ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง CHAO จ่อขายไอพีโอไม่เกิน 87.7 ล้านหุ้น เข้าเทรด SET

นายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ของบริษัท เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ CHAO เปิดเผยว่า หลังจาก CHAO ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ 

ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับหนึ่งไฟลิ่งแล้ว โดยบริษัทจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 87.7 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 29.2% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญครั้งนี้ 

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนนำเงินที่ได้จากการระดมทุนส่วนหนึ่งเพื่อใช้ในการพัฒนาระบบอัตโนมัติและการปรับปรุงระบบควบคุมคุณภาพ ขยายกำลังการผลิต การก่อสร้างโรงงานโฮลซัมแห่งที่ 2 การลงทุนเพื่อการประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม และการปรับปรุงระบบความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและการดำเนินการต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อกิจการ และใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมให้แก่สถาบันการเงิน

นางสาวณภัทร โมรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ CHAO กล่าวว่า กลุ่มบริษัทมุ่งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อสัตว์ ที่มีความอร่อย จากสูตรลับตำรับเจ้าสัว พร้อมให้คุณค่าทางโภชนาการที่สูง ด้วยกรรมวิธีการปรุงอย่างพิถีพิถัน การคัดสรรวัตถุดิบที่ดี จากแหล่งที่มีคุณภาพ รวมทั้งยกระดับการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ทันสมัย พกพาง่าย รับประทานได้ทุกที่ทุกเวลา (Everyday Consumption) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคในทุกโอกาส 

โดยสินค้าที่จัดจำหน่ายเป็นสินค้าของกลุ่มบริษัทฯ ภายใต้แบรนด์ “เจ้าสัว” และแบรนด์ “โฮลซัม (Wholesome)” ซึ่งได้รับความนิยมและครองใจผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน อ้างอิงข้อมูลรายงานภาวะอุตสาหกรรมของ Frost & Sullivan ในปี 2565 กลุ่มบริษัทเป็นผู้นำในตลาดข้าวตัง และตลาดขนมขบเคี้ยวแปรรูปจากเนื้อหมู (Pork Snack) โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1 ที่ 78.5% และ 57.2% ตามลำดับ ตอกย้ำการเป็นผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยวไทยรูปแบบใหม่ (Modern Thai Snack) ได้อย่างดี

ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลากว่า 60 ปี กลุ่มบริษัทมุ่งสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยใช้จุดแข็งเพื่อสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน ดังนี้ 

1) การเป็นผู้นำในธุรกิจผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยวไทยรูปแบบใหม่ (Modern Thai Snack) ที่มุ่งเน้นการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ รสชาติอร่อย และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย กลุ่มบริษัทฯ มุ่งผลักดันให้อุตสาหกรรมขนมขบเคี้ยวไทยรูปแบบใหม่ (Modern Thai Snack) เติบโตต่อเนื่อง ผ่านการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ด้วยกระบวนการผลิตให้มีมาตรฐาน เพื่อยืดอายุของสินค้า รวมทั้งการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ทันสมัย สร้างความหลากหลายของรสชาติและขนาดสินค้า สื่อสารการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ และขยายช่องทางการจัดจำหน่ายเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น 

รวมทั้งสร้างความแตกต่างและโดดเด่นจากผู้เล่นรายอื่นในตลาด ด้วยการสร้างสรรค์ขนมขบเคี้ยวที่นอกจากจะให้พลังงาน มีรสชาติอร่อย และยังให้คุณค่าทางโภชนาการ เพื่อเป็นทางเลือกของขนมขบเคี้ยวที่ดีกว่าสำหรับผู้บริโภค (Better-for-You Snack) 

2) แบรนด์ “เจ้าสัว” ที่เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมสูง กลุ่มบริษัทมุ่งสร้างการเติบโตผ่านกลยุทธ์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพ อาทิ การสื่อสารการตลาดผ่านแบรนด์แอมบาสเดอร์ (Brand Ambassador) ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งการทำการตลาดในต่างประเทศผ่าน Influencer เพื่อสร้างการรับรู้ให้แบรนด์มากยิ่งขึ้น เพื่อมุ่งสู่การเป็นสุดยอด “แบรนด์ขนมขบเคี้ยว” ที่สามารถรับประทานได้ทุกวัน (Everyday Consumption) รองรับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค 

3) มีเครือข่ายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าที่หลากหลาย กลุ่มบริษัทมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย สามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างครอบคลุม 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ 

(3.1) กลุ่มร้านค้าปลีกและค้าส่งสมัยใหม่ (Modern Trade) มากกว่า 23,000 แห่งทั่วประเทศไทย โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) สูงถึง 26.2% ระหว่างปี 2563-2566 

(3.2) กลุ่มร้านค้าปลีกดั้งเดิม (Traditional Trade) รวมกันประมาณ 8,000 แห่ง ทั่วประเทศไทย ผ่านตัวแทนกระจายสินค้า 11 ราย ซึ่งดำเนินการผ่านกลยุทธ์แบบเฉพาะตัวเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าในท้องถิ่นที่แตกต่างกัน รวมถึงการทดลองใช้ Product Mix นำเสนอสินค้าใหม่ เพื่อ เพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้ผลิตภัณฑ์มากยิ่งขึ้น 

(3.3) การส่งออกสินค้ากว่า 12 ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน เขตปกครองพิเศษฮ่องกง และออสเตรเลีย เป็นต้น พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคในแต่ละประเทศ 

และ (3.4) ช่องทางอื่นๆ เช่น Shopee, Lazada, Facebook Live, TikTok Shop เป็นต้น 

4) มีความรู้ความเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภคและมีศักยภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยมีผลงานที่ประสบความสำเร็จในอดีตเป็นเครื่องพิสูจน์ กลุ่มบริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองเทรนด์การบริโภคของกลุ่มลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

โดยมีทีมการตลาดและฝ่ายขาย ผสานความร่วมมือกับฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) ที่เข้าใจตลาด ทำให้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มีรสชาติอร่อยถูกปากผู้บริโภค มีเอกลักษณ์ต่างจากคู่แข่ง ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างดี เช่น ผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวแปรรูปจากเนื้อหมู ซึ่งรวมถึงหมูแท่ง ยอดขายในช่วงปี 2564-2566 มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 35.3%

5) มีความสามารถในการทำกำไรที่ดีเมื่อเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรม กลุ่มบริษัทมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนาน ทำให้เข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างต้นทุนของวัตถุดิบแต่ละประเภท รวมทั้งมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้จัดจำหน่ายวัตถุดิบ (Supplier) ในประเทศหลายราย ทำให้สามารถเจรจาต่อรองเพื่อให้ได้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ และมีต้นทุนที่แข่งขันได้ 

นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทได้ลงทุนระบบอัตโนมัติ (Automation) ในโรงงาน เพื่อบริหารต้นทุนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของคู่แข่งในตลาด  

6) มีความสามารถในการบริหารสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ กลุ่มบริษัทพัฒนาระบบบริหารจัดการสินค้าคงคลังอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีสินค้าเพียงพอต่อการขาย รวมถึงมีการติดตามอายุสินค้าและดำเนินการติดตามสถานะของสินค้าคงคลังอย่างสม่ำเสมอ 

7) ผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนาน ทำให้มีความสามารถในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้เข้ากับสภาวะการแข่งขัน เศรษฐกิจ และเทรนด์การบริโภคของกลุ่มลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.