รู้ก่อนซื้อ! ผ่าอนาคต "SPALI" กับแผนลงทุนหมื่นล้านบาท

     ราคาหุ้น "บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI" ปิดการซื้อขายวันนี้(19 ธ.ค.2566) อยู่ที่ 17.90 บาท ลดลง 0.10 บาท คิดเป็น -0.56% มูลค่าการซื้อขาย 72.74 ล้านบาท โดยราคาขึ้นไปสูงสุด 18.10 บาท และลดลงต่ำสุด 17.80 บาท

 

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า SPALI แจ้งข่าวตลาดหลักทรัพย์ฯเรื่องการจัดตั้งกิจการร่วมค้าใหม่ (Joint Venture) ในประเทศออสเตรเลีย เพื่อซื้อโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จำนวน 12 โครงการจาก Lendlease Corporation Limited โดยเป็นการลงทุนผ่านการจัดตั้งกิจการร่วมค้าคือ “SSRCP HoldCo Pty Ltd” ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง Supalai Australia Holdings Pty Ltd (บ.ย่อยของ SPALI) ถือหุ้นในสัดส่วน 49.9% กับ Stockland Communities Partnership HoldCo Pty Ltd (บ.ย่อยของ Stockland Corporation Ltd. หนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในออสเตรเลีย) ถือหุ้นในสัดส่วน 50.1% 

     โดยจะใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 1,063 ล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือราว 2.5 หมื่นล้านบาท โดย SPALI ลงทุนเป็นเงินราว 1.2 หมื่นล้านบาท ตามสัดส่วน 49.9% สำหรับแหล่งเงินทุนในครั้งนี้จะมาจากกระแสเงินสดภายในกิจการเป็นหลัก ทั้งนี้ SPALI คาดว่าจะเริ่มบันทึกส่วนแบ่งกำไรขาดทุนจาก 12 โครงการใหม่ได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/67 หลังจากกระบวนการโอนกรรมสิทธิ์ในสินทรัพย์เสร็จสิ้น 

      ฝ่ายวิเคราะห์มองเชิงบวกต่อการเข้าลงทุนดังกล่าว โดยตั้งแต่ปี 57 จนถึงปัจจุบัน SPALI ได้มีการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศออสเตรเลียไปแล้ว 12 โครงการ มูลค่ารวม 2.5 หมื่นล้านบาททำให้มีความเข้าใจในตลาดอสังหาฯ ในออสเตรเลียเป็นอย่างดี ประกอบกับการร่วมมือกับพันธมิตรรายใหญ่ในประเทศออสเตรเลียจะเป็นประโยชน์ต่อการลงทุนในอนาคตจาก Know-How ของผู้พัฒนาท้องถิ่น 

     ทั้งนี้ฝ่ายฯมองว่าการลงทุนดังกล่าวจะสามารถช่วยเพิ่มการเติบโตของฐานกำไรให้แก่บริษัทได้ในระยะยาว อีกทั้งยังช่วยกระจายความเสี่ยงจากตลาดอสังหาฯในประเทศไทยที่ยังฟื้นตัวล่าช้า ทำให้มีโอกาสที่เราจะปรับประมาณในปี 67 เพิ่มขึ้น ขณะที่ฝ่ายฯคาดกำไรไตรมาส 4/66 จะเติบโตโดดเด่น QoQ จาก Backlog ที่พร้อมโอนปีนี้ 8.4 พันล้านบาท 

     ประกอบกับการเร่งขายโครงการแนวราบเปิดใหม่ในไตรมาส 4/67 อีก 11 โครงการ ทำให้คาดกำไรทั้งปี66 ลดลงเหลือเพียง 27%YoY จากกำไรงวด 9 เดือนแรกปี66 ลดลง 33% และคาดจะเห็นกำไรฟื้นตัวกลับมาเติบโตในปี 67 เพิ่มขึ้น 8% YoY 

     ประเมินราคาเป้าหมายปี 67 อิงค่า PER เฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปี ที่ 6.8 เท่า ได้ Target Price ที่ 22.30 บาท มี Upside จากราคาปัจจุบันราว 24% บวกกับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจราว 6%  ส่งผลให้เราปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ”

 

ลงทุนเพิ่ม อัพไซด์เพิ่ม

     บล.กรุงศรี พัฒนสิน แนะนำ Trading Buy ราคาเป้าหมาย 23.5 บาท โดยมอง slightly positive ต่อการขยายการลงทุนใน Australia ผ่านการจัดตั้งบริษัท JV ใหม่ร่วมกับ บ. Stockland (ถือ 50.1%) , SPALI ถือ 49.9% เพื่อซื้อโครงการ 12 โครงการใน Australia จาก บ. Lendlease ด้วยมูลค่าเงินลงทุน (ส่วนของ SPALI) ที่ 530 ล้านเหรียญ Aus (หรือราว 12,500 ล้านบาท)

     โครงการลงทุนดังกล่าวเป็นโครงการที่อยู่ระหว่างการขายและโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งเห็น performance ที่ผ่านมาก่อนลงทุน ทำให้ความเสี่ยงน้อยกว่า ฝ่ายฯ assume ผลตอบแทนการลงทุนครั้งนี้ตามผลตอบแทนมูลค่าเงินลงทุนในอัตรา % NPM ใกล้เคียงโครงการ Australia ปัจจุบันที่ SPALI ลงทุน เมื่อหักต้นทุน cost of debt คาดจะเกิดกำไรส่วนเพิ่มไม่ต่ำกว่าราว 500 ล้านบาทต่อปี จะทำให้มี upside ต่อกำไรสุทธิปี 67 ราว 6% หรือเพิ่มมาที่ราว 7 พันล้านบาท ขณะที่ราคาเป้าหมายปี 67 เพิ่มใกล้เคียงกันที่ 6% หรือราว 24.75 บาท/หุ้น ทั้งนี้ฐานะทางการเงินยังไม่น่ากังวล โดยคาด IBD/E จะรักษาระดับให้ไม่เกินที่ราว 0.7x ได้
     ฝ่ายฯคงคำแนะนำ trading buy มอง story ระยะสั้นยังไม่เด่นจากกำไรปี66 ต่ำกว่าคาด และปันผลจ่ายช่วงครึ่งหลังปี66ไม่สูงนัก เมื่อเทียบกลุ่มฯ และมองปี 66-67 ยังเป็นช่วงพักตัวของกำไร แต่หากผลตอบแทนจาก Australia ดีกว่าที่ประเมิน เป็นโอกาสของการลงทุนระยะยาว
 
 

สัญญาณปี 67 เริ่มดี

     บล.ทิสโก้ แนะนำ “ซื้อ” มูลค่าที่เหมาะสม 26 บาท SPALI ประกาศเพิ่มการลงทุนในการดำเนินงานในออสเตรเลีย จากปัจจุบันลงทุนใน 12 โครงการที่เพิ่มเข้ามาด้วย 12 โครงการใหม่ ผ่านการร่วมลงทุน 49.9% กับ Stockland ภายใต้การถือหุ้น SSRCP

     โดยมีการซื้อชุดสินทรัพย์อสังหาริมทรัพย์จาก Lendlease Group ซึ่งเป็นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่มีแพลตฟอร์มการลงทุนและการพัฒนาระดับโลก และต้องการเปลี่ยนออกจากอสังหาริมทรัพย์และเสนอขายสินทรัพย์หลายรายการ

     พอร์ตโฟลิโอการลงทุนในปัจจุบันของ SPALI ในออสเตรเลียมีมูลค่า 415 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย และพอร์ตโครงการใหม่มีมูลค่า 530 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ส่งผลให้การลงทุนทั้งหมดของ SPALI ในออสเตรเลียมีมูลค่า 945 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ทั้งนี้ การลงทุนที่มีอยู่ไม่ได้ละเมิดข้อกำหนดในการลงทุนของ SPALI เกิน 15% ของสินทรัพย์สุทธิทำให้ที่ไม่จำเป็นต้องรายงานตามข้อกำหนด

     SPALI ได้ทำการบรรยายสรุปเพื่ออัปเดตข้อตกลงและแจ้งว่าผลตอบแทนที่คาดหวังจากโครงการที่ได้มาใหม่น่าจะใกล้เคียงกับโครงการซึ่งต่ำกว่าในไทยเล็กน้อย สินทรัพย์ใหม่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินบางส่วนผ่านกระแสเงินสดภายในที่มีอยู่ในออสเตรเลีย และไม่ควรทำให้ต้นทุนหนี้ของบริษัทเกิน 2.78% และต้องอยู่ภายใน D/E สุทธิของบริษัทที่ 70% แม้จะมีการลงทุนทั้งหมด SPALI ยังคงมีวงเงินสินเชื่อผ่านธนาคารมูลค่า 1.8 หมื่นล้านบาท และมีต้นทุนการระดมทุนต่ำ

     ประเด็นสำคัญคือ ฝ่ายฯเชื่อว่าการลงทุนในประเทศออสเตรเลียยังคงค่อยๆมีส่วนช่วยในสัดส่วนรวมของบริษัท และเนื่องจากบริษัทยังคงลงทุนใหม่โดยอาศัยความเชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ของตน และได้รับการพิสูจน์ความสำเร็จจากการลงทุนครั้งใหม่ในออสเตรเลีย อีกทั้งยังคงเชื่อว่าการลงทุนดังกล่าวจะช่วยกระจายธุรกิจโดยรวมของบริษัท ด้วยแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยยังคงอ่อนแออยู่ และ SPALI เป็นผู้ประกอบการรายสำคัญในการเจาะตลาดในต่างจังหวัดซึ่งมีการลงทุนในประเทศที่สูง

     โครงการใหม่เหล่านี้น่าจะช่วยสนับสนุนกำไรของ SPALI ต่อไปภายในไตรมาส 2/67 ในรูปของรายได้จากกิจการร่วมค้า SPALI ไม่ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการร่วมทุน แต่คาดว่าจะเห็นการเพิ่มขึ้นในปีแรกใกล้กับ 4-5% ในรายได้และสูงขึ้นในปี 68 เป็นต้นไป

     บริษัทอ้างว่าการร่วมทุนครั้งใหม่จะเพิ่มสถานที่ตั้งมากขึ้นในการลงทุนสำหรับพอร์ตโฟลิโอที่มีอยู่ของ SPALI จาก 3 รัฐ เป็น 5 ที่ดิน โดยมีซิดนีย์และวูลลองกองเป็นสองรัฐใหม่ที่เพิ่มเข้ามา ทั้งนี้ บริษัทได้กล่าวถึงข้อกังวลจำกัดจากการ cannibalization ในการดำเนินงานที่อยู่ในรัฐเดียวกัน เนื่องจากแพลตฟอร์มที่อยู่อาศัยยังคงตอบสนองความต้องการของท้องถิ่นต่อไป 

 

ปันผลปีหน้าสูง 

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) มองปี 67 ทาง SPALI จะเปิดโครงการสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และมีคอนโดครบกำหนดโอน 5 โครงการ ซึ่งจะช่วยหนุนให้เกิดรายได้จากการโอนตลอดทั้งปี ซึ่งมีโอกาสที่จะมากกว่าปี 66 ซึ่งมีเพียง 2 โครงการ

     ขณะที่ในไตรมาส 1/67 มีแผนเปิดตัวโครงการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 14 โครงการ มูลค่า 1.7 หมื่นล้านบาท ด้าน Dividend Yield คาดปี 67 ราว 6.2% สูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่ 5.7%

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.