จับตา"กลุ่มอิเล็กฯ-ซัพพลายเชน"แห่ย้ายฐานเข้าไทยเพียบ

      นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA กล่าวในงาน GEOPOLITICS 2024 จุดปะทุสงครามใหญ่ พลิกวิกฤติโลก สู่โอกาสประเทศไทย เสวนาหัวข้อ "รัฐปรับตัว ธุรกิจปรับแผน พลิกวิกฤติสู่โอกาส" ว่า ทิศทางสถานการณ์ปี 2567 นี้คาดว่าจะเกิดเหตุการณ์หลายเรื่อง แต่หลักๆที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก คือ จีนและสหรัฐฯ 

     นับตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ภาพนักลงทุนต่างชาติเข้ามาในไทยค่อนข้างเยอะ เพราะกลัวว่าทรัมป์จะกลับมาแล้วทุกอย่างจะยิ่งรุนแรงขึ้น ประกอบกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวัน ทั้งสองปัจจัยคือตัวกระตุ้นนักลงทุนย้ายฐานเข้ามาในไทยมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และกลุ่มซัพพลายเชนจะเข้ามาไทยอีกค่อนข้างมาก 

     โดยกลุ่มหลักที่คาดว่าจะย้ายฐานเข้ามาในปีนี้นั้น ในปีที่ผานมากลุ่มยานยนต์ EV เข้ามาเยอะมาก ด้วยรัฐบาลมีนโยบายที่ซัพพอร์ตทั้งนโยบาย EV 3.0 ต่อด้วย EV 3.5 เข้ามาเยอะ ประเทศไทยถือว่าสนับสนุนรถไฟฟ้าค่อนข้างมาก และกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ โดยเฉพาะ PCB จะเข้ามาค่อนข้างเยอะ และคอนซูเมอร์เข้ามาเพิ่มขึ้นแน่นอน

   ทั้งนี้ต้องยอมรับว่ารัฐบาลมียโยบายส่งเสริมได้ครบรอบด้าน ไทยมีฐานบุญเก่าเยอะมาก มีอินฟราสตรัคเจอร์ค่อนข้างเยอะ มีการซัพพอร์ตการลงทุนเยอะ ไทยมีความมั่นคงด้านพลังงาน และมีสกิลยานยนต์ค่อนข้างสูงช่วยดึงฐานการลงทุนต่างชาติเข้ามา 

     "ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่พูดเรื่องแลนด์บริด เพราะส่วนตัวมองเรื่องแลนด์บริดจ์เป็นภาพใหญ่ อย่ามองแค่โลจิสติกส์ หากมองว่าไทยมี EEC อีกที่หนึ่งจะดีแค่ไหน ถ้ามองแลนด์บริดจ์เป็นฐานใหญ่เชื่อมโลกได้จะดีขนาดไหน ซึ่งตนขอให้ทำแลนด์บริดจ์เกิดขึ้นให้ได้"

คอนเฟิร์มรายได้ออลไทม์ไฮ

    นางสาวจรีพร กล่าวเพิ่มเติมว่า แผนการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับรถอีวีค่ายใหญ่และซัพพลายเชนจะตามมาอีกมาก ส่วนรายได้ปีนี้คาดออลไทม์ไฮ 3 ปีซ้อน โดยวางเป้าหมายธุรกิจโลจิสติกส์ มีพื้นที่กว่า 2 แสนตารางเมตรส่งผลให้มีพื้นที่ คลังสินค้าภายใต้การถือครองและบริหารทั้งหมด 2,945,000 ตร.ม. 

     รวมถึงแผนขายสิทธิการเช่าทรัพย์สินให้กับกองทรัสต์ WHART และ WHAIR รวมทั้งสิ้นประมาณ 213,000 ตร.ม. คิดเป็นมูลค่าประมาณ 5,290 ล้านบาท 

     ขณะที่ ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม มีโครงการพัฒนานิคมฯใหม่และขยายนิคมฯในไทย รวม 7 โครงการ บนพื้นที่รวมเกือบ 10,000 ไร่ ในช่วง 4 ปีข้างหน้า ส่งผลให้มีพื้นที่นิคมฯ รวมกว่า 52,000 ไร่ในปี 2570 โดยปีนี้ตั้งเป้ายอดขายที่ดินทั้งในไทยและเวียดนามรวม 2,275 ไร่ สูงกว่าปีที่ผ่านมาที่ตั้งไว้ 1,750 ไร่

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.