"EA" ดิ่งฟลอร์! เช็คลิสต์ "หุ้น" โดนแรงกระแทกฉ่ำ

     ทันทีที่ ตลาดหลักทรัพย์ฯปลดเครื่องหมาย "SP" หุ้น "EA" เปิดการซื้อขายในช่วงเช้าวันนี้ (16 กรกฎาคม 2567) ร่วงติดฟลอร์ที่ 9.15 บาท ลดลง 3.95 บาท หรือลดลงมากกว่า 30% มูลค่าการซื้อขาย 67 ล้านบาท จากนั้นเพียงเสี้ยววิ กลับปิดที่ 9.20 บาท คิดเป็น -29.77% มูลค่าการซื้อขาย 113.41 ล้านบาท

     หุ้น BYD ปิดการซื้อขายเช้านี้ที่ 1.17 บาท ลดลง -0.08 บาท คิดเป็น -6.40% มูลค่าการซื้อขาย 158.18 ล้านบาท ราคาขึ้นสูงสุด 1.28 บาท และลดลงต่ำสุด 1.14 บาท

     หุ้น NEX ปิดที่ 1.03 บาท ลดลง -0.05 บาท คิดเป็น -4.63% มูลค่าการซื้อขาย 162.72 ล้านบาท ราคาขึ้นสูงสุด 1.19 บาท และลดลงต่ำสุด 0.99 บาท

     หุ้น SCB ปิดที่ 102.50 บาท ลดลง -0.50 บาท คิดเป็น -0.49% มูลค่าการซื้อขาย 323.56 ล้านบาท ราคาขึ้นสูงสุด 103.50 บาท และลดลงต่ำสุด 102.50 บาท

     หุ้น TTB ปิดที่ 1.78 บาท เพิ่มขึ้น +0.01 บาท คิดเป็น +0.56% มูลค่าการซื้อขาย 179.49 ล้านบาท ราคาขึ้นสูงสุด 1.78 บาท และลดลงต่ำสุด 1.76 บาท

     หุ้น KBANK ปิดที่ 126 บาท เพิ่มขึ้น +1.50 บาท คิดเป็น +1.20% มูลค่าการซื้อขาย 361.39 ล้านบาท ราคาขึ้นสูงสุด 126.50 บาท และลดลงต่ำสุด 125 บาท

     หุ้น BBL ปิดที่ 133.50 บาท เพิ่มขึ้น +0.50 บาท คิดเป็น +0.38% มูลค่าการซื้อขาย 380.60 ล้านบาท ราคาขึ้นสูงสุด 134 บาท และลดลงต่ำสุด 132.50 บาท

     หุ้น KTB ปิดที่ 17.40 บาท ลดลง -0.10 บาท คิดเป็น -0.57% มูลค่าการซื้อขาย 101.63 ล้านบาท ราคาขึ้นสูงสุด 17.50 บาท และลดลงต่ำสุด 17.30 บาท

     "บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA" แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบฐานะทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นจากภาระหนี้สินโดยเฉพาะเงินกู้และหุ้นกู้ที่จะครบกําหนดชําระภายในปี 2567 โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2567 บริษัทฯมีหนี้สินเงินต้นที่จะครบกําหนดชําระภายในปี 2567 จํานวน 19,505 ล้านบาท มีการจ่ายชำระช่วงเดือน เม.ย.-มิ.ย.2567 ไปแล้ว 3,017 ล้านบาท มียอดคงเหลือ 16,488 ล้านบาท

     โดยมี 3 แนวทางใช้หนี้คือ 1) กระแสเงินสดจากการดําเนินงาน ซึ่งในไตรมาส 1/67 มีกระแสเงินสดจากการดําเนินกิจการ 1,900 ล้านบาท และมีรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลมทุกเดือนประมาณ 1,000 ล้านบาท 2) วงเงินกู้จากสถาบันการเงิน วงเงินประมาณ 6,000 ล้านบาท(อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาขั้นสุดท้ายของสถาบันการเงิน) และ 3) หุ้นกู้ที่จะออกเพิ่มเติมในปี 2567 จํานวนและวันเสนอขายอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้รับประกันการจัดจําหน่าย บริษัทคาดว่าจะเป็นหุ้นกู้อายุ 1 ปี และ 3 ปี

มอง EA ผ่านงบการเงิน

     สายงานวิจัย บล. เอเซีย พลัส ระบุว่า หากพิจารณาสถานะทางการเงินปัจจุบันของ EA ณ สิ้นงวด 1Q67 พบว่ามี เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดอยู่ราว 2.2 พันล้านบาท อัตราส่วน D/E 1.6 เท่า NET IBD/E ที่ 1.4 เท่า ซึ่ง EA ต้องดำรงอัตราส่วนดังกล่าวไว้ที่ไม่เกิน 3.5 เท่า หรือมีความสามารถกู้ยืมจากสถาบันการเงินเพิ่มได้ราว 9 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ EA มีสินทรัพย์รวม ราว 1.1 แสนล้านบาท โดยสัดส่วนหลักอยู่ที่รายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์สุทธิ ราว 5.8 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 58% ของสินทรัพย์รวม รองลงมาเป็นสินทรัพย์หมุนเวียนสุทธิ 2.5 หมื่นล้านบาท หรือราว 22% ของสินทรัพย์รวม

     ขณะที่หนี้สินรวมอยู่ที่ราว 7 หมื่นล้านบาท โดยหลักเป็นเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน 3.1 หมื่นล้านบาท หรือราว 44.5% ของหนี้สินรวม และหุ้นกู้อีกราว 3.1 หมื่นล้านบาท หรือราว 44.6% ของหนีสิ้นรวม โดย ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2567 มีหนี้สินเงินต้นที่จะครบกำหนดภายในปี 2567 ราว 1.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งระหว่างงวด เม.ย. - มิ.ย. 2567 ได้มีการชำระเงินไปบางส่วน ภายหลังเดือนมีนาคม 2567 ถึง ณ ปัจจุบัน บริษัทยังไม่มีการก่อภาระหนี้สินระยะยาวเพิ่มเติม

     แผนการบริหารเงินเพื่อนำมาชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกําหนดในปี 2567 คาดว่าจะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน โดย งวด 1Q67 EA มีกระแสเงินสดจากการดําเนินกิจการ 1.9 พันล้านบาท รวมถึงเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และการเตรียมออกหุ้นกู้ชุดใหม่มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท

     อย่างไรก็ตาม หาก EA ไม่สามารถเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ได้ตามเป้าหมาย หรือหากสถาบันการเงินไม่ปล่อยกู้ให้แก่ทาง EA คาดว่าการพิจารณาสินทรัพย์มาแปลงเป็นเงินสดอาจอยู่ในทางเลือกหนึ่งของบริษัทสำหรับดำเนินการชำระหนี้ได้เช่นกัน

 

กระทบ? หุ้นกลุ่มแบงก์

     บทวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ ระบุว่า หลังจากที่ ก.ล.ต. มีการกล่าวโทษผู้บริหารของ EA 3 ท่านรวมมูลค่าความเสียหายกว่า 3.5 พันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันคดีอยู่ในการดูแลของ DSI และ ปปง. แม้ว่าหุ้น EA ไม่ได้อยู่ภายใต้การวิเคราะห์ของเราและปัจจุบันหุ้น EA ถูกพักการซื้อขาย (SP) แต่ผลกระทบได้สร้างความกังวลต่อไปยังกลุ่มธนาคารและตลาดหุ้นกู้

     ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่ากลุ่มธนาคารจะโดนกดดันในระยะสั้น และการประชุมนักวิเคราะห์ในไตรมาสนี้น่าจะพูดถึงการตั้งสำรองที่จะเกิดขึ้นในไตรมาส 3/2567 ซึ่ง ณ ไตรมาส 1/2567 ทาง EA มีหนี้สินธนาคาร 3.1 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้หากแบงก์เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นอาจกระทบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้ นอกจากนี้  EA ยังมีหุ้นกู้ในตลาดอีก 3.1 หมื่นล้านบาท (5.5 พันล้านบาทจะครบกำหนดใน 1 ปี) หาก EA ไม่สามารถ Rollover หุ้นกู้ได้อาจส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดและทำให้ตลาดตราสารหนี้ตึงตัวมากขึ้นกระทบต่อต้นทุนการกู้ยืม

     โดยฝ่ายวิเคราะห์ยังแนะนำ “Underweight” กลุ่มธนาคาร และเลือก TTB เป็นหุ้นเด่น เป้าพื้นฐาน 2.5 บาท เนื่องจากมีผลประโยชน์ภาษี 1.5 หมื่นล้านบาทที่จะช่วยทำให้ผลประกอบการเติบโตมั่นคงในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าแม้ภาพรวมกลุ่มแบงก์มีความเสี่ยงด้านต้นทุนเครดิตเพิ่มขึ้นจากประเด็นดังกล่าว

 

ถ้า..SCB ตั้งสำรอง 100% ฉุดกำไร..? 

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ระบุว่า ประเด็น EA ที่สะท้อนในกลุ่มธนาคารที่ปล่อยกู้ โดย "SCB" ยังไม่ให้ความเห็น เบื้องต้นข่าวหน้าหนังสือพิมพ์ สินเชื่อที่ทาง SCB ปล่อย Green Loan จำนวน 2,000 ล้านบาท หาก EA มีการผิดนัดชำระ เบื้องต้นฝ่ายวิเคราะห์ประเมินสินเชื่อ 2,000 ล้านบาท ตั้งสำรองส่วนเพิ่ม 100% โดยไม่หักหลักประกันจะทำให้กำไรสุทธิที่คาดว่าจะทำได้ 4.5 หมื่นล้านบาท จะมี downside -3% 

     "TTB" มีปล่อยสินเชื่อปัจจุบันอยู่ที่ 100 ล้านบาท ซึ่งการชำระเงินยังปกติ

     "KBANK และ BBL" ยังไม่ให้ความเห็น

     "KTB" น่าจะไม่มีการปล่อยสินเชื่อเลย ถ้ามีผลกระทบน้อยมากๆ ไม่กระทบต่อค่าใช้จ่ายสำรองอย่างมีนัยสำคัญ

 

เรทติ้งต่ำทำต้นทุนพุ่ง

     บล.อาร์เอชบี ระบุว่า EA แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯคืนวานนี้(15 ก.ค.67)ถึงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบฐานะทางการเงินที่อาจจะเกิดขึ้นจากภาระหนี้สิน โดยเฉพาะเงินกู้และหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระภายในปีนี้ 2567

     ล่าสุด "ทริส เรทติ้ง" ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือหุ้นกู้ EA จาก BBB+ (Negative) เป็น BB+ (Negative) ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อวงเงินกู้จากสถาบันการเงินและการออกหุ้นกู้ใหม่ตามแผนเดิม พูดง่ายๆจะต้องมีต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นจากเครดิตเรทติ้งที่ต่ำลง

 

จับตาพาร์ทเนอร์ใหม่
     บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)
ระบุว่า โดยรวมคาดราคาหุ้น EA จะค่อนข้างผันผวน เนื่องจากแม้จะมีการชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับแหล่งชำระเงินในปีนี้ อย่างไรก็ตามระยะยาว ยังต้องติดตามการมี Partner เข้ามา รวมถึงการดำเนินงานของธุรกิจรถไฟฟ้าที่จะช่วยเพิ่มกระแสเงินสดในระยะยาว 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.