BKGI ปิดเทรดวันแรก 4.40 บาท เหนือจอง 169.94%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BKGI เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันนี้ (20 มี.ค.2567) เป็นวันแรก ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดธุรกิจการแพทย์
โดยเปิดซื้อขายที่ราคา 2.18 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 0.55 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 33.74% จากราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่ราคา 1.63 บาท ระหว่างวันปรับตัวขึ้นไปทำราคาสูงสุดที่ 4.40 บาท ปรับตัวต่ำสุดที่ 2.14 บาท และปิดซื้อขายที่ราคา 4.40 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 2.77 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 169.94% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 3,227.85 ล้านบาท
ดร.เสาวลักษณ์ ด่านสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BKGI เปิดเผยว่า พอใจกับราคาหุ้น BKGI ที่เข้าซื้อขายวันนี้เป็นวันแรก ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วไปอย่างดีเยี่ยม สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัทในฐานะหุ้นไบโอเทคโนโลยีรายแรกของไทย ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ตอกย้ำความเป็น Stock In The Future หรือหุ้นแห่งอนาคต อยู่ในเมกะเทรนด์โลก ที่มีการเติบโตสูง
ขณะที่เงินที่ได้จากการเสนอขาย IPO ในครั้งนี้ บริษัทจะนำไปใช้สำหรับการขยายธุรกิจ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน รองรับแผนการเติบโตในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า เพื่อโอกาสในการเติบโตของรายได้และกำไร ทำให้ธุรกิจเติบโตแข็งแกร่งในระยะยาว
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 30-50% จากปีก่อน ที่มีรายได้อยู่ที่ 247.34 ล้านบาท มาจากการให้บริการเดิม รวมทั้งการขยายการให้บริการใหม่ๆ ขณะที่วางงบลงทุนปีนี้ไว้ที่ 50-100 ล้านบาท ใช้สำหรับขยายห้องปฏิบัติการ อุปกรณ์ และเครื่องตรวจพันธุกรรม
ส่วนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในช่วง 3 ปีข้างหน้า บริษัทพร้อมจับมือพันธมิตรมหาวิทยาลัย โรงพยาบาลภาครัฐ และเอกชน เพื่อขยายฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ควบคู่ไปกับการขยายการให้บริการใหม่ๆ เพิ่มศักยภาพการเติบโตในอนาคต ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยผลักดันผลการดำเนินงานของบริษัทโตเท่าตัว ภายใต้จุดแข็งกลุ่ม BGI เจ้าแห่งศาสตร์จีโนมิกส์การถอดรหัสพันธุกรรมระดับโลก และแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่ง ที่พร้อมเติบโตไปกับอุตสาหกรรมการแพทย์จีโนมิกส์ซึ่งเป็นธุรกิจแห่งอนาคต
ทั้งนี้ BKGI สามารถให้บริการตรวจและคัดกรองพันธุกรรมได้ทุกช่วงอายุตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ ไปจนถึงวัยชรา รวมถึงการตรวจวิเคราะห์กลุ่มโรคติดเชื้อ และการตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรม ภายใต้เครื่องหมายการค้า ได้แก่ NIFTY, VISTA, NOVA, BGI-XOME, COLOTECT, SENTIS และ DNALL ซึ่งเป็นที่ยอมรับของคู่ค้าและผู้ใช้บริการ
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) ของ BKGI กล่าวว่า การเข้าเทรดในวันแรกได้รับการตอบรับอย่างคึกคัก เนื่องจากนักลงทุนมั่นใจปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่มีความแข็งแกร่ง ซึ่งเห็นได้จากผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
“เชื่อว่า BKGI จะเป็นหุ้นที่สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนในอนาคต เนื่องจากมีแนวโน้มการเติบโตสูง เห็นได้จากการเติบโตของรายได้ในการให้บริการด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ของ BKGI ซึ่งถือเป็นธุรกิจหลัก ในช่วงปี 2563-2566 มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 23.40% ต่อปี และภายหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) มีฐานทุนที่พร้อมสนับสนุนให้มีศักยภาพผลักดันการเติบโตได้มากขึ้น” นายสมภพ กล่าว
ทั้งนี้ BKGI ได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 160 ล้านหุ้น คิดเป็น 26.67% ของจำนวนหุ้นสามัญที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด โดยผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้งจีนและไทยสมัครใจ Lockup หุ้นส่วนที่ไม่ติดไซเรนพีเรียดตามเกณฑ์ SET ทั้งหมด เป็นเวลา 1 ปี
BKGI ให้บริการตรวจวิเคราะห์ทางการแพทย์ โดยนำเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยที่ได้รับการถ่ายทอดจากกลุ่ม BGI ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำการถอดรหัสพันธุกรรมของโลก มาใช้ในการพัฒนาการตรวจวิเคราะห์ของ BKGI เพื่อให้ประชากรไทยมีสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนในอนาคต
โดยลักษณะการประกอบธุรกิจ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1. ธุรกิจการให้บริการตรวจคัดกรองและวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1) การตรวจคัดกรองความผิดปกติทางพันธุกรรมด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ 2) การตรวจวิเคราะห์กลุ่มโรคติดเชื้อ เช่น การตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อก่อโรคโควิด-19 และการตรวจภูมิคุ้มกัน 3) การตรวจคัดกรองอื่นๆ ได้แก่ การตรวจคัดกรองกลุ่มยีนที่มีความสัมพันธ์กับโรคมะเร็ง และการตรวจคัดกรองโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมอื่นๆ และ 4) การให้บริการงานด้านเทคโนโลยี
2. ธุรกิจการจำหน่ายผลิตภัณฑ์อื่นๆ (Other Products) เช่น ชุดอุปกรณ์สำหรับการเก็บสิ่งส่งตรวจ น้ำยาตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสโควิด-19 น้ำยาตรวจภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโควิด-19 และชุดอุปกรณ์สำหรับตรวจความผิดปกติทางพันธุกรรมแบบครบวงจร เป็นต้น รวมทั้งในอนาคต จะมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ให้กับลูกค้าที่ใช้บริการถอดรหัสทางพันธุกรรมเฉพาะบุคคลอย่างละเอียด ตามคำแนะนำของแพทย์
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.