รวมไทยสร้างชาติ เผย ยังไม่ได้รับสัญญาณ นายกฯ เรื่องปรับครม.

นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ข่าวการปรับ ครม. มีมากว่า 1 เดือนแล้ว ในส่วนของพรรคยังไม่มีการหารือเรื่องนี้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค เคยแจ้งให้ทุกคนทราบว่า ถ้าจะมีการปรับ ครม. นายกรัฐมนตรีคงจะหารือระดับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลก่อน จากนั้นหัวหน้าพรรคจะมาหารือกับสมาชิกพรรค  แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยมีการส่งสัญญาณจากนายกฯ

นายพีระพันธ์ หัวหน้าพรรคได้พูดตั้งแต่แรกว่า การเป็นรัฐมนตรีคือ พรรคส่งไปทำงาน ทุกคนต้องทำงานขยันอย่างจริงจัง เวลานี้รัฐมนตรีเพิ่งทำงานมาแค่ 4-5 เดือน ทุกคนขยันขันแข็งมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ในส่วนของพรรคจึงคิดว่ายังไม่จำเป็นต้องปรับ ครม. แต่ข่าวปรับ ครม. มีการปล่อยมาเป็นระยะ แม้กระทั่งพรรคที่ไม่ได้ร่วมรัฐบาลก็ยังถูกปล่อยว่าจะดึงเข้าร่วมรัฐบาล ข่าวปล่อยจึงออกมาได้ทุกวัน วิเคราะห์การเมืองกันได้ทุกวัน ว่าคนนั้นจะเข้าคนนี้จะออก

นายวิทยา กล่าวว่า ข้อเท็จจริงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะวิเคราะห์ให้แม่น เพราะการปรับ ครม.ต้องตัดสินใจโดยนายกฯ ว่าจำเป็นต้องปรับหรือไม่ ถ้าปรับต้องส่งสัญญาณให้ผู้พรรคร่วมรัฐบาลรู้ว่า มีวัตถุประสงค์ในการปรับเพื่ออะไร แต่ละพรรคจะได้กลับไปพิจารณา แต่ในชั้นนี้ยังไม่มีการยืนยัน เป็นแค่ข่าวที่ออกทางสื่อ ส่วนจะจริงไม่จริงต้องรอดูสัญญาณ

พร้อมย้ำถึงผลงานรัฐมนตรีของพรรค โดยรัฐมนตรีว่าการ มีผลงานชัดเจน จับต้องได้ ส่วนรัฐมนตรีช่วยเกษตรและสหกรณ์ ก็พยายามกระตือรือร้นลงพื้นที่ทำงาน เสนอโครงการที่แก้ปัญหาความยากจนของประชาชน ส่วนกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีช่วยก็ตั้งใจทำงาน ไม่เคยเกิดความเสียหายในรัฐบาล เราเน้นในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต รัฐมนตรีของพรรคทั้ง 4 คน ยังมีภาพความซื่อสัตย์สุจริตเป็นหลักประกัน ในระบอบประชาธิปไตย

“คนอยากเป็นรัฐมนตรีมีเป็นธรรมดา ต้องมีการตั้งก๊วนมานินทากัน พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มีโควตารัฐมนตรีมาก การตั้งรัฐมนตรียังมีผู้ใหญ่ในพรรคอีกหลายคน คนที่เคยเป็นรัฐมนตรีมีความสามารถก็อาจคิดอยากจะกลับมาเป็นรัฐมนตรีอีกรอบ แต่อำนาจนี้อยู่ที่นายกฯ ถ้าไม่เริ่มจากนายกฯ การปรับ ครม.คงไม่เกิด ต้องดูสัญญาณที่ชัดเจนจากนายกฯ ก่อนจะส่งมายังพรรคร่วมรัฐบาล สิ่งนี้เป็นประเพณีปฏิบัติทางการเมือง ไม่ใช่ว่าพรรคใดทะเล่อทะล่าอยากจะขอปรับครม. เอง”นายวิทยากล่าว

นายวิทยา กล่าวว่า หลักของความเป็นรัฐมนตรีที่ต้องระวังคือ ความซื่อสัตย์สุจริต การอภิปรายของฝ่ายค้านที่ผ่านมายังไม่ได้พุ่งเป้าในเรื่องนี้ 4 เดือนที่ผ่านมารัฐบาลยังไม่มีปัญหาเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน จึงยังไม่ต้องปรับรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง ยังให้โอกาสได้ทำงานต่อ รัฐมนตรีหลายคนมีผลงานดีเด่น ต้องสงวนไว้ให้ทำงานต่อไป