29 หุ้น เป้าหมายกองทุน ThaiESG ใหม่ หนุนเม็ดเงินไหลเข้าตลาดหุ้น 4-5 หมื่นล้าน

นักลงทุนยังคงจับตากองทุน ThaiESG จะถูกนำเสนอเข้าสู่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อไหร่ หลังจากมีการปรับเงื่อนไข เพิ่มวงเงินลดหย่อนภาษี 30% ไม่เกิน 3 แสนบาท/ปี จากเดิมไม่เกิน 1 แสนบาท/ปี และลดระยะเวลาการถือครองเหลือ 5 ปี จากเดิม 8 ปี ซึ่งหากผ่านการอนุมัติของ ครม. เป็นไปได้ว่าเม็ดเงินจากฝั่งสถาบันฯ จะกลับมาซื้อสุทธิ SET และหนุนดัชนีปรับตัวขึ้นช่วงสั้นได้ แต่หากยังไม่เข้า ครม. อาจเห็นเม็ดเงินจากสถาบันฯ ที่เก็งกำไรมาก่อนหน้าไหลออก กดดันตลาดหุ้นในช่วงสั้นได้เช่นกัน 

ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ประเมินว่า เม็ดเงินจากสถาบันฯ มีโอกาสเอนเอียงหนุนในตลาดหุ้นไทยมากกว่าตราสารหนี้ เนื่องจากหากพิจารณา AUM กองทุน ThaiESG ณ เดือน พ.ค.2567 ทั้งหมด 6.8 พันล้านบาท (32 กองทุน) มีตัวเลือกเป็นกองทุนตราสารหนี้ ESG เพียงกองเดียว รวมถึงประเด็นความกังวลการผิดนัดชำระหนี้ในหุ้นกู้อื่นๆ ในปัจจุบันอาจทำให้สถาบันฯ เน้นออกกองทุน ThaiESG ใหม่เป็นกองทุนหุ้นมากกว่ากองทุนตราสารหนี้ได้ หนุนเม็ดเงินน่าจะไหลเข้ามาในตลาดหุ้นได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย

ส่วนเม็ดเงินที่คาดหวังจาก ThaiESG ใหม่ ที่ไหลกลับเข้ามาหนุนตลาดหุ้นราว 4-5 หมื่นล้านบาท ตามการเปรียบเทียบด้านเม็ดเงินที่สามารถนำมาลดหย่อยภาษีได้กับกองทุน LTF เดิม ซึ่งเม็ดเงินที่หนุน SET ทุกๆ 1 หมื่นล้านบาท มักหนุนให้ SET ขยับขึ้น
ได้ 1-2%

โดยกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัยฯ ทำการคัดกรองหุ้นที่กองทุน ThaiESG ถือเยอะสุด 9 อันดับ คือ CPALL, AOT, PTT, DELTA, GULF, PTTEP, CPAXT, CPN และ BDMS

นอกจากนี้ ยังคัดกรองหุ้นใน SETESG ที่มี ESG RATINGS อยู่ในระดับสูงสุด “AAA” (มีคะแนนเกิน 90 จาก 100 คะแนน) และยังมี CG REPORT อยู่ในระดับ “ดีเลิศ” หรือ 5 คะแนน น่าจะเป็นหุ้นเป้าหมายอันดับต้น ที่เม็ดเงินของนักลงทุนสถาบันฯ และเม็ดเงินจากกองทุน ThaiESG ใหม่จะไหลเข้า ได้ผลลัพธ์ 29 บริษัท ประกอบด้วย PTT, ADVANC, PTTEP, CPALL, KBANK, SCC, KTB, CPF, OR, CRC, PTTGC, SCGP, TOP, KTC, WHA, TISCO, BGRIM, BANPU, BCP, BPP, CKP, STA, STGT, AMATA, WHAUP, PR9, THCOM, SABINA และ M-CHAI 

ก็คงต้องลุ้นกันว่าจะว่ากองทุน ThaiESG จะผ่านการอนุมัติจาก ครม. และเริ่มซื้อขายได้ตั้งแต่เดือน ก.ย.2567 ตามที่กระทรวงการคลังตั้งใจไว้หรือไม่