TOA ฟาดกำไร Q3/66 ทะลุ 651 ล้านบาท โต 86% แย้ม Q4 รับไฮซีซั่นก่อสร้าง-ท่องเที่ยว

นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2566 บริษัทมีกำไรสุทธิกว่า 651 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 86% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวม 5,454 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้วยกลยุทธ์การทำธุรกิจอย่างครบวงจร ที่โดดเด่นด้วยนวัตกรรมสี เคมีภัณฑ์ก่อสร้าง ยิปซั่มบอร์ด และมีเครือข่ายจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมและเข้าถึงผู้บริโภคทั่วประเทศ รวมทั้งแรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในประเทศ 

ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรก ปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ 2,025 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 80% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวมกว่า 16,666 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 

ขณะเดียวกัน อัตรากำไรขั้นต้นในภาพรวมที่มีการฟื้นตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับงวดปีก่อน เนื่องจากการบริหารจัดการด้านวัตถุดิบและต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ประกอบกับวัตถุดิบบางส่วนปรับราคาลง

สำหรับภาพรวมตลาดในไตรมาส 4/2566 มองว่ายังมีแนวโน้มเป็นบวก สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะดีมานด์มีความต้องการใช้สีและวัสดุก่อสร้างไปจนถึงต้นปี 2567 เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของอุตสาหกรรมก่อสร้างและการท่องเที่ยว รวมถึงมาตรการภาครัฐ เพื่อสร้างรายได้ให้มีเม็ดเงินหมุนเวียน ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้คล่องตัวขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทได้มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจด้วยหลัก ESG ครบทุกมิติ จนทำให้ได้รับการประเมินเป็นหุ้นยั่งยืน (SET ESG Ratings) ระดับ A ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ประจำปี 2566 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุน นักวิเคราะห์การลงทุน และผู้จัดการกองทุน ด้วยความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ทั้งการมีธรรมาภิบาลที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ มีความรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคม ควบคู่กับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ด้วยภารกิจการเป็นองค์กรอุตสาหกรรมสีเขียว เพื่อมุ่งสู่ Net Zero ภายในปี 2050 

ดังนั้น บริษัทจึงได้เปิดตัวมาตรฐานใหม่ “TOA GREEN CERTIFIED” สัญลักษณ์สินค้าคุณภาพ การันตีด้วยเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยที่ดีต่อผู้บริโภคและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย 

1. HEALTH AND WELLNESS : ผ่านมาตรฐาน Indoor Environmental Quality, LEED 4.1 และ WELL สารระเหยอินทรีย์ (VOCs) ต่ำ 

2. GREEN PRODUCTION : ผ่านมาตรฐานการผลิต Green Industry Level 4 ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon Footprint) มีฉลากคาร์บอน ใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในกระบวนการผลิต ลดของเสียจากกระบวนการผลิต 

3. GREEN MATERIAL AND PACKAGING : ลดการใช้วัตถุดิบที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สามารถเวียนบรรจุภัณฑ์กลับมาใช้ใหม่ และการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ

4. ENERGY AND COST SAVING : ช่วยประหยัดพลังงาน ลดความร้อนในอาคาร (ฉลากประหยัดพลังงาน เบอร์ 5) เพิ่มอายุการใช้งาน ลดทรัพยากรและค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาอาคาร ลดขั้นตอน ประหยัดเวลาการทาสี 

5. GREEN INNOVATION AND SOLUTION : นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานที่ดีกว่า และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ดียิ่งขึ้น ที่พ่วงด้วยมาตรฐานระดับโกล์ดคลาส (TOA Green Certified Gold Class) สำหรับสินค้าที่มีนวัตกรรมสีเขียวขั้นสูง ด้วย 2 สุดยอดนวัตกรรมสีรักษ์โลก กับรางวัลชนะเลิศ 2 ปีซ้อน “Best Innovation Award 2022 - 2023” จากเวทีงานสถาปนิก ทั้ง ‘TOA Organic Care’ สีทาภายในที่พัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยี Bio-Based ใช้วัตถุดิบหลักจากพืชหมุนเวียน  รายแรกและรายเดียวในไทยที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก USDA สหรัฐอเมริกา และ ‘TOA AQUA SHIELD’  สีเคลือบทับหน้ารวมรองพื้น สูตรน้ำ กลิ่นอ่อน ปลอดภัย ทาได้หลากหลายพื้นผิว 

“TOA เดินหน้าเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เพื่อก้าวสู่ปีที่ 60 กับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ยกระดับคุณภาพชีวิต ด้วยมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรมสีที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อมุ่งสู่ NET ZERO” นายจตุภัทร์ กล่าว

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.