จับตาวาระครม.'ทักษิณ'จ่อรับอานิสงส์ กม.พักโทษ -อภัยโทษเป็นการทั่วไป

จับตาการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีคนที่1 เป็นประธานการประชุม ในห้วงเวลาที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลังเดินทางไปเยือนประเทศเพื่อนบ้านระหว่างวันที่ 8-12ตุลาคม2566 

การประชุมคณะรัฐมนตรี มีวาระครม.ที่น่าสนใจคือ การพิจารณาให้ความเห็นชอบ  ออกกฎหมายพักโทษและอภัยโทษเป็นการทั่วไป 

สำหรับการพักการลงโทษ หมายถึง การปลดปล่อยออกไปก่อนครบกำหนด ตามคำพิพากษาศาลภายใต้เงื่อนไขคุมประพฤติที่กำหนด อย่างไรก็ตาม การพักโทษมิใช่สิทธิของผู้ต้องขัง แต่เป็นประโยชน์ที่่ทางราชการให้แก่นักโทษเด็ดขาด ที่มีความประพฤติดี มีความก้าวหน้าทางการศึกษา ทำงานเกิดผลดีแก่เรือนจำ หรือทำความดีความชอบแก่ทางราชการเป็นพิเศษ

สำหรับคุณสมบัตินักโทษที่จะได้รับการปล่อยตัว จากการพักการลงโทษ มีดังนี้ 
  
เป็นนักโทษเด็ดขาด 

  • ชั้นเยี่ยม >> เหลือโทษจำคุกไม่เกิน1ใน3 
  • ชั้นดีมาก >> เหลือโทษจำคุกไม่เกิน1ใน4 
  • ชั้นดี >> เหลือโทษจำคุกไม่เกิน1ใน5 

สำหรับวาระพิจารณาเรื่องการพักโทษและอภัยโทษที่จะเข้าสู่การประชุมครม.นี้ มีคำถามว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้พักรักษาตัวอยู่รพ.ตำรวจ ซึ่งศาลฎีกาพิพากษา 3คดี จำคุก8ปี เมื่อ22ส.ค.2566 ต่อมารับพระราชทานอภัยลดโทษเหลือ1ปีจะได้รับอานิสงส์จากการออกกฎหมายพักโทษและอภัยโทษเป็นการทั่วไปด้วยหรือไม่  

ก่อนนี้มีข้อวิจารณ์ว่า มีความเป็นไปได้ที่นายทักษิณจะได้เข้าสู่กระบวน'การพักโทษกรณีมีเหตุพิเศษ' เนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ หรือมีอายุ70ปีขึ้นไป ภายใต้หลักเกณฑ์ว่า เป็นนักโทษเด็ดขาด ต้องโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า1ใน3 คือจำคุก3เดือน ซึ่งจะครบกำหนดเข้าหลักเกณฑ์การขอพักโทษวันที่ 22 ธ.ค.2566

นอกจากขอพักการลงโทษได้แล้ว นายทักษิณ อาจพ้นโทษและได้รับการปล่อยตัวทันที หาก มีพ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษเป็นการทั่วไป ในช่วงของวาระสำคัญต่อจากนี้ด้วย 

ขณะที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ชี้ว่ามีคนจำนวนมากตั้งคำถามและไม่เห็นด้วยกับกรณีนายทักษิณ โดยเฉพาะเรื่องมาตรฐานที่เท่าเทียมกัน เพียงแต่ว่ามีการแสดงออกมาน้อยต่างกันไป

พร้อมเสนอแนะว่ารัฐบาลและพรรคการเมืองในสภา ควรเร่งผลักดันให้มีการตราพ.ร.บ.นิรโทษกรรมคดีที่เกี่ยวกับการแสดงออกทางการเมืองของประชาชน ตามที่นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยื่นต่อประธานรัฐสภาเมื่อช่วงสัปดาห์ก่อน ซึ่งหากทำได้ดังนี้ จะเป็นก้าวแรกของการสร้างความสมานฉันท์และความปรองดองอย่างแท้จริงมากกว่า.

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.