“ผู้นำฝ่ายค้าน” จับตาผลงานรัฐบาล พบผิดพลาดยื่นซักฟอกทันที

นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการทำงานของฝ่ายค้านในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลหลังจากนี้ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านแต่ละพรรคให้ความสำคัญที่แตกต่างกันไป ซึ่งพรรคก้าวไกลให้ความสำคัญเรื่องกระบวนการยุติธรรม การจัดการความขัดแย้งทางการเมือง ข้อเสนอเรื่องนิรโทษกรรมทางการเมือง และการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 

รวมทั้งเงินดิจิทัลวอลเลต ค่าไฟ และโดยเฉพาะนโยบายซอฟพาวเวอร์ที่จะใช้งบประมาณกว่า 5,000 ล้านบาท แต่งบประมาณส่วนใหญ่ยังใช้ไปกับการจัดอีเวนท์ และการอบรมสัมมนา ซึ่งเป็นแผนที่มีอยู่แล้วแต่นำมาเปลี่ยนปก ซึ่งอาจจะไม่ได้ตอบโจทย์การอัพสกิว หรือรีสกิวประชาชน เพื่อให้มีทักษะในงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์

นายชัยธวัช ย้ำว่า การทำงานร่วมกันของฝ่ายค้านหลังจากนี้ จะเต็มตัวและเป็นทางการมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการวางเป้าหมาย แผนงานในการผลักดันร่วมกัน พร้อมยืนยันว่า ไม่กังวลต่อกระแสข่าวที่พรรคประชาธิปัตย์ จะพลิกไปร่วมรัฐบาล เพราะไม่ควรกังวลล่วงหน้า และทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก่อน อนาคตทางการเมืองปรับตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ และพรรคก้าวไกลในฐานะพรรคแกนนำฝ่ายค้าน ก็ต้องทำงานโดยเคารพ และให้เกียรติกับทุกพรรค และยกตัวอย่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ข้อมูลของแต่ละพรรคเป็นความลับอยู่แล้ว ดังนั้น จึงไม่กระทบใดๆ เพียงแต่ต้องตัดสินใจร่วมกันว่า ต้องอภิปรายหรือไม่ เมื่อใด 

ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า จะต้องขึ้นอยู่กับข้อมูล และข้อเท็จจริง แต่ขณะนี้ยังไม่เพียงพอ ถ้าตรวจพบว่า มีการใช้อำนาจโดยมิชอบ หาผลประโยชน์หรือคอรัปชัน หรือใช้อำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินเกิดความเสียหายรุนแรง ฝ่ายค้าน ก็พร้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกเมื่อ เพราะพรรคไม่อยากอภิปรายแบบใช้โวหาร หรือเป็นการอาศัยการอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อต่อรองผลประโยชน์กัน เพราะฉะนั้นขึ้นอยู่กับเนื้อหาเป็นหลัก ซึ่งเรื่องนี้พรรคก้าวไกลยังไม่ได้พูดคุยอย่างเป็นทางการกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่น 
 
เช่นเดียวกับการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญ นายชัยธวัช ระบุว่า หากในช่วงต้นปีหน้าไตรมาสแรก การบริหารรัฐบาลมีปัญหามากจริงๆ ก็อาจจะมีการเสนอให้เปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ เพื่อที่จะสะท้อนการทำงานของรัฐบาลก่อน

นายชัยธวัช ยังชี้แจงถึงกรณีที่มีผู้มองพรรคก้าวไกล ค้านไม่สุด เพราะอาจจะมีความสัมพันธ์กับพรรคเพื่อไทยอยู่ว่า ขอให้รอพิสูจน์พรรคฯ จากการปฏิบัติ แต่ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลไม่มีลับลมคมใน ไม่มีวาระซ่อนเร้น และยังคงทำงานอย่างตรงไปตรงมา เพียงแต่พรรคฝ่ายค้านไม่ได้มองว่า พรรคฝ่ายค้านจะต้องค้านทุกเรื่อง แต่สนับสนุนเรื่องที่เป็นประโยชน์ได้ และอยากจะมีทั้งการตรวจสอบถ่วงดุลที่ต้องทำงานอย่างเต็มที่ว่ากันไปตามเนื้อหา ให้เกิดบรรยากาศการทำงานในสภาที่สามารถร่วมไม้ร่วมมือโดยไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายทางการเมือง เพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะ