คัดให้ 12 หุ้นเป้าหมาย "กองทุน ThaiESG" จ้องซื้อ

คัด 12 หุ้นน่าสนรับกองทุน THAIESG

     นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน กล่าวว่า แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเผยการประชุม ครม.วันนี้(30 ก.ค.67) รมว.คลังจะเสนอที่ประชุมพิจารณาร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของไทย (กองทุน ThaiESG) เกณฑ์ใหม่ หลักๆ คือ 1)ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน 2)ซื้อสูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท (เดิมสูงสุด 100,000 บาท) 

     3)ระยะเวลาถือครอง 5 ปี (นับจากวันที่ซื้อ) จากเดิม 8 ปี และ 4)การปรับเงื่อนไขลงทุนที่ครอบคลุมหุ้น 200 บริษัทจากเดิม 128 บริษัท หลัง ครม.อนุมัติจะมีการประกาศเงื่อนไขหุ้นที่กองทุนลงทุนได้ใน 2 สัปดาห์ KSS มองบวกต่อความคืบหน้าดังกล่าว โดยคาดเม็ดเงินใหม่เข้าสู่ตลาดเดือนละ 5-6 พันล้านบาท 

     จากการศึกษาช่วงที่มีกองทุนคล้ายกัน LTF และเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงฟื้นตัวดังเช่นปัจจุบันในปี 2012-2013 ทุกๆ 10,000 ล้านบาท จะหนุน SET ราว 20-25 จุด

     ชุดหุ้นที่คาดได้อานิสงส์ทางบวกเบื้องต้น คือ กลุ่มหุ้นปัจจุบันที่อยู่ในดัชนี SETESG และมีน้ำหนักสูง ผสานกลุ่มที่มีพื้นฐานแกร่งในปัจจุบันคาดจะเห็นการเพิ่มน้ำหนักมากขึ้น อาทิ ADVANC (น้ำหนักใน SETESG 5.2%) CPALL* (5.1%) AOT*(5%) GULF*(5%) SCC(2.8%) CPN (2.6%) INTUCH (2.45%) CPF(2.1%) CRC*(1.96%) MINT*(1.7%) SCGP*(1.15%) BEM*(1.09%) 

     ทั้งนี้ ในกลุ่มที่มีเครื่องหมาย * คือ กลุ่มที่ยอด Short Sales คงค้างที่ยังไม่ปิดสถานะมากกว่า 0.5% ของทุนชำระแล้ว

 

เปิดโผ 54 หุ้นรับกองทุน THAIESG ใหม่

     ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ก่อนหน้านี้ในช่วงต้นเดือนมีกระแสข่าวว่าเตรียมนำกองทุน TESG เข้า ครม. ในช่วงกลางสัปดาห์จึงทำให้เห็นเม็ดเงินซื้อสุทธิหุ้นไทยของสถาบันกว่า 4.6 พันล้านบาท (ช่วง 1 -10 ก.ค.67) แต่หลังจากนั้นกระแสข่าวที่หายไปจึงทำให้สถาบันขายสุทธิหุ้นไทยจนยอดสุทธิอยู่ที่ -556 ล้านบาท (MTD) อย่างไรก็ตามวันนี้มีกระแสข่าวว่า คลังเตรียมชงกองทุน TESG เข้า ครม. จึงเป็นไปได้ว่าเม็ดเงินจากฝั่งสถาบันจะกลับมาซื้อสุทธิ SET และหนุนดัชนีปรับตัวขึ้นช่วงสั้นได้

     ซึ่งเม็ดเงินที่คาดหวังจากกองทุน THAIESG ใหม่ ที่ไหลกลับเข้ามาหนุนตลาดหุ้น ฝ่ายวิจัยฯคาดว่าจะมีเม็ดเงินหนุนราว 40,000 - 50,000 ล้านบาท ตามการเปรียบเทียบด้านเม็ดเงินที่สามารถนำมาลดหย่อยภาษีได้กับกองทุน LTF เดิม โดยเม็ดเงินที่หนุน SET ทุกๆ 10,000 ล้านบาท มักหนุนให้ SET ขยับขึ้นได้ 1 - 2%

     ส่วนกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัยฯแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้

     1.คัดกรองหุ้นใน SETESG ที่มี ESG RATINGS อยู่ในระดับสูงสุด “AAA” และยังมี CG REPORT อยู่ในระดับ "ดีเลิศ" หรือ 5 คะแนน น่าจะเป็นหุ้นเป้าหมายอันดับต้น ที่เม็ดเงินของนักลงทุนสถาบันฯ และเม็ดเงินจาก THAIESG FUND ใหม่จะไหลเข้า ได้ผลลัพธ์ 29 บริษัท ซึ่งหุ้นในกลุ่มดังกล่าวที่น่าสนใจ อาทิ ADVANC , CPALL , KBANK , SCC , CRC , PTTGC , TISCO , BGRIM , CKP , STA , AMATA , THCOM เป็นต้น

     2.คัดกรองหุ้นใน SETESG ที่มี ESG RATINGS อยู่ในระดับสูงลองลงมา “AA” ที่ราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปี(YTD) ปรับฐานลงมาลึกบวกกับปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต อาทิ IVL , AP , BCH , HMPRO , GPSC , PLANB , CPN , BJC เป็นต้น

     กองทุน THAIESG ใหม่ น่าจะจูงใจให้คนเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น ทั้งในมุม VALUATION ที่น่าสนใจ การเติบโตที่ยั่งยืน อีกทั้งข้อบังคับระยะเวลาการถือครองยังสั้นสุดเมื่อเทียบกับกองทุนประหยัดภาษีอื่นๆ ทั้ง LTF และ SSF

      โดยกลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นในกลุ่มที่มี ESG RATING “AA-AAA” ที่ราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปีปรับฐานลงมาลึก(รวมกลยุทธ์หุ้นกลุ่ม 1 และ 2) อาทิ PTTGC , SCC , CRC , SCGP , BGRIM , IVL , AP , BCH , HMPRO , GPSC , PLANB , CPN , BJC เป็นต้น

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.