ก.ล.ต. กล่าวโทษ 13 ผู้กระทำความผิด ต่อ บก.ปอศ. ฐานปั่นหุ้น FVC

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต. ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติม กรณีพบพยานหลักฐานน่าเชื่อได้ว่ากลุ่มผู้กระทำความผิดจำนวน 13 ราย ได้แก่ (1) นายสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย (2) บริษัท นิปปอน แพ็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (ปัจจุบันชื่อ บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NPP) (3) นางสาวทิพรัตน์ สาครสุขศรีฤกษ์ (4) นางสาวรินนภา คุณะวัฒน์สถิตย์

(5) นายวัฒนา สวัสดิ์ทอง (6) นายดนุช บุนนาค (7) นายประพล มิลินทจินดา (8) นางกิ่งกาญจน์ สมิตานนท์ (9) บริษัท พี-แซท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (P-SAT) (10) นายอนุพนธ์ ศรีอาจ (11) นายกิจจพัฒน์ อิทธิฤทธานนท์ (12) นางอนัญญา เรืองศักดิ์วิชิต และ (13) นายนัฐพล เฉลิมพจน์ ซึ่งพบว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างกันได้เข้ามาซื้อขายหุ้น FVC และมีพฤติกรรมการซื้อขายในลักษณะรู้เห็นหรือตกลงกัน 

โดยแบ่งหน้าที่กันส่งคำสั่งซื้อขายหุ้น บริษัท ฟิลเตอร์ วิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FVC สอดรับและสนับสนุนซึ่งกันและกันอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ราคาและปริมาณการซื้อขายของหุ้น FVC ผิดไปจากสภาพปกติ ในช่วงระหว่างวันที่ 25-31 ส.ค.2558 (รวม 5 วันทำการ) และวันที่ 19-21 ต.ค.2558 (รวม 3 วันทำการ) ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดว่าขณะนั้นมีความต้องการซื้อขายหุ้น FVC ในปริมาณมากและเข้ามาซื้อขายตาม จึงเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 243(1) ประกอบมาตรา 244 และมาตรา 243(2) ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 296 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ซึ่งปัจจุบันยังคงเป็นความผิดตามมาตรา 244/3 และมีระวางโทษตามมาตรา 296 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2559

นอกจากนี้ การกระทำของ นายอนุพนธ์ ในฐานะผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคลที่บริหารโดยบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน)) ซึ่งมีอำนาจสั่งซื้อขายในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้ากองทุนส่วนบุคคล ได้ส่งคำสั่งซื้อขายหุ้น FVC ในลักษณะการสร้างราคาในช่วงเวลาดังกล่าว เข้าข่ายเป็นการปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่ซื่อสัตย์สุจริตและระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของผู้มอบหมายให้จัดการกองทุนส่วนบุคคลโดยใช้ความรู้ความสามารถเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ เข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 134 วรรคสองและวรรคสาม ประกอบมาตรา 133 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ รวมทั้งกรณีของ นายประพล ที่ไม่รายงานการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งหุ้น FVC ข้าม 5% ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมด ยังเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 246 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ อีกด้วย

ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า พฤติกรรมของกลุ่มผู้กระทำความผิดมีรูปแบบของการกระทำเป็นขบวนการ มีลักษณะแบ่งหน้าที่ในการส่งคำสั่งซื้อขายเพื่อสร้างราคาหุ้น FVC ประกอบกับผู้กระทำความผิดหลายรายในกรณีนี้ ก.ล.ต. ได้ตรวจสอบการกระทำผิดในหลายกรณีต่อเนื่องกันทั้งที่เป็นการทุจริตและการกระทำอันไม่เป็นธรรมในการซื้อขายหลักทรัพย์ 

ซึ่ง ก.ล.ต. ได้ดำเนินการตามกฎหมายกับบุคคลดังกล่าวแล้วในหลายกรณี ก.ล.ต. จึงกล่าวโทษกลุ่มผู้กระทำความผิดทั้ง 13 ราย ต่อ บก.ปอศ. เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป พร้อมกันนี้ ก.ล.ต. ยังได้แจ้งการดำเนินคดีตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ข้างต้น ต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เนื่องด้วยเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

อนึ่ง การกล่าวโทษของ ก.ล.ต. เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาเท่านั้น ภายใต้กระบวนการนี้ การพิจารณาวินิจฉัยว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายเป็นขั้นตอนในอำนาจการสอบสวนของพนักงานสอบสวน การสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการ ตลอดจนดุลพินิจของศาลยุติธรรม ตามลำดับ 

ขณะเดียวกัน ก.ล.ต. จะติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดีต่อไป และจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ เพื่อสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ในกระบวนการภายหลัง ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษแล้ว

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.