่วยลดระยะเวลาและลดค่าใช้จ่าย โดยช่วงที่ผ่านมา ปตท.สผ.ได้พัฒนาโครงการ DigitalX ขึ้น ซึ่งเป็นการพัฒนาและประยุกต์ใช้โครงการนวัตกรรมดิจิทัล เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานอย่างครบวงจร เช่น เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และ Machine Learning ที่ช่วยวิเคราะห์และประมวลข้อมูลทั่วทั้งห่วงโซ่ธุรกิจของ ปตท.สผ.ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เช่น ช่วยการเจาะหลุมปิโตรเลียม กระบวนการผลิต การบริหารจัดหาจัดส่งวัสดุอุปกรณ์ โดยมีการเชื่อมฐานข้อมูลที่เชื่อถือได้ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และมีระบบบริหารจัดการทรัพยากรที่ทันสมัย ภายใต้มาตรการความปลอดภัยเชิงรุก

     นอกจากนี้ ปตท.สผ. กำลังพัฒนาและทดสอบเทคโนโลยี หุ่นยนต์และอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานที่แท่นผลิตปิโตรเลียมนอกชายฝั่ง ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถและความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน ลดความเสี่ยง ลดระยะเวลาในการทำงาน เช่น โดรนสำหรับขนส่งอุปกรณ์ และเวชภัณฑ์ที่จำเป็น (Delivery Drone) ระหว่างแท่นผลิตในอ่าวไทย ซึ่งช่วยให้การเคลื่อนย้ายเครื่องมือ อุปกรณ์การผลิต และอื่น ๆ สามารถดำเนินการได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และโดรนสำหรับตรวจสอบสภาพภายนอกของแท่นผลิตและตรวจการ (Inspection Drone) เพื่อยืดอายุการใช้งานของโครงสร้างแท่นผลิตรวมถึงป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที

     “ในช่วงที่ผ่านมา ปตท.สผ.ได้พัฒนาและนำนวัตกรรมเทคโนโลยี หุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ เข้ามาประยุกต์ใช้ในการดำเนินงานด้านต่างๆ เช่น โครงการ DigitalX หุ่นยนต์ที่ปฏิบัติงานใต้ทะเล และเทคโนโลยีอื่นๆผ่านบริษัทในเครือ และ ปตท.สผ.เอง การพัฒนาดังกล่าว ดำเนินการควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพบุคลากร โดยการเรียนรู้ ถ่ายทอดความรู้ ประยุกต์ใช้ ทดลอง และต่อยอด ตามแนวทางการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ เพื่อขยายขีดความสามารถและประสิทธิภาพในการดำเนินงานทั้งด้านการสำรวจและการพัฒนาแหล่งพลังงานในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นอีกส่วนสำคัญในการสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กรและประเทศ”

     สำหรับ ผลประกอบการในรอบ 9 เดือนของปี 2567 ปตท.สผ.มีรายได้รวม 247,119 ล้านบาท (เทียบเท่า 6,912 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (สรอ.)) มีปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ยเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอัตราการผลิตปิโตรเลียมของโครงการ G1/61 ที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

     ขณะที่ ราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยลดลงเล็กน้อย อยู่ที่ 47.11 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ จากการปรับตัวลดลงของราคาก๊าซธรรมชาติ จึงส่งผลให้รอบ 9 เดือนของปีนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิ 60,517 ล้านบาท (เทียบเท่า 1,688 ล้านดอลลาร์ สรอ.)

     นำส่งรายได้ให้รัฐกว่า 43,300 ล้านบาท

     ในรอบ 9 เดือนของปี 2567 ปตท.สผ.ได้นำส่งรายได้ให้กับรัฐในรูปของภาษีเงินได้ ค่าภาคหลวง และส่วนแบ่งผลประโยชน์อื่นๆจำนวนกว่า 43,300 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศด้านต่างๆ เช่น การพัฒนาชุมชน การศึกษา และการวิจัยและพัฒนา เป็นต้น นอกจากนี้ส่วนแบ่งผลผลิตปิโตรเลียมจากโครงการ G1/61 และ G2/61 ภายใต้สัญญาแบ่งปันผลผลิต(PSC)ยังเป็นรายได้อีกส่วนหนึ่งที่รัฐได้รับโดยตรงจากการผลิตปิโตรเลียมของบริษัท เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศอีกด้วย

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.