PDPA เดินหน้าแผนแม่บท 4 ปี เพิ่มความเข้มข้นป้องละเมิดข้อมูล

นายศิวรักษ์ ศิวโมกษธรรม เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เปิดเผยว่า การบังคับใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือ กฎหมาย PDPA ได้กำหนดให้มีการจัดตั้งองค์กรผู้กำกับดูแล อย่าง “สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” (สคส. : PDPC) เพื่อทำหน้าที่การให้ความรู้ คำแนะนำ และรับเรื่องร้องเรียน

ในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา PDPC ได้มีการดำเนินการออกข้อบังคับ ประกาศ ระเบียบ เกี่ยวกับการบริหารสำนักงานไปมากกว่า 20 เรื่อง และมีการจัดทำกฎหมายลำดับรองรวม 9 เรื่อง รวมถึงกำลังดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองอื่น ๆ อีก 9 เรื่อง เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายสามารถคุ้มครองสิทธิและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

PDPC ยังมีความมุ่งมั่นสร้างความชัดเจนในการบังคับใช้กฎหมาย โดยเผยแพร่แนวทางการขอความยินยอมและแจ้งวัตถุประสงค์การใช้และเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมจัดทำคู่มือเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติ เช่น คู่มือ PDPA สำหรับประชาชน, คู่มือ PDPA สำหรับผู้ประกอบการ SMEs รวมถึงส่งเสริมความรู้ให้กับทุกภาคส่วน 

ปัจจุบันสำนักงานได้รับการแจ้งรายชื่อ DPO จากผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลทั้งรัฐ เอกชน และมูลนิธิแล้วจำนวนกว่า 855 หน่วยงาน และมีการรับแจ้งเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้ควบคุมฯ แล้ว 375 เรื่อง

ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2565 – 28 สิงหาคม 2566 มีสถิติการให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์และที่สำนักงานฯ รวม 2,547 ครั้ง มีการตอบข้อหารือเพื่อให้เกิดการปฏิบัติที่สอดคล้องกับกฎหมายแล้ว 32 จาก 88 เรื่อง ในส่วนของเรื่องร้องเรียนจากประชาชน ได้มีการพิจารณาแล้วเสร็จ 70 เรื่อง และอยู่ระหว่างดำเนินการ 188 เรื่อง โดยสำนักงานจะเร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว

ทั้งนี้ คาดว่าหากศูนย์รับเรื่องร้องเรียนได้จัดตั้งเสร็จ และมีระบบ Social Listening มาใช้ จะทำให้การรับข้อมูลจากประชาชนมีประสิทธิภาพภาพมากยิ่งขึ้น

นายศิวรักษ์ กล่าวต่ออีกว่า คณะกรรมการ PDPC มีนโยบายยกระดับมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศสู่สากล เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและคุ้มครองสิทธิของประชาชน ซึ่งส่งผลให้การทำงานถูกยกระดับให้เกิดความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันอย่างทันสมัย และเชื่อมโยงกับนโยบายการทำงานของหน่วยงานในต่างประเทศ

PDPC จึงได้ดำเนินการทำแผนแม่บท เพื่อเป็นแนวทางดำเนินงานด้านการส่งเสริมและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ภายใต้กรอบระยะเวลา 4 ปี (พ.ศ. 2567-2570) สำหรับแผนแม่บทในครั้งนี้ PDPC ได้วางกรอบแนวคิดการดำเนินงานโดยเริ่มจากการศึกษางานด้านการส่งเสริมและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทั้งภายในและต่างประเทศ ซึ่งมีกระบวนการศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง, การทำแบบสอบถาม ด้านการรับรู้และความเข้าใจในกฎหมาย PDPA จำนวน 1,087 ตัวอย่าง

การสัมภาษณ์เชิงลึกในหน่วยงานต่าง ๆ มากกว่า 40 หน่วยงาน รวมถึงมีการทำ Social Listening ในช่องทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีพูดถึงกฎหมาย PDPA ในภาพรวมมากกว่า 33,000 ข้อความ และกว่า 4 ล้าน Engagement

ข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมาย PDPA จะถูกนำมาวิเคราะห์และสังเคราะห์ ให้เห็นภาพรวมของสภาพการณ์ปัจจุบันและปัญหาอุปสรรคที่เกิดภายในประเทศ เพื่อจะนำไปเชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ ทั้งในเรื่องข้อมูล ความปลอดภัยของข้อมูล และการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างประเทศ

รวมถึงสนับสนุนการดำเนินงานของภาคเอกชนหรือภาคอุตสาหกรรม ให้ได้รับประโยชน์จาก พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในระดับนานาชาติอีกด้วย ซึ่งกระบวนการนี้จะมีการจัดการประชุมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งในเชิงปฏิบัติการณ์ (Focus Group) และการรับฟังความคิดเห็น (Public Hearing) เพื่อปรับปรุงให้แผนแม่บทเกิดความสมบูรณ์มากที่สุดในทุกระยะ

สำหรับแผนแม่บทการดำเนินงานด้านการส่งเสริมและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2567-2570 มีเป้าหมายแบ่งเป็น 3 ระดับตลอดกรอบระยะเวลา 4 ปี คือในระยะ 1 ปีแรก PDPC ต้องการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และความเชื่อมั่นถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในระดับประชาชน เอกชน อุตสาหกรรม และภาครัฐ

รวมถึงมีมาตรการส่งเสริมให้เกิดงานวิจัยพัฒนานวัตกรรมที่เกี่ยวข้องด้วย และในระยะ 2 ปี ตั้งใจสร้างกลไกการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีประสิทธิภาพ และมีระบบตรวจสอบที่มีมาตรฐานในระดับองค์กร

สุดท้ายในระยะ 4 ปี PDPC ต้องการสร้างมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ทั้งในแง่การเข้าร่วมเป็นคณะทำงาน ภายใต้กรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ อาทิ FTA, DEPA, เป็นตัวอย่างด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้กับประเทศอื่น ๆ รวมไปถึงการยกระดับความสามารถในการแข่งขัน IMD World Digital Competitiveness Ranking ด้าน Privacy Protection by law content ของประเทศไทยด้วย

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.