SET มีอัตราเร่งลดลง หลังวานนี้ฟื้นตัวเด่น ต้องขึ้นทะลุ 1,400 เพื่อเป็นบวก
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า SET ฟื้นตัวเด่นเมื่อวาน ขณะที่วันนี้คาดมีอัตราเร่งลดลง และมีแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,400 จุด ต้องขึ้นทะลุผ่านให้ได้ก่อน เพื่อพลิกสัญญาณเทคนิคให้เป็นบวก มิฉะนั้นในภาพรวมยังเป็นลบ และเป็นเพียงการดีดสลับ เพื่อปรับลงต่อ ด้านแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1,370 และ 1,360 จุด ตามลำดับ หากต่ำกว่าจะเป็นสัญญาณลบ
ทั้งนี้ มองช่วงสั้นตลาดหุ้นโลกมีโอกาสปรับตัวขึ้น จากมุมมอง Fed ที่ Dovish มากขึ้น (ดอกเบี้ยผ่านจุดสูงสุด และ Dot Plot บ่งชี้ดอกเบี้ยจะลดลง 75 bps มากกว่ารอบก่อนที่ 50 bps ขณะที่ประเมินเศรษฐกิจสหรัฐจะเติบโต 1.4% ในปี 2567) ซึ่งจะส่งผลบวกมายังตลาดหุ้นไทย อีกทั้งตลาดหุ้นไทยมีโอกาสได้รับเม็ดเงินลงทุนจากกองทุน TESG และ RMF ที่กำลังจะ ทยอยเข้ามาในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2566 ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ "Selective Buy" ดังนี้
1) หุ้น Big Cap. (SET50) ที่คาดเป็นเป้าหมายการลงทุนจากแผนจัดตั้งกองทุน TESG ซึ่งเราได้คัดเลือกหุ้นที่อยู่ในดัชนี SETESG ที่มีคุณสมบัติน่าสนใจ ดังนี้ (l) ได้ ESG Rating "AAA" หรือ "AA" และ (ll) ราคาหุ้นปรับด้วยแรงกว่า SET YTD เลือก SCGP OR CPALL BEM GULF CRC HMPRO ขณะหุ้น ESG Rating "A" ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวลงแรงมากในช่วงที่ผ่านมา แนะนำ AOT
2) Big Cap. (SET50) ที่คาดเป็นเป้าหมายการลงทุนจากแผนจัดตั้งกองทุน TESG ซึ่งคัดเลือกหุ้นที่อยู่ในดัชนี SETESG ที่ได้ ESG Rating ”AAA“ และราคาหุ้นปรับขึ้นดีกว่า SET YTD อีกทั้งผลการดำเนินงาน ยังแข็งแกร่ง และคาดให้ Div. Yield มากกว่า 5% ต่อปี เลือก PTT KTB
3) นักลงทุนระยะยาวแนะนำเริ่มลงทุนแบบ Dolor Cost Average (DCA) เนื่องจากมองเป็นจังหวะที่ดีที่สุด หลัง SET ปรับลงแรงจนความเสี่ยงลดลงไปมากและราคาหุ้นอยู่ในระดับ Undervalue มาก โดย เลือก BBL BDMS BEM CPALL PTT และ SCC ซึ่งเป็นหุ้น SET100 ซึ่งเป็นผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรม และมี ESG Rating ระดับ AAA / AA, Valuation ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี และผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง
ช่วงสั้นแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบอย่างมีนัยจากแผนปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาล ซึ่งคาดจะมีการเสนอ ครม. พิจารณาภายในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ ได้แก่ กลุ่มขนส่งพัสดุ (KEX) อาหาร (CPF ZEN GFPT TU) กลุ่มอสังหาฯ (LPN PSH) และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (HANA)
ขณะที่ระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากภาวะเอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังซื้อภาคเกษตรลดลง ได้แก่ กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG จากราคาน้ำตาลที่สูงขึ้น) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT BTG)
สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ BCP ได้ ESG Rating "AAA" คาดกำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 4/2566 เพิ่มขึ้น QoQ หลังรวมผลการดำเนินงานของ BSRC เข้ามาเต็มไตรมาส และปริมาณน้ำมันดิบนำเข้ากลั่นสูงขึ้นหลังหยุดซ่อมบำรุงตามแผนในไตรมาส 3/2566 อีกทั้ง Valuation ยังไม่แพงด้วย PBV 0.7 เท่า ต่ำกว่า -1SD รอบ 10 ปี
AP ได้ ESG Rating “AA” คาดกำไรสุทธิปีนี้เติบโต 6.2% YoY เป็น 6.24 พันลบ. ท่าจุดสูงสุดใหม่ คาดกําไร 4066 เพิ่มขึ้น YoY และเพิ่มขึ้นเล็กน้อย Qoo จากการโอน backlog โครงการ Aspire ปิ่นเกล้า-อรุณอมรินทร์ และ The Address สยาม-ราชเทวี อีกทั้งคาดหวัง Div. Yield ปีนี้ได้ที่ 6%
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.