JKN แจงเหตุไม่เชิญ 2 กรรมการ เข้าประชุมบอร์ดลงมติยื่นขอฟื้นฟูกิจการ

คุณแอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN เปิดเผยว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้บริษัทชี้แจงกรณีกรรมการไม่ได้รับเชิญให้เข้าประชุมคณะกรรมการบริษัท เพื่อลงมติขอยื่นฟื้นฟูกิจการนั้น บริษัทขอเรียนว่าในวันที่ 7 พ.ย.2566 บริษัทไม่ได้ส่งหนังสือเชิญประชุมให้กรรมการ เนื่องจากเป็นความจำเป็นเร่งด่วน ดังมีเหตุจำเป็น ดังนี้

1.สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่บริษัทได้ผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ครั้งที่ 2/2563 (JKN239A) ซึ่งถึงกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 1 ก.ย.2566 และภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว บริษัทได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ให้ผ่อนผันให้การผิดนัดชำระเงินต้นและดอกเบี้ยในวันครบกำหนดไถ่ถอน ในวันที่ 1 ก.ย.2566 ไม่ถือเป็นเหตุผิดนัดตามข้อกำหนดสิทธิและไม่เรียกชำระหนี้ตามหุ้นกู้ โดยพลัน (Call Default)

2.จากเหตุการณ์ผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ตามข้อ (1) ทำให้บริษัทผิดนัดในหุ้นกู้รุ่นอื่นๆ ที่ออกและเสนอขายโดยบริษัททุกรุ่นในทันทีตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดสิทธิ ทั้งนี้ บริษัทมีกำหนดการที่จะนัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ทุกรุ่นภายในวันที่ 8 ธ.ค.2566 เพื่อขอแก้ไขเหตุผิดนัดดังกล่าว

3.ต่อมาบริษัทได้ว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อจัดทำแผนการชำระหนี้หุ้นกู้และนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ภายในวันที่ 8 ธ.ค.2566 โดยทำการวิเคราะห์แนวทางการชำระหนี้ของบริษัท จากข้อมูลต่างๆ ของบริษัทแล้ว ได้ข้อสรุปว่าในการชำระหนี้หุ้นกู้ของบริษัทนั้นจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน

ทั้งนี้ บริษัทได้ดำเนินการแจ้งข้อเท็จจริงดังกล่าวให้แก่ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้และผู้จำหน่ายหุ้นกู้ทราบ โดยส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่าผู้ถือหุ้นกู้อาจจะไม่อนุมัติให้ผ่อนผันเหตุผิดนัดดังกล่าวได้ เนื่องจากระยะเวลาการชำระหนี้นั้นมีระยะเวลายาวนานเกินไป จึงเสนอให้บริษัทปรับลดระยะเวลาแผนการชำระหนี้ให้สั้นลงกว่าเดิม บริษัทได้พิจารณาแล้วเห็นว่าบริษัทไม่สามารถชำระหนี้หุ้นกู้ภายในระยะเวลาที่สั้นลงกว่านี้ได้ เนื่องจากบริษัทมีภาระหนี้อื่นๆ นอกเหนือจากหุ้นกู้อีกด้วย

4.ด้วยเหตุการณ์ดังที่กล่าวมาข้างต้น บริษัทจึงมีความจำเป็นรีบด่วน (เนื่องจากประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ (CEO&MD) จะต้องเดินทางไปต่างประเทศเป็นเวลา 1 เดือน เพื่อปฏิบัติภารกิจการจัดงานประกวด Miss Universe 2023 และเจรจาธุรกิจกับคู่ค้าต่างๆ หลายประเทศ เพื่อเป็นการหารายได้กลับเข้าสู่บริษัท อันเป็นส่วนหนึ่งของแผนการดำเนินธุรกิจที่ได้วางไว้) ที่จะต้องกระทำเพื่อรักษาสิทธิหรือประโยชน์ของบริษัท 

ประกอบกับเลขานุการของบริษัทมีภารกิจสำคัญหลายอย่างที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จในทันที อันสืบเนื่องมาจากเหตุผิดนัดชำระหุ้นกู้ตามข้อ (1) ทำให้บริษัทไม่สามารถออกหนังสือเชิญประชุมเป็นหนังสือ แต่ได้ดำเนินการเรียกประชุม โดยโทรศัพท์แจ้งกรรมการได้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในข้อบังคับของบริษัทข้อที่ 27. วรรคหก ซึ่งได้กำหนดไว้ว่า “ในการเรียกประชุมคณะกรรมการให้ส่งหนังสือเชิญประชุมไปยังกรรมการไม่น้อยกว่าสาม 3 วัน ก่อนวันประชุม เว้นแต่ในกรณีจําเป็นรีบด่วน เพื่อรักษาสิทธิหรือประโยชน์ของบริษัท จะแจ้งการนัดประชุมโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีการอื่นใด และกำหนดวันประชุมให้เร็วกว่านั้นก็ได้”

แต่ทั้งนี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ (CEO&MD) ได้ดำเนินการติดต่อไปยังคณะกรรมการของบริษัทโดยตรงด้วยวิธีการทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 7 พ.ย.2566 เพื่ออธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและแผนสำรองหากการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ไม่เห็นชอบกับแผนการชำระหนี้หุ้นกู้ที่จัดทําโดยที่ปรึกษาทางการเงิน จะทำให้หนี้หุ้นกู้ทุกรุ่นถึงกําหนดชำระโดยพลัน ดังนั้น บริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องยื่นคําร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง โดยกรรมการของบริษัทไม่ได้มีการคัดค้านการยื่นฟื้นฟูกิจการแต่อย่างใด

5.ต่อมาวันที่ 8 พ.ย.2566 บริษัทได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง โดยประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ (CEO&MD) ได้มีการโทรศัพท์อธิบายความจำเป็นรีบด่วนของการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางกับกรรมการบางท่านอีกครั้งจนเป็นที่เข้าใจ

6.ต่อมาในวันที่ 9 และ 10 พ.ย.2566 ได้มีกรรมการรวม 5 ท่าน ยื่นหนังสือขอลาออกจากการเป็นกรรมการ โดยมีรายละเอียดตามหนังสือที่ JKNGB-010-11/2566

บริษัทขอเรียนชี้แจงว่าการติดต่อกรรมการทุกท่านผ่านทางโทรศัพท์เกี่ยวกับความจำเป็นในการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง เมื่อวันที่ 8 พ.ย.2566 เป็นไปด้วยความจําเป็นรีบด่วน เพื่อรักษาสิทธิหรือประโยชน์ของบริษัทโดยสุจริต

ทั้งนี้ กรรมการทุกท่านที่บริษัทได้ติดต่อไปนั้นก็ไม่ได้มีผู้ใดคัดค้านการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทแต่อย่างใด นอกเหนือจากนั้นแล้วการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทได้กระทําโดยกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัท ซึ่งตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ.2535 มาตรา 97 ได้บัญญัติไว้ว่า “เว้นแต่จะมีบัญญัติไว้ในหมวดนี้เป็นอย่างอื่น ความเกี่ยวพันระหว่างกรรมการบริษัท และบุคคลภายนอก ให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยตัวแทน” ประกอบกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 820 ได้บัญญัติไว้ว่า “ตัวการย่อมมีความผูกพันต่อบุคคลภายนอกในกิจการทั้งหลายอันตัวแทนหรือตัวแทนช่วงได้ทำไปภายในขอบอำนาจแห่งตัวแทน”

ดังนั้นการกระทำของกรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัท จึงเป็นการชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ เนื่องจากบทบัญญัติของกฎหมายไม่ได้บัญญัติไว้ว่าการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการนั้น จะต้องได้รับการอนุมัติจากมติที่ประชุมคณะกรรมการแต่อย่างใด และบริษัทขอเรียนต่อไปว่าการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางของบริษัทดังกล่าว จะช่วยให้บริษัทสามารถประกอบกิจการไปพร้อมกับการบริหารสภาพคล่องทางการเงิน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดและเป็นธรรมแก่เจ้าหนี้ทั้งหลายของบริษัทได้ต่อไป

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.