SET อัพไซด์ระยะสั้นจำกัด หลังปรับขึ้นต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงกลาง ธ.ค.66
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า SET ปรับขึ้นต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา และยังไม่ได้พักตัวลดความร้อนแรง ทำให้ยังมองดัชนีในระยะสั้นช่วงนี้มี upside จำกัด โดยมีแนวต้านอยู่ที่ 1,420 และ 1,425 จุด ตามลำดับ ขณะที่แนวรับระยะสั้นที่เป็นกรอบล่างอยู่ที่ 1,407 จุด หากต่ำกว่า จะเริ่มเห็นการพักตัว โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,400 จุด
ทั้งนี้ ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นหรือ sideways-up แต่ยังมี upside ที่จำกัดและมีมูลค่าการซื้อขายเบาบาง เนื่องจากยังอยู่ในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองและรอปัจจัยชี้นำใหม่ๆ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ ”Selective Buy“ ในหุ้นที่มีโอกาสได้รับผลบวก ดังนี้
1) หุ้น Big Cap. (SET50) ที่คาดเป็นเป้าหมายการลงทุนจากแผนจัดตั้งกองทุน TESG ซึ่งเราได้คัดเลือกหุ้นที่อยู่ในดัชนี SETESG ที่มีคุณสมบัติน่าสนใจ ดังนี้ (l) ได้ ESG Rating "A" - "AAA" และราคาหุ้นปรับด้วยแรงกว่า SET ในปีที่ผ่านมา เลือก OR AOT หรือ (II) ได้ ESG Rating "AAA" และราคาหุ้นปรับขึ้นดีกว่า SET ในปีที่ผ่านมา อีกทั้งผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง และคาดให้ Div. Yield สูงกว่าปีละ 5% เลือก PTT KTB
2) หุ้นที่ได้รับประโยชน์จากผลตอบแทนพันธบัตรปรับลดลง ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (BIC CPALL CPAXT), การแพทย์ (BDMS BCH) โรงไฟฟ้า (GULF), REIT (DIP), อสังหาฯ (AP) และ Consumer Finance (TIDLOR)
3) หุ้นที่อาจได้แรงหนุนจากการทำ Short Covering มากกว่า 10% ของมูลค่าซื้อขายตั้งแต่เดือน ก.ย.2566 และเราแนะนำ ซื้อ ได้แก่ ADVANC MINT
4) หุ้นที่ใช้ประโยชน์จากโครงการ E-Receipt ลดหย่อนภาษีไม่เกิน 5 หมื่นบาท ในวันที่ 1 ม.ค.-15 ก.พ.2557 ได้แก่ CRC HMPRO
ช่วงสั้นแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบอย่างมีนัยจากแผนปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาล ซึ่งคาดจะมีการเสนอ ครม. พิจารณาภายในสัปดาห์นี้ ได้แก่ กลุ่มขนส่งพัสดุ (KEX) อาหาร (CPF ZEN GFPT TU) กลุ่มอสังหาฯ (LPN PSH) และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (HANA)
ขณะที่ระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากภาวะเอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังซื้อภาคเกษตรลดลง ได้แก่ กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG จากราคาน้ำตาลที่สูงขึ้น) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT BTG)
สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ BBL ไตรมาส 4/2566 คาดกำไรโต 64%YoY 10%QoQ จาก NIM เพิ่มขึ้น ECL ลดลง คาดกำไรโตต่อเนื่องในปี 2567 จาก credit cost ที่ลดลง NIM ที่ขยายตัวดี สินเชื่อเติบโตขึ้น อีกทั้งคาดได้รับประโยชน์มากสุดจากการย้ายฐานธุรกิจ มายังอาเซียน เป็นหุ้นใน SETESG Index ที่น่าสนใจ โดยได้ Rating "AA"
HMPRO มองเป็นหุ้นใน SETESG Index ที่น่าสนใจ โดยได้ Rating "AA" คาดไตรมาส 4/2566 เป็นไตรมาสที่ดีสุดของปี และปี 2567 คาดจะเป็นผู้ได้ประโยชน์หลักจากโครงการ E-receipt เพราะยอดใช้จ่ายต่อบิลที่สูงกว่าบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มฯ โดยราคาหุ้นปัจจุบันยังไม่ได้สะท้อนประโยชน์จากโครงการดังกล่าว
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.