ศาลรธน. ย้ำ กกต. มีอำนาจหน้าที่แก้กฎ ผู้สมัครสว.ไม่ต้องเลือกตัวเองก็ได้
วันที่ 5 มิ.ย. 2567 ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาคดีที่น่าสนใจของประชาชน เรื่องพิจารณาที่ 19/2567 และเรื่องพิจารณาที่ 20/2567 ว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พ.ศ. 2561 มาตรา 36 มาตรา 40 มาตรา 41 และมาตรา 42 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 หรือไม่
โดยกรณีศาลปกครองกลางส่งคำโต้แย้งผู้ฟ้องคดี (นางสาววิเตือน งามปลั่ง ในคดีหมายเลขดำที่ 899/2567 เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย มาตรา 212 ว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 36 มาตรา 40 มาตรา 41 และมาตรา 42 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 หรือไม่ (เรื่องพิจารณาที่ 19/2567)
รวมถึงกรณีศาลปกครองกลางส่งคำโต้แย้งของผู้ฟ้องคดีทั้งห้า (นายฤทธิชัย ศรีเมือง ที่ 1 ผู้สมัครรับเลือก สว.ประจำอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช นายเฉลิมชัย ผู้พัฒน์ ที่ 2 ผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาประจำอำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี นายสิทธิชัย ผู้พัฒน์ ที่ 3 ผู้สมัคร รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาประจำอำเภอค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี นายจำนอง บุญเลิศฟ้า ที่ 4 ผู้สมัคร รับเลือกเป็นสมชิกวุฒิสภาประจำอำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี และนายสากล พืชนุกูล ที่ 5 ผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาประจำอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช) ในคดีหมายเลขดำที่ 812/2567 เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย มาตรา 212 ว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 36 มาตรา 40 มาตรา 41 และมาตรา 42 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 หรือไม่ (เรื่องพิจารณาที่ 20/2563)
ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า เนื้อหาคำโต้แย้งของผู้ฟ้องคดีทั้งสองคดีเป็นกรณีโต้แย้งว่าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 36 มาตรา 40 มาตรา 41 และมาตรา 42 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 บทบัญญัติดังกล่าวเป็นบทบัญญัติ ที่ศาลปกครองกลางจะใช้บังคับแก่คดี เมื่อผู้ฟ้องคดีทั้งสองคดีโต้แย้งพร้อมด้วยเหตุผลว่าบทบัญญัติดังกล่าวขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ และยังไม่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวกับบทบัญญัตินี้ กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 วรรคหนึ่ง
ศาลรัฐธรรมนูญมีโดยมติเสียงข้างมาก (8 ต่อ 1) (ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย คือนายอุดม สิทธิวิรัชธรรม) มีคำสั่งรับคำร้องทั้งสองไว้พิจารณาวินิจฉัยเฉพาะประเด็นว่าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 36 มาตรา 40 วรรคหนึ่ง (3) มาตรา 41 วรรคหนึ่ง (3) และมาตรา 42 วรรคหนึ่ง (3) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 หรือไม่ โดยรวมการพิจารณาทั้งสองเรื่องเข้าด้วยกัน
และเพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำความเห็นเป็นหนังสือตามประเด็นที่ ศาลกำหนดและจัดส่งสำเนาเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 5 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ เพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อไป
อนึ่ง ผู้ฟ้องคดียื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลางเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งมาตรการหรือวิธีการใดๆ เป็นการชั่วคราวก่อนการวินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่ายังไม่ปรากฎว่าจะเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การแก้ไขเยียวยาในภายหลัง อีกทั้งหากคณะกรรมการการเลือกตั้งเห็นว่าจะเกิดความเสียหายดังกล่าวย่อมมีหน้าที่และอำนาจที่จะดำเนินการได้ตามรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่กำหนดมาตรการหรือวิธีการใดๆ เป็นการชั่วคราวก่อนการวินิจฉัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. 2561 มาตรา 36 บัญญัติว่า ผู้สมัครอาจแนะนําตัวได้ตามวิธีการและเงื่อนไขที่คณะกรรมการกําหนดบุคคลอื่นซึ่งมิใช่ผู้สมัคร จะช่วยเหลือผู้สมัครในการแนะนําตัว ต้องปฏิบัติตามวิธีการและเงื่อนไขตามวรรคหนึ่ง
มาตรา 40 การเลือกระดับอําเภอ ให้ดําเนินการ ดังต่อไปนี้ (3) ให้ผู้สมัครแต่ละกลุ่มลงคะแนนเลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกันได้ไม่เกินสองคน โดยจะลงคะแนน เลือกตนเองก็ได้ แต่จะลงคะแนนให้บุคคลใดเกินหนึ่งคะแนนมิได้
มาตรา 41 การเลือกระดับจังหวัด ให้ดําเนินการ ดังต่อไปนี้ (3) ให้ผู้ได้รับเลือกระดับอําเภอแต่ละกลุ่มลงคะแนนเลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกันได้ไม่เกินสองคน โดยจะลงคะแนนเลือกตนเองก็ได้ แต่จะลงคะแนนให้บุคคลใดเกินหนึ่งคะแนนมิได้
มาตรา 42 การเลือกระดับประเทศ ให้ดําเนินการ ดังต่อไปนี้ (3) ให้ผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัดแต่ละกลุ่มลงคะแนนเลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกันได้ไม่เกินสิบคน โดยจะลงคะแนนเลือกตนเองก็ได้ แต่จะลงคะแนนให้บุคคลใดเกินหนึ่งคะแนนมิได้
จากปมประเด็นดังกล่าว กระทั่งช่วงเย็นวันที่5มิ.ย.ยังไม่มีความคิดเห็นจากกกต.เพิ่มเติม มีเพียงการออกมาประกาศกำหนดสถานที่เลือก สว. ทั้งระดับอำเภอ จังหวัด และประเทศ เช่น การเลือกระดับอำเภอในกรุงเทพฯ ที่จะมีการเลือกวันที่ 9 มิถุนายนนี้ เขตหลักสี่ใช้ห้องประชุมของสโมสรตำรวจ หรือการเลือก สว.ของสำนักงานเขตบางเขน ใช้พื้นที่ศูนย์กีฬารามอินทรา บางเขน
ส่วนการเลือกระดับจังหวัดของกรุงเทพฯ ที่จะมีการเลือกวันที่ 16 มิถุนายนนี้ ใช้สถานที่โรมแรมเซ็นทาราศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ
ขณะที่การเลือกระดับประเทศวันที่ 26 มิถุนายน ใช้ อาคารศูนย์การประชุมอิมแพ็คฟอรั่ม อาคาร 4 เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.