เปิดหลักเกณฑ์ สิทธิประโยชน์จูงใจ หลังครม.ไฟเขียว ทหาร เออร์ลี่รีไทร์

นางสาวเกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม. 9 กรกฎาคม 2567 มีมติเห็นชอบโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดของกระทรวงกลาโหม (กห.) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568-2570 โดยผู้ที่ลาออกได้รับสิทธิประโยชน์ตามโครงการฯ กำหนด รวมทั้งให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องสนับสนุนดำเนินการการโครงการดังกล่าว ตามที่ กห. เสนอ

ทั้งนี้ กห. จะเริ่มดำเนินการโครงการฯ เดือนกรกฎาคม 2567 และจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้องต่อไปเพื่อให้ทันเกษียณอายุราชการภายในเดือนตุลาคม 2567 
 

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า กห. มีแผนปรับลดกำลังพลนายทหารชั้นนายพลในตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ผู้ทรงคุณวฒิ และนายทหารปฏิบัติการ ให้เหลือร้อยละ 50 ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551-2571 และต่อมามีแผนปฏิรูปการบริหารจัดการกำลังพลของ กห. กำหนดเป้าหมายการปรับลดกำลังพลลงร้อยละ 5 ของยอดกำลังพล ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563-2570 กห. จึงได้จัดทำแนวทางการดำเนินโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดของ กห. โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จะสามารถแก้ไขปัญหาด้านกำลังพลของ กห. ได้ตรงจุด มีระยะเวลา 3 ปี และ กห. ได้ประมาณการผู้เข้าร่วมโครงการฯ รวม 3 ปี ประมาณ 732 นาย (ปีละ 244 นาย) และสามารถประหยัดงบประมาณได้ประมาณ 4,479.84 ล้านบาท รายละเอียดสรุปได้ดังนี้

หลักการ – จูงใจข้าราชการทหารที่ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ผู้ทรงคุณวฒิ และนายทหารปฏิบัติการ และประจำหน่วยให้ลาออกจากราชการก่อนเกษียณอายุราชการโดยสมัครใจ เพื่อลดความคับคั่งของกำลังพลในกลุ่มชั้นยศสูง

วัตถุประสงค์
1.) เพื่อปรับขนาดอัตรากำลังพลของ กห. ให้มีความเหมาะสม
2.) เพื่อลดความคับคั่งของผู้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ผู้ทรงคุณวฒิ และนายทหารปฏิบัติการ และประจำหน่วย ซึ่งเป็นกำลังพลในกลุ่มชั้นยศสูง
3.) เพื่อประหยัดงบประมาณด้านบุคลากรของรัฐระยะยาว

เป้าหมาย – ข้าราชการทหารชั้นยศพันเอก นาวาเอกและนาวาอากาศเอกขึ้นไป ซึ่งดำรงตำแหน่งดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ผู้ทรงคุณวฒิ และนายทหารปฏิบัติการ และประจำหน่วย ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และเป็นผู้มีเวลาราชการ 25 ปีขึ้นไป ไม่รวมเวลาราชการทวีคูณ นับถึงวันก่อนออกจากราชการตามโครงการฯ และมีเวลาราชการเหลือ 2 ปีขึ้นไป นับตั้งแต่วันที่ออกจากราชการตามโครงการฯ 

การดำเนินโครงการ/เงื่อนไข
1.จัดสรรจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการฯ แยกตามชั้นยศและตำแหน่งให้กับหน่วยขึ้นตรง กห. กองบัญชาการกองทัพไทย และเหล่าทัพ
2.แต่งตั้ง คกก. พิจารณาคุณสมบัติผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ และคัดเลือกกำลังพลเข้าร่วมโครงการตามเอนไขที่กำหนด
3.กรณีมีผู้สมัครเป็นจำนวนมาก ให้พิจารณาจากปัจจัยตามลำดับดังนี้ ตำแหน่ง อายุ 
4.ไม่ให้นำอัตราตำแหน่ง ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ผู้ทรงคุณวฒิ และนายทหารปฏิบัติการ และประจำหน่วย ที่ว่างจากการเข้าร่วมโครงการฯ มาใช้สำหรับการบรรจุทดแทนกำลังพลในตำแหน่งอัตราแรกบรรจุทุกกรณี
5.ผู้ที่จะปรับทดแทนจะต้องเป็นผู้เหลืออายุราชการไม่เกิน 1 ปี หรือจะเกษียณอายุราชการในปีงบฯ นั้นเท่านั้น เพื่อ กห. จะดำเนินการปิดอัตราดังกล่าวต่อไป
6. ตำแหน่งนายทหารปฏิบัติการ และประจำหน่วย ไม่ให้มีการบรรจุทดแทนทุกกรณี
7.ห้ามบรรจุกลับเข้ารับราชการประจำ และห้ามทำสัญญาจ้างกลับเข้าเป็นพนักงานราชการ

สิทธิประโยชน์ อาทิ สิทธิประโยชน์ที่เป็นเงินก้อน 7-10 เท่าของเงินเดือนเดือนสุดท้ายรวมเงินประจำตำแหน่ง (ถ้ามี) โดยไม่รวมเงินหรือค่าตอบแทนพิเศษอื่นๆ ตามสูตรการคำนวณ ดังนี้ 
เงินก้อน=[5+อายุราชการที่เหลือ (ปี)] x เงินเดือนเดือนสุดท้ายรวมเงินประจำตำแหน่ง (ถ้ามี) แต่สูงสุดไม่เกิน 10 เท่าของเงินเดือนเดือนสุดท้าย รวมเงินประจำตำแหน่ง (ถ้ามี)

แหล่งเงินงบประมาณ – ใช้งบประมาณด้านบุคลากรของ กห. ดำเนินการภายในกรอบวงเงินงบประมาณที่ กห. จัดสรรในวงเงิน 600 ล้านบาท โดยไม่ของบกลางเพิ่มเติม แบ่งการดำเนินโครงการฯ ระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ถึงปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 ในวงเงิน จำนวน 200 ล้านบาท/ปี

การรายงานผลการปฏิบัติ – หน่วยขึ้นตรงต่อกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย และเหล่าทัพ รายงานผลการดำเนินโครงการฯ รวมถึงปัญหาข้อขัดข้องให้สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ภายใน 30 วัน หลังจากวันที่มีคำสั่งให้ข้าราชการทหารออกจากราชการของแต่ละปี เพื่อรวบรวมและสรุปผลนำเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.