"บิ๊กต่าย" ชี้ ปมคดีลั่นไก สจ.โต้ง ดับคาบ้าน"สุนทร"โยงการเมืองท้องถิ่น

ความคืบหน้ากรณี นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ปราจีนบุรี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อคานิค จำนวน 1 กระบอก และอาวุธปืนลูกซอง 1 กระบอก เสียชีวิตภายในบ้านพักที่อำเภอเมืองจังหวัดปราจีนบุรี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เปิดเผยที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่า หลังจากที่ตนได้รับรายงานเหตุการณ์ดังกล่าว และทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นอดีต สจ.ปราจีนบุรี ซึ่งมีข้อมูลที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันกับคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ของจ.ปราจีนบุรีหลายคดี และเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวานเกิดขึ้นภายในบ้านของนายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี ที่ขณะนี้พักการปฏิบัติหน้าที่อยู่และมีลูกน้องที่ก่อเหตุอยู่ในนั้น

 

 

ตนถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ท้าทายต่อกฎหมายบ้านเมือง และกระทำโดยอุกอาจ ตนจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ลงพื้นที่เพื่อทำการสนับสนุนการปฎิบัติการสืบสวนพิสูจน์ทราบ ทางตำรวจภูธรภาค 2 และตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี ได้ดำเนินการเกือบครบถ้วนแล้วตั้งแต่หลังเกิดเหตุ อีกทั้งยังได้จับกุมผู้กระทำผิดและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างน้อย 7 ราย ที่อยู่ในบ้านที่เกิดเหตุด้วย ในทุกข้อหาตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ ทั้งเรื่องร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพ.ร บ. อาวุธปืน

พร้อมกันนี้ยังสั่งการให้กองพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่โดยด่วนในการตรวจเก็บพยานหลักฐานและวัตถุพยานต่างๆทั้งหมด อีกทั้งยังได้กำชับในเรื่องของการสอบสวนดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดกับผู้ที่มีประวัติทำผิด ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าในการสืบสวนไปมากพอสมควร และหากพบผู้ใดก็ตามที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิด จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด

 

 

แม้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องที่ดี แต่ก็เป็นโอกาสให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจัดการเฝ้าระวังกลุ่มบุคคลที่มีอิทธิพลในหลายๆท้องที่ เพื่อป้องกันและปราบปรามไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกในอนาคต

 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงรายละเอียดในด้านการสืบสวน เช่น ใครเป็นผู้ก่อเหตุยิง ใครเป็นผู้สั่งการ รวมถึงมูลเหตุแรงจูงใจ และพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามขอเวลาให้ทางพนักงานสืบสวนและสอบสวนทำงานก่อน เพื่อที่จะหาข้อเท็จจริงอย่างชัดเจน เบื้องต้นเชื่อว่ามูลเหตุเกี่ยวข้องกับการเมืองท้องถิ่น ส่วนรายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้

 

 

นอกจากนี้ในส่วนที่นายสุนทรกล่าวอ้างว่าขณะเกิดเหตุตนเองได้นอนพักอยู่ในห้อง และไม่ทราบเรื่อง รวมถึงที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าผู้ต้องหาทั้งหมดอาจมีการซักซ้อมให้การในลักษณะเดียวกันนั้น ถามพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ใครจะอ้างอะไรก็อ้างได้แต่จะใช้พยานหลักฐานและข้อเท็จจริงที่ปรากฏ เป็นหลัก ซึ่งหากพบว่าผู้ใดที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือข้าราชการท้องถิ่นที่ให้การช่วยเหลือ ก็จะดำเนินการเอาผิดอย่างไม่ละเว้น 

 

 

ทั้งนี้พนักงานสอบสวนทำการคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่มีอัตราโทษสูง เกรงว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหากได้รับการประกันตัวชั่วคราว

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.