SCGD ปิดเทรดวันแรก 9.80 บาท ต่ำจอง 14.78%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGD เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันนี้ (20 ธ.ค.2566) เป็นวันแรก ในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดธุรกิจวัสดุก่อสร้าง 

โดยเปิดซื้อขายที่ราคา 10.10 บาท ปรับลดลง 1.40 บาท หรือคิดเป็นลดลง 12.17% จากราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่ราคา 11.50 บาท ระหว่างวันปรับตัวขึ้นไปทำราคาสูงสุดที่ 10.40 บาท ปรับตัวต่ำสุดที่ บาท และปิดซื้อขายที่ราคา 9.80 บาท ปรับลดลง 1.70 บาท หรือคิดเป็นลดลง 14.78% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 884.53 ล้านบาท   

นายนำพล มลิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGD เปิดเผยว่า บริษัทได้นำหุ้น “SCGD” เข้าซื้อขายวันนี้ (20 ธ.ค.) เป็นวันแรก ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในหมวดธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของการปรับโครงสร้างธุรกิจให้ SCGD เป็นบริษัทแกนหลักของเอสซีจีในการดำเนินธุรกิจตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์ 

ตลอดจนเสริมความแข็งแกร่งฐานะทางการเงินเพื่อรองรับแผนงานขยายธุรกิจ เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการและปรับโครงสร้างเงินทุน โดยเชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจมากกว่า 40 ปี และแผนงานลงทุนขยายตลาดวัสดุตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียนจะสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

โดยแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2566 ชะลอตัว สะท้อนถึงภาพรวมเศรษฐกิจที่ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว และตลาดมีแนวโน้มที่ดีขึ้นในปีหน้า ดังนั้นบริษัทคาดว่ารายได้ปี 2567 จะเติบโตในอัตราตัวเลขสองหลักหรือไม่ต่ำกว่า 10% ด้วยการเติบโตจากภายใน (Organic Growth) และกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจที่จะเข้ามาช่วยสร้างการเติบโตเพิ่มเติม

ทั้งนี้ บริษัทเห็นโอกาสจากการขยายตลาดสุขภัณฑ์และผลิตภัณฑ์วัสดุตกแต่งพื้นผิวที่หลากหลายยิ่งขึ้นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตได้อีกมากจากแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจ การเพิ่มขึ้นของจำนวนและรายได้ประชากร บริษัทจึงได้มีการวางกลยุทธ์หลักเพื่อใช้ในการขยายธุรกิจ ได้แก่ 

1.ขยายธุรกิจสุขภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียน โดยใช้ฐานการผลิตที่แข็งแกร่งในไทย การจัดหาสินค้าจากจีนและเวียดนาม การยอมรับในแบรนด์สินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม รวมถึงการขยายร้านค้าและช่องทางออนไลน์ของบริษัทฯ รวมถึงเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายในเวียดนาม

2.ต่อยอดความแข็งแกร่งของธุรกิจตกแต่งพื้นผิวในไทยสู่อาเซียน โดยมุ่งเพิ่มยอดขายสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม (HVA) ศึกษาแผนลงทุนโรงงานกระเบื้องในภาคใต้ของเวียดนาม ขยายตลาดผ่านเครือข่ายช่องทางการขายของเอสซีจี ขยายตลาดกระเบื้องไวนิล SPC ในอาเซียน และเดินหน้าโครงการลงทุนเพื่อขยายและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต 

3.ขยายผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวเนื่องเพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านการให้บริการแบบครบวงจรในธุรกิจตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์ ผ่านการเพิ่มพอร์ตโฟลิโอสินค้าและความร่วมมือกับพันธมิตรที่มีศักยภาพในอาเซียน 

4.บริหารห่วงโซ่อุปทานด้านการผลิตและจัดหาสินค้าให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ได้แก่ เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตเพื่อบริหารจัดการต้นทุน การจัดหาสินค้า และปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตสู่ Smart & Green Factory เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไร

5.เติบโตอย่างยั่งยืนด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์รักษ์โลกและกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยจะเพิ่มสัดส่วนสินค้า SCG Green Choice เป็น 80% ของยอดขายปี 2573 และมุ่งสู่ Net Zero Carbon ในปี 2593 

ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 วางงบลงทุนไว้ที่1,000 ล้านบาท ใช้สำหรับปรับปรุงฐานการผลิตเดิมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และรองรับในการขยายกำลังการผลิตกระเบื้องขนาดใหญ่ และ Glazed Porcelain ในเวียดนาม

นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า SCGD เป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่งในหลากหลายมิติ ทั้งจุดแข็งด้านการเป็นผู้นำธุรกิจตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียน โดยมีส่วนแบ่งตลาดกระเบื้องเซรามิกเป็นอันดับ 1 ในไทย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ 

รวมถึงมีส่วนแบ่งตลาดสุขภัณฑ์เป็นอันดับ 1 ในไทย มีแบรนด์สินค้าเป็นที่รู้จักและยอมรับทั่วภูมิภาคอาเซียนรวมถึงมีสินค้าครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม มีทีมออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เชี่ยวชาญ มีกระบวนการผลิตและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมในทุกภูมิภาค และมุ่งเติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้กระบวนการผลิตตามหลัก ESG 

ทั้งนี้ การเสนอขายหุ้น IPO ของ SCGD ถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในปีนี้ และมีมูลค่าหลักทรัพย์ (Market cap) ณ ราคา IPO ที่ 18,975 ล้านบาท ล่าสุดได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แทน COTTO ที่ได้รับการเพิกถอนหลักทรัพย์ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามแผนปรับโครงสร้างธุรกิจ 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.