เปิดโฉม "ศัตรูตัวร้ายของทุกคนในตลาดทุนไทย" วอนอย่าทิ้งใครไว้ข้างหลัง
นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) โพสต์บนสื่อโซเชียล หัวข้อ "ศัตรูตัวร้ายของทุกคนในตลาดทุนไทย" โดยระบุว่า ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่ากระแสความกังวลในกลุ่มนักลงทุนทวีความวิตกกังวลมากขึ้น ต่อความไม่มั่นใจว่าตลาดทุนไทยมีช่องโหว่ที่อาจเกิดการทำ Naked Short Selling ได้หรือไม่ ? ทั้งจากการตั้งข้อสงสัยว่ามาตรการของเราในปัจจุบันอาจไม่สามารถตรวจสอบได้ถึง Custodian ต่างประเทศและลูกค้าปลายทางได้โดยสมบูรณ์ ด้วยข้อจำกัดทางกฎหมายระหว่างประเทศและอำนาจของหน่วยงานไทยที่อาจต้องใช้เวลานานในการตรวจสอบ อาจทำให้ Hedge Fund ที่เปรียบเสมือนฉลามในตลาดทุนทั่วโลกพยายามใช้ข้อได้เปรียบดังกล่าวเพื่อหากำไรส่วนต่างและพร้อมโจมตีทุกตลาดทุนทั่วโลก มิใช่เพียงตลาดหุ้นไทย
เป็นที่น่าเห็นใจและต้องเข้าใจผู้กำกับดูแลกฎระเบียบของตลาดทุนไทยว่าปัจจุบันก็ได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆครบถ้วนที่คิดไว้อย่างรอบคอบและถี่ถ้วนแล้วเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับนักลงทุนทุกกลุ่ม แต่คงปฏิเสธไม่ได้เต็มปาก 100% ว่า เราไม่เคยถูกโจมตีจาก Hedge Fund ในการทำ Naked Short Selling เพราะตัวอย่างประเทศรอบบ้านในเอเชีย เช่น เกาหลีใต้ ก็พบเคสของการทำ Naked Short Selling หลายกรณีทำให้ต้องมีการห้ามทำ Short Selling ถึง มิ.ย.2567 (และอาจขยายเวลาออกไปอีก) เพื่อให้มีเวลาสะสางตรวจสอบจัดการกับผู้กระทำผิด รวมทั้งยกเครื่องครั้งใหญ่ต่อระดับมาตรการทั้งหมดเพื่อไม่ให้ปัญหาดังกล่าวยังเป็นข้อสงสัยในใจของนักลงทุนเมื่ออนุญาตให้การทำ Short Selling กลับมาทำได้อีกครั้งในอนาคต นอกจากนั้น ตลาดทุนที่พัฒนากว่าทั้งไทยและเกาหลีใต้ คือ สหรัฐฯ ในแง่ของ Framework ที่จะป้องกันนักลงทุนทุกกลุ่มไม่ให้ถูกเอาเปรียบจากนักลงทุนบางกลุ่มในการทำ Naked Short Selling ก็ยังพบเคสในการกระทำผิดอยู่บ่อยครั้งซึ่งสามารถดูข้อมูลได้ใน Website ของ SEC สหรัฐฯ
ดังนั้น จึงยังมิอาจเบาใจได้ว่าการที่เราตรวจสอบครบทุกขั้นตอนแล้วอย่างระมัดระวังและไม่พบการทำ Naked Short Selling แต่มิได้หมายความว่าไม่เคยเกิด Naked Short Selling ขึ้นเลยในตลาดทุนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เกิดข้อสงสัยว่าการซื้อขายหุ้นของต่างชาติผ่าน Custodian ต่างชาติ เราสามารถตรวจสอบได้ครบวงจรทั้งหมดมากน้อยเพียงใด ทั้งที่ได้มีการสอบทานจาก Broker ผู้ให้บริการลูกค้าดังกล่าวแล้ว และการทางการได้สอบถามไปยัง Custodian ต่างชาติแต่ละรายแล้ว และได้รับการยืนยันจาก Custodian ต่างชาติว่าไม่เกิดเหตุดังกล่าว รวมทั้งขั้นตอนภายในของ ตลท.ที่พยายามอย่างสุดกำลัง และคอยสอดส่องดูแลอย่างเข้มข้นแบบหลายขั้นตอนแล้วเพื่อปกป้องนักลงทุนในประเทศ ซึ่งเป็นที่น่าชื่นชมเพราะทั้ง ก.ล.ต.และตลท. ได้ออกมาแถลงมาตรการต่างๆอย่างรวดเร็วตลอด 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความพยายามกำกับดูแลต่อนักลงทุนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน
อย่างไรก็ตาม คงต้องยอมรับกันว่าปัจจุบันมิจฉาชีพมาในหลายรูปแบบและฉลาดขึ้นทุกวันแบบเท่าทวีคูณ 24 ชั่วโมง เปรียบเสมือนมะเร็งร้ายที่เปลี่ยนสายพันธุ์ใหม่ตลอดเวลา ซึ่งก็ไม่ต่างกับความสามารถของ Hedge Fund ต่างชาติ ที่พร้อมจะแสวงหาโอกาสทำกำไร ถ้าประตูบ้านของเราไม่ได้ถูกปิดให้หนาแน่นอย่างสนิทเพียงพอตามกาลเวลาและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็เชื่อว่าหน่วยงานภาครัฐฯได้รับทราบและเร่งพัฒนาแล้วอย่างต่อเนื่องอย่างดีที่สุดตลอดเวลา
ดังนั้น จนกว่าความเคลือบแคลงใจของนักลงทุนทุกกลุ่มจะหมดไปและเปลี่ยนเป็นความเชื่อมั่น หลังเชื่อได้แน่แล้วว่าประตูบ้านของเราที่ถูกปิดไว้แน่นหนาเป็นอย่างดี แถมด้วย CCTV สอดส่องหลังบานประตูอีกชั้นจากมาตรการตรวจสอบโดยทันทีเมื่อพบพฤติกรรมที่น่าสงสัย มิได้มีช่องว่างเพียงเล็กน้อยระดับนาโนให้แมลงวันตัวร้ายความเร็วสูงระดับแสนล้านการกระพือปีกต่อวินาทีบินผ่านจากการกระพริบตาเพียงครั้งเดียว เห็นได้จากสัดส่วนของ Trading Program ที่เพิ่มขึ้นมากในปัจจุบัน แต่ระบบเทคโนโลยีของเราในการป้องกันเพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่เร็วเพียงพอหรือไม่ ซึ่งเชื่อว่าคนไทยเก่งเพียงพอที่จะตามทันอย่างแน่นอน แต่ความท้าทายของผู้ดูแลกฎหมายก็เป็นสิ่งที่น่าเห็นใจ เพราะมิจฉาชีพมักจะมีจินตนาการที่เรามิอาจคิดได้จนกว่าจะเกิดเหตุการณ์
ด้วยเหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้ ผนวกกับตลาดหุ้นไทยปีนี้เคลื่อนไหว Underperform หลายตลาดหุ้นทั่วโลก จากหลายปัจจัย เช่น เศรษฐกิจชะลอตัว, ช่วงคาบเกี่ยวการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล, ดอกเบี้ยสหรัฐฯเพิ่มขึ้นในระดับสูงส่งผลให้เงินทุนไหลออกจากประเทศเอเซีย, Valuation ตลาดหุ้นยังไม่ถูกเพียงพอ เมื่อเทียบกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในแง่ของ Earning Yield Gap และเหตุผลอื่นๆอีกมากมาย จึงเป็นปีที่ท้าทายมากต่อการลงทุนในตลาดหุ้นแต่ก็เป็นที่เข้าใจได้ในแง่ของวัฏจักรการลงทุนที่มีทั้งขึ้นและลง
เราอาจเห็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนว่านักลงทุนในประเทศปีนี้ลงทุนแล้วขาดทุนจึงมีความเกรี้ยวกราด และนำ Short Selling หรือ SBL เป็นแพะรับบาป ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วการได้กำไรหรือขาดทุน เปรียบเสมือนสัจธรรมที่นักลงทุนเข้าใจกันดี และการทำ SBL ก็เป็นเครื่องมือที่นักลงทุนรู้จักกันเป็นอย่างดีแล้วในตลาดทุนไทยปัจจุบัน
แต่สิ่งที่เชื่อว่าทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้นทั้งจากนักลงทุนและผู้กำกับดูแล คือ Naked Short Selling ที่อาจเกิดจากรอยโหว่ต่างๆที่เราอาจมองไม่เห็น ซึ่งท้ายที่สุดแล้วทั้งนักลงทุนและผู้กำกับดูแลล้วนเป็นผู้เสียหายหากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เพราะเปรียบเสมือนการถูกเอาเปรียบจากนักลงทุนต่างชาติที่ไม่ประสงค์ดี (หากมีจริง) จึงเป็นข้อดีที่เราควรใช้เป็นโอกาสในการยกระดับมาตรฐานของตลาดทุนไทยขึ้นไปอีกระดับ จึงขอเป็นกำลังใจให้กับทั้งนักลงทุนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ศัตรูตัวร้ายของทุกคนในตลาดทุนไทย มิใช่ Program Trading ที่ดี, มิใช่หน่วยงานกำกับดูแล, มิใช้ความพยายามออกมาแสดงความเห็นของนักลงทุนในประเทศ แต่ศัตรูตัวร้ายร่วมกันของทุกคน คือ แมลงวันตัวร้ายบางตัวที่พยายามบินหาช่องโหว่ นอกกฎระเบียบ นอกเหนือขอบเขตของหน่วยงาน ที่แม้เท่ารูเข็มก็ยังหาช่องทางได้ และพยายามเล็ดลอดเข้ามา
เราจึงต้องช่วยกันหาไม้ตีแมลงวันมาจัดการ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งนักลงทุนที่สามารถชี้เป้าให้หน่วยงานที่กำกับดูแลตรวจสอบ, การยกระดับมาตรการกำกับดูแลและการเปิดเผยข้อมูล, การใช้กฎหมายระหว่างประเทศ, โครงสร้างราคาอุตสาหกรรม, ESG ในการดำเนินธุรกิจ ฯลฯ
อย่าทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพราะนักลงทุนและเจ้าหน้าที่ IC ที่เป็นมนุษย์ล้วนมีหัวใจและครอบครัวที่ต้องดูแล
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.