ผลสำรวจการเข้าถึงดิจิทัลชี้ SME ใช้ข้อมูลและดิจิทัลเพิ่มมูลค่าธุรกิจน้อย

นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) กล่าวว่า ผลการศึกษาโครงการ Thailand Digital Outlook ประจำปี 2566 พบว่า ความเหลื่อมล้ำการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในครัวเรือนลดลงอย่างต่อเนื่อง คนไทยมีการทำกิจกรรมดิจิทัลเพิ่มสูงขึ้น

เป้าหมายต่อไปในการขับเคลื่อนและพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม คือ ต้องเพิ่มความเท่าเทียม (Digital Inclusion) ให้กับประชาชนทุกกลุ่มเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต อีกทั้งส่งเสริมผู้ประกอบการ SME ในการนำข้อมูลและเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพิ่มมูลค่าแก่ธุรกิจ

และภาครัฐจะต้องปรับเปลี่ยนสู่รัฐบาลดิจิทัล ซึ่งสามารถนำตัวชี้วัด และแนวนโยบายการพัฒนาดิจิทัลของประเทศจาก Thailand Digital Outlook ไปปฏิบัติและร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศไทยในอนาคตให้ทัดเทียมได้เทียบเท่ากับนานาประเทศ

สำหรับโครงการศึกษา Thailand Digital Outlook เป็นการดำเนินการต่อเนื่องของ สดช. ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 โดยในปี พ.ศ. 2566 นี้ นับเป็นปีที่ 5 ซึ่ง สดช. ได้ศึกษาตัวชี้วัดด้านดิจิทัลของประเทศ อ้างอิงตามกรอบมาตรฐานสากลที่องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือองค์การ OECD (The Organisation for Economic Co-operation and Development) กำหนดไว้ จำนวน 94 ตัวชี้วัด ครอบคลุม 8 มิติเชิงนโยบาย และดำเนินการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลตัวชี้วัดดังกล่าว 

ผ่านการสำรวจด้วยแบบสอบถาม 3 กลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ ได้แก่ ภาคประชาชน ภาคธุรกิจเอกชน และหน่วยงานบริการปฐมภูมิ เช่น โรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ และโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และอาศัยข้อมูลที่ได้รับจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ

สำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) องค์การ OECD องค์การสหประชาชาติ หรือ UN เป็นต้น มาใช้ประกอบการศึกษาในปีนี้

ทั้งนี้จากการสำรวจพบว่า ตัวชี้วัดด้านดิจิทัลของประเทศส่วนใหญ่ดีขึ้น ได้แก่ มิติการเข้าถึง การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของครัวเรือนไทยอยู่ที่ร้อยละ 89.50 เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่มีการเข้าถึงร้อยละ 88.00 มิติการใช้งาน สัดส่วนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตของไทยร้อยละ 87.60 เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา (ร้อยละ 85.00) มิติอาชีพ สัดส่วนการจ้างงานของธุรกิจดิจิทัลต่อการจ้างงานทั้งหมดในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2566 คิดเป็นร้อยละ 35.96 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีที่ผ่านมา (ร้อยละ 34.40)

มิติสังคม สัดส่วนการใช้งานอินเทอร์เน็ตของผู้สูงอายุ ช่วง 55-74 ปี ในปี พ.ศ. 2566 คิดเป็นร้อยละ 71.60 เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ซึ่งอยู่แค่เพียงร้อยละ 63.10 และมิติการเปิดเสรีของตลาด สัดส่วนผู้ประกอบการที่มีการจำหน่ายสินค้า/บริการผ่านทางออนไลน์ไปตลาดต่างประเทศ ปี 2566 สูงถึงร้อยละ 31.53 เทียบกับปี 2565 มีสัดส่วนเพียงร้อยละ 26.29 

ในมิติอื่น ๆ พบว่า มิติด้านนวัตกรรม มูลค่าการลงทุนในอุตสาหกรรม ICT ต่อ GDP ในปี 2565 อยู่ที่ร้อยละ 0.93 มิติความน่าเชื่อถือ ร้อยละผู้ประสบปัญหาถูกละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล/ความเป็นส่วนตัว เท่ากับร้อยละ 14.52 และ มิติการเติบโตและสภาพความเป็นอยู่ สัดส่วนของมูลค่าเพิ่มที่เกิดขึ้นในภาคธุรกิจดิจิทัล ปี 2565 คิดเป็นร้อยละ 40.00 ของภาคอุตสาหกรรม
สำหรับประเด็นสำคัญที่พบจากผลการสำรวจฯ ประจำปี พ.ศ. 2566 พบว่า 

(1) ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตลดลงอย่างต่อเนื่อง จากปี 2563 ร้อยละ 11.9 ลดเหลือร้อยละ 6.5 ในปี 2566 

(2) ผู้รับบริการออนไลน์ภาครัฐร้อยละ 66.17 ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและการปรับเป็นรัฐบาลดิจิทัล (Digital Government) เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของการใช้งาน 

(3) ร้อยละ 75.92 ของหน่วยงานบริการปฐมภูมิทั่วประเทศมีการให้บริการออนไลน์ เพื่อเพิ่มทางเลือก/ช่องทางในการให้บริการ 

(4) พฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตสะท้อนให้เห็นการเข้าสู่สังคมดิจิทัล โดยคนไทยมีแนวโน้มใช้เวลาบนโลกออนไลน์มากขึ้น ชั่วโมงการใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มสูงขึ้นเป็น 7 ชั่วโมง 25 นาที ต่อวัน ส่วนกิจกรรมดิจิทัลที่คนไทยใช้งานในปี 2566 มากสุด คือ การใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ ตามด้วยใช้เพื่อสนทนา และ รับชม VDO Content 

(5) สินค้าและบริการออนไลน์ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ สินค้าแฟชั่น สินค้าอุปโภคบริโภค บริการ Delivery และสินค้า/บริการเพื่อความบันเทิง 

(6) ภาคธุรกิจตื่นตัวในเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นอย่างมาก แต่การใช้ประโยชน์ในเทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ ยังกระจุกตัวในภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ 

(7) แรงงานดิจิทัลทวีความสำคัญมากขึ้น ภาคธุรกิจบางส่วน มีการจัดจ้าง Digital Nomad มาทดแทนแรงงานที่หายาก/ขาดแคลน อีกทั้งในอนาคต ยังมีความต้องการสายงานดิจิทัลอยู่อีกมาก 

(8) คนไทยส่วนใหญ่มีทักษะดิจิทัลที่จำเป็นในการทำงาน แต่ทักษะสำคัญเพื่อความปลอดภัยในการใช้งานและทักษะเพื่อรองรับอนาคตยังไม่สูง ยกเว้นคนรุ่นใหม่ในเรื่อง Coding 

(9) ปัญหาการใช้งานดิจิทัลทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะปัญหาแก็งคอลเซ็นเตอร์ และ SMS หลอกลวง/เว็บพนัน/ลามก ส่งผลต่อระดับความเชื่อมั่นของภาคประชาชน

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.