ปักธงแสนคน สมัครสว.67 กับเครื่องมือ คณะก้าวหน้า เดินสายย้ำหมุดหมาย แก้รธน.

เมื่อวันที่23เม.ย. คณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบตามที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เสนอ ร่างพระราชกฤษฎีกาการเลือกสมาชิกวุฒิสภา(สว.) เสนอมา โดยกำหนดวันรับสมัครสว. วันที่ 13พ.ค. การเลือกระดับอำเภอวันที่ 9 มิ.ย. ระดับจังหวัด 16มิ.ย. ระดับประเทศ 26 มิ.ย. และกำหนดวันประกาศผลการเลือกสว.วันที่ 2 ก.ค. 

กฎกติกา การเลือกสว.ครั้งนี้ สลับซับซ้อน ยากต่อการเข้าใจ ให้คนมาสมัครแต่ละกลุ่มสาขาอาชีพ ที่มีถึง 20 กลุ่ม แล้วคัดเลือกกันเอง ระดับอำเภอ จังหวัด มาสู่ระดับประเทศ แบ่งสายให้เลือกไขว้สาย ก่อนที่จะคัดให้เหลือ 200 สว. ไปทำหน้าที่ 

กระแสการเลือกสว. อาจไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร เพราะประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมในการไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง เหมือนอย่างกับเลือกสส. หรือ เลือกนายกอบจ. แต่ไม่ว่าอย่างไร สว. ที่เปรียบเหมือนเป็น สภาฯสูง คอยตรวจสอบ กลั่นกรองกฎหมาย มีส่วนในการตรวจสอบคุณสมบัติ โหวตเลือก บุคคลในการเข้าไปดำรงตำแหน่ง องค์กรอิสระหลายแห่ง รวมไปถึง มีส่วนในการ ลงคะแนนเสียง ชี้เป็นชี้ตาย ต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ 
 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามบทเฉพาะกาลรัฐธรรมนูญ กำหนดให้ 5 ปีแรก สว.ที่ส่วนร่วมในการ โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ได้ด้วย 

เป็นจุดสนใจ ที่กลุ่มการเมือง ให้ความสนใจ โดยเฉพาะ อดีตแกนนำพรรคอนาคตใหม่ แปรเปลี่ยนเป็น กลุ่มการเมืองในนาม คณะก้าวหน้า ที่มีบทเรียน จากการทำหน้าที่ สว. ในห้วง 5-6ปีให้หลัง รู้ซึ้งถึงการทำหน้าที่ตรงนี้ได้ มาตั้งแต่ 250สว. ในการลงคะแนนเสียง โหวตเลือกนายกฯ 

คณะก้าวหน้า นำโดย เอก-ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ช่อ-พรรณิการ์ วานิช จะให้ความสนใจกับการเลือกสว.67 มากเป็นพิเศษ  

'ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ' ประธานคณะก้าวหน้า แถลงเปิดแคมเปญ สว.ประชาชน ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคก้าวไกล  

ธนาธร บอกว่า ‘ก่อนหน้าได้รณรงค์เชิญชวนลงสมัครสว.67 ในหลายจังหวัด ได้รณรงค์ ในกทม. กระบี่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ครูจุ้ย-นางสาวกุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ ก็ไปรณรงค์ที่ จ.พังงา ภูเก็ต ช่อ-พรรณิการ์ รณรงค์ ในจังหวัดสงขลา

ในสัปดาห์หน้า ผมจะลงพื้นที่อีสานเหนือ หนองบัวลำภู อุดรธานี มุกดาหาร ขณะที่ พรรณิการ์ จะไปรณรงค์ที่ พิษณุโลก 

สิ่งที่เรารณรงค์ พี่น้องประชาชนที่มีศักยภาพ หรือพูดง่ายๆสามารถจ่ายเงิน 2,500 บาทได้ เพื่อไปลงสมัครสว. หากคิดว่าสว.67 มีผลต่อการพัฒนาการเมืองไทย ประชาธิปไตย' 

ขณะเดียวกัน ในระหว่างแถลงข่าว นอกจากชูแคมเปญ ยังมีการเปิดตัว www.senate67.com  ที่เป็นความร่วมมือหลากหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น i-law กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ คณะรณงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน เป็นต้น แหล่งรวบรวมข้อมูลข่าวสาร แคมเปญ ใครลงสมัครสว.ได้ มีวิธีการอย่างไร การเลือกในระดับอำเภอ จังหวัด ประเทศ เป็นอย่างไร ตลอดจนถึง ผู้ที่แสดงเจตจำนงค์สมัครสว. แยกตามรายจังหวัด กลุ่มสาขาอาชีพ ไว้เสร็จสรรพ โดยข้อมูล ณ วันที่ 24เม.ย. เวลา 15.00 น. มีผู้แสดงเจตจำนงค์แล้ว 1278 คน

‘ที่ถามว่า ต้องมีผู้สมัครสว.ระดับประชาชนเท่าไหร่ ถึงจะทำให้ตัวเลขเป็นไปตามเป้าหมายนั้น คงไม่มีใครสามารถวัดเป็นปริมาณได้ว่าต้องการ 1พัน 2 พันคน  3หมื่นคน ไม่มี ไม่รู้ ภายใต้กฎกติกาแบบนี้ คงไม่สามารถรู้ต้นทาง คำนวนกลับเพื่อจะต้องมีผู้สมัครเท่าไหร่ คิดว่ามากที่สุด ยิ่งดีที่สุด ที่แน่ๆคิดว่าระดับหลักหมื่นขึ้นไป 

แม้จะเคยไปพูดในบางรายการ อยากเห็นคนสมัครสว.อิสระเป็น แสนคน คือเป็นตัวเลขเป้าหมาย จะได้เสียงส่วนใหญ่ของสว. แต่ถ้าต้องการตัวเลขสัก 70 คน(ตัวเลขสว. 1 ใน 3 จากทั้งหมด200คน ในการที่จะมีส่วนร่วมในการเข้าชื่อ หรือลงมติในบางเรื่องที่สำคัญๆ) ตัวเลขก็อาจจะลดหลั่นลงมา แต่คงไม่สามารถคำนวนย้อนกลับ เหมือนกับสส. ที่อำเภอนี้ ถ้าได้เสียงสัก 3 หมื่นเสียง ก็มีสิทธิ์ได้เป็นสส.แล้ว แต่กลับสว. คิดแบบนี้ไม่ได้ เพราะบางกลุ่มของผู้สมัคร บางพื้นที่อาจไม่มีคนสมัครเลยก็ได้ ใครคิดว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องสำคัญ อย่าอยู่เฉยๆ ต้องออกแรง ลงขยับ ลงแรง'

 ธนาธร ยังย้ำถึงจุดประสงค์ การเดินสายรณรงค์ให้คนมาลงสมัครสว. บางช่วงบางตอนอีกว่า

'....สิ่งที่เรารณรงค์ พี่น้องประชาชนที่มีศักยภาพ หรือพูดง่ายๆสามารถจ่ายเงิน 2500 บาทได้ เพื่อไปลงสมัครสว. คิดว่าสว.67 มีผลต่อการพัฒนาการเมืองไทย ประชาธิปไตย 

 ....ประชาชนที่รักประชาธิปไตย ให้เข้ามามีบทบาทในการฟื้นฟูประชาธิปไตย ผ่านการลงสมัครสว. หากปล่อยให้การเลือกสว. มาจากกลุ่มคนจำนวนน้อยเหมือนการเลือกสว. เหมือนชุดที่ผ่านมา โอกาสที่สว. ชุดใหม่จะเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญแทบเป็นไปไม่ได้เลย'

หากนับเฉพาะการเลือกตั้งปี2562 และปี 2566 สส.อนาคตใหม่ มาถึงยุค พรรคก้าวไกล ต่างได้รับเลือกเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะครั้งล่าสุด มากที่สุดในสภาฯ เพียงแต่ ไม่สามารถรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ เลยแปรเปลี่ยนไปทำการเมือง ในนามฝ่ายค้าน เก็บแต้ม รอคอยจังหวะ รอคอยโอกาส ท่ามกลางความคาดหวัง จะพาก้าวไกล แลนด์สไลด์ให้ได้ในการเลือกตั้งครั้งต่อๆไป

ขณะที่ สภาฯสูง อย่างสว. ที่มีบทบาทสำคัญ โดยบริบท ทำงานตรวจสอบ ถ่วงดุล แต่ยุคนึงสมัยหนึ่ง เคยเป็นเครื่องมือการเมือง จากบางพรรค ที่ยึดสภาฯสูงเบ็ดเสร็จ กลายเป็น สภาผัว สภาฯเมีย จากทำงานตรวจสอบ ถ่วงดุล เป็น สอดคล้อง เอื้อสมซึ่งกันและกัน 

บทบาทก้าวไกล ก้าวหน้า จาก สภาฯ ผ่านเวทีเลือกตั้งสส. มาสู่ เวทีเลือกนายกอบจ. ที่กำลังจะเกิดต้นปี68 แต่หมุดหมายเร่งด่วน ที่ใกล้และคืบคลานเข้ามา เวทีเลือกกันเองของสว. ที่ภายในเดือน กรกฎาคม-สิงหาคม2567 จะเห็นหน้าเห็นหลังแล้ว บทบาทการรณรงค์เดินสาย ผ่านเครื่องมือ เครือข่าย จะได้รับการตอบรับ และประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งความหวังเอาไว้ได้หรือไม่