รวมเหตุการณ์คลาสสิกของ "เอล กลาซิโก้" ในแต่ละทศวรรษ

นับตั้งแต่ลาลีกา ฟุตบอลลีกสูงสุดของประเทศสเปน ก่อตั้งขึ้นในฤดูกาล 1928/29 จนถึงปัจจุบัน มี 2 สโมสรที่ได้ชื่อว่าประสบความสำเร็จมากที่สุดในแดนกระทิงดุ นั่นคือ บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด

เมื่อใดที่ 2 ยักษ์ใหญ่แห่งลาลีกาได้เผชิญหน้ากัน ก็สัมผัสได้ถึงความคลาสสิก จนถูกเรียกว่า "เอล กลาซิโก้" และนี่คือโมเมนต์แห่งความทรงจำของการพบกันระหว่างคู่ปรับตลอดกาลในแต่ละทศวรรษ

ยุค 1920 : ปฐมบทการพบกันในลาลีกา
ฤดูกาลแรกของ "เอล กลาซิโก้" ในลาลีกา เกิดขึ้นเมื่อปี 1929 เรอัล มาดริด บุกไปชนะที่คัมป์ เด เลส คอร์ทส 2-1 ก่อนที่อีกนัด บาร์เซโลน่า บุกไปชนะที่เอสตาดิโอ ชามาติน 1-0 และเมื่อจบซีซั่น บาร์ซ่าคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้เป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์

ยุค 1930 : เอล กลาซิโก้ ที่ชนะขาดลอยสุดในลาลีกา
ศึก "เอล กลาซิโก้" เมื่อฤดูกาล 1934/35 เรอัล มาดริด สร้างสถิติชนะ บาร์เซโลน่า ขาดลอยที่สุดในประวัติศาสตร์ของลาลีกา ที่เอสตาดิโอ ชามาติน ด้วยสกอร์ 8-2 แม้ เฟเรนซ์ แพลตต์โก กุนซือชาวฮังการีของบาร์ซ่าจะขอเปลี่ยนลูกบอลช่วงพักครึ่งก็ตาม

ยุค 1940 : จุดเริ่มต้นภาพจำของเอล กลาซิโก้
ช่วงกลางยุค 1930 เกิดสงครามกลางเมืองในสเปน ทำให้เกม "เอล กลาซิโก้" เพิ่มความดุเดือดมากขึ้น เมื่อเข้าสู่ทศวรรษต่อมา เกมที่ บาร์เซโลน่า เสมอ เรอัล มาดริด ที่คัมป์ เด เลส คอร์ทส 5-5 เมื่อปี 1943 เป็นเกมที่เสมอกันด้วยสกอร์สูงสุดเท่าที่เคยมีมา
ยุค 1950 : ถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ครั้งแรก
15 กุมภาพันธ์ 1959 เป็นครั้งแรกที่เกม "เอล กลาซิโก้" มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ในสเปน เรอัล มาดริด ยุคที่มี อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ และ เฟเรนซ์ ปุสกัส อยู่ในทีม เปิดซานติอาโก้ เบอร์นาเบว ชนะ 1-0 แต่ บาร์เซโลน่า เป็นฝ่ายที่คว้าแชมป์เมื่อจบซีซั่น

ยุค 1960 : ดิ สเตฟาโน่ ยังตามหลอกหลอนบาร์ซ่า
อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ คือนักเตะ เรอัล มาดริด ที่สร้างความหนักใจให้กับ บาร์เซโลน่า ตั้งแต่ยุค 1950 เมื่อเข้าสู่ทศวรรษต่อมา เขาก็ยังตามหลอกหลอนบาร์ซ่าไม่หยุด เมื่อเหมา 2 ลูก ในเกมที่ราชันชุดขาวบุกชนะที่คัมป์ นู 5-3 เมื่อเดือนธันวาคม 1960

ยุค 1970 : นักเตะเทวดาแห่ง บาร์เซโลน่า
โยฮัน ครัฟฟ์ อดีตตำนานนักเตะเทวดาของ บาร์เซโลน่า คือพระเอกของเกม "เอล กลาซิโก้" เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 1974 หลังยิง 1 ประตู กับทำ 3 แอสซิสต์ ในเกมที่บุกไปถล่ม เรอัล มาดริด ถึงซานติอาโก้ เบอร์นาเบว 5-0 และคว้าแชมป์ลาลีกาเมื่อจบซีซั่น

ยุค 1980 : ราชันชุดขาวแชมป์ 5 ซีซั่นติดต่อกัน
เดือนมีนาคม 1986 เรอัล มาดริด เปิดซานติอาโก้ เบอร์นาเบว รับมือ บาร์เซโลน่า กับความหวังคว้าแชมป์ลาลีกาหนแรกในรอบ 6 ปี และเป็นราชันชุดขาวที่ชนะ 3-1 ซึ่งเป็นหนึ่งในซีรี่ส์ของการครองโทรฟี่ลีกสูงสุด 5 ฤดูกาลติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 1986-1990
ยุค 1990 : ปรัชญาแห่ง ครัฟฟ์ สร้างบาร์ซ่ายุคดรีมทีม
ปรัชญาฟุตบอลของ โยฮัน ครัฟฟ์ คือหนึ่งในเอกลักษณ์ของ บาร์เซโลน่า ที่ถูกปลูกฝังมาในยุค 1990 ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของบาร์ซ่าชุด "ดรีมทีม" คว้าแชมป์ลาลีกา 4 สมัยติดต่อกัน และหนึ่งในนั้นคือการเปิดคัมป์ นู ถล่ม เรอัล มาดริด 5-0 เมื่อปี 1994

ยุค 2000 : สแตนดิ้ง โอเวชั่น ที่มอบให้ โรนัลดินโญ่
มีนักเตะ บาร์เซโลน่า เพียงไม่กี่คนที่แฟนบอล เรอัล มาดริด พร้อมใจกันยืนปรบมือเพื่อยกย่องในความยอดเยี่ยม หนึ่งในนั้นคือ โรนัลดินโญ่ ที่เหมาคนเดียว 2 ประตู ในเกมที่บาร์ซ่าบุกไปถล่มถึงซานติอาโก้ เบอร์นาเบว 3-0 เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2005

ยุค 2010 : เมสซี่ ชูเสื้อให้แฟนๆราชันชุดขาว
หนึ่งในโมเมนต์ที่แสบไม่เบาของ ลิโอเนล เมสซี่ อดีตตำนานแข้ง บาร์เซโลน่า เกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายน 2017 เมื่อยิงประตูชัยช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ในเกมที่บุกไปเฉือนชนะ เรอัล มาดริด 3-2 และเขาได้ชูเสื้อของสโมสรต่อหน้าแฟนบอลทีมคู่ปรับตลอดกาล

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.