พาเที่ยว จีหลง-ตั้นสุย เมืองที่น่าหลงไหลในไต้หวัน (ตอนที่ 1)
ไต้หวัน เป็นประเทศที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลาย ธรรมชาติที่สวยงาม และอาหารอร่อยๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเมืองใหญ่ที่ทันสมัย หรือธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์
ซึ่งถ้าพูดถึง “ประเทศไต้หวัน” หลายคนก็คงบอกว่ามีทั้งแหล่งช้อปฯ วัฒนธรรม และ ธรรมชาติที่สวยงาม ที่ใครไปมาแล้วต้องติดใจกันทุกคน แต่สำหรับรอบนี้ เราจะพาคุณมาชมกับความงามอีกด้าน ในสถานที่ ที่คุณอาจจะคาดไม่ถึงว่ามันก็น่าเที่ยว และเป็น Unseen บางที่นั้นมีแต่คนไต้หวันไปเที่ยวอย่างเดียวแต่งามจนต้องบอกต่อ มาเริ่มกันเลยครับ
อุทยานธรณีวิทยาเกาะเหอผิง Heping Island GeoPark
อุทยานธรณีวิทยาเกาะเหอผิง (Heping Island GeoPark) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของเมืองจีหลง (Keelung) บนเกาะไต้หวัน ที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องของภูมิทัศน์ชายฝั่งที่โดดเด่น มีโขดหินรูปร่างแปลกตาที่เกิดจากการกัดเซาะของคลื่นลมและน้ำทะเล โดยมากแล้วจะเหมาะกับการถ่ายรูปดูวิวดูคลื่น และในฤดูร้อนจะเป็นจุดที่คนชอบมาว่ายน้ำ หรือคนที่อยากเรียนถ่ายภาพ นี่เป็นอีกที่ไม่ควรพลาด แต่ต้องเตรียมร่มและหมวกเพราะบางทีอาจจะมีอากาศฝนตก
สถานีไท่จงโหวกู่เป่ากง T-HAM Taichuregoubaogong Station
เมื่อเราออกจากสถานที่แรก แต่ระหว่างทางเราเจอกับ สถานีไท่จงโหวกู่เป่ากง ซึ่งเป็นสถานีรถไฟเก่าและมีความโดดเด่นที่ป้ายรถเมย์ที่มีความเป็นศิลปะเพราะมีการนำร้านขายหมูมาผสมที่ทำให้เป็นจุดถ่ายภาพอีกแห่งที่ไม่ควรพลาด
หันไปด้านหลังก็จะมีตึกที่เคยเป็นสถานที่ทางการค้า โดยปัจจุบันก็ยังมีการค้าเชิงท่องเที่ยว ซึ่งเอกลักษณ์คือการทำให้ตึกมีหลายสี ช่วยทำให้สะดุดตาและคว้ากล้องมาถ่ายจนความจำกล้องของเราแทบจะเต็มไปเลย
Keelung Landmark
ต่อมาเราได้มาอีกสถานที่อย่าง Keelung Landmark ที่เรียกว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ โดยเมืองชื่อเรียกจริงว่า จีหลง ซึ่งจุดเด่นของเมืองนี้คือ เส้นทางเดินนั้นโดดเด่น มีป้าย KEELUNG ที่กลางวันเป็นสีขาว แต่กลางคืนจะมีสีสันที่อลังการ พร้อมกับป้ายที่มีคำที่โดดเด่นไม่น้อยช่วยทำให้เกิดความเพลิดเพลิน ที่เราจะให้คุณได้ชมกันต่อไป
YM Oceanic Culture & Art Museum
เป็นแหล่งศึกษาชั้นดีสำหรับคนที่สนใจศิลปะและประวัติศาสตร์ที่ทำไมไต้หวันถึงเป็นจุดสำคัญที่หลายคนแวะเวียนโดยเฉพาะการค้าขายในสมัยก่อนรวมถึงการเป็นเมืองท่าสำคัญ โดยสถานที่แห่งนี้มีการสนับสนุนโดย Yang Ming Group ซึ่งในการจัดแสดงครั้งนี้ได้รางบันดาลใจจากท้องทะเล การเดินเรือสมัยใหม่และมีการจำลองเกี่ยวกับการอยู่ในเรื่อเช่นเดียวกัน
ตลาดกลางคืน เมี่ยวโข่ว
สายกินไม่ควรต้องห้ามพลาดเพราะรอบนี้เราได้ไปเดินเล่นที่ ตลาดกลางคืนเมี่ยวโข่ว (Miaokou Night Market) เป็นตลาดกลางคืนที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองจีหลง (Keelung) และ ใกล้กับ วัดเตี้ยนจี้ (Dianji Temple) ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของตลาด และยังเป็นที่มาของชื่อ "เมี่ยวโข่ว" ที่แปลว่า "ปากวัด" ซึ่งมีอาหารทั่วไปเยอะแยะและที่เด็ดคือ อาหารทะเลที่เรียกว่าสดใหม่เหมือนกับเก็บจากทะเล และยังมีอาหารแบบดั่งเดิมเช่น บะหมี่น้ำมันหอมเจียว, ขนมจีบปลา, และ ขนมหวานน้ำแข็งไส อีกด้วย
ราคาถือว่าไม่แพงมากนักครับ ซึ่งเมื่อซื้อเสร็จแล้ว กลับมาที่ KEELUNG Landmark ดูไฟสวยๆ งามๆ เรียกว่าฟินไปอีกแบบ หลังจากนั้นเราก็ต้องเข้าที่พักแล้วเพราะดึกเกินไป
ชายฝั่งไต้หวัน The Mysterious Coast
อีกสถานที่เราได้ไปดูถ้าใครที่รักธรรมชาติที่สวยงามดูลึกลับ นี่เป็นอีกที่ที่ไม่พลาด โดยมี จุดเด่นของชายฝั่งแห่งนี้คือการก่อตัวของหินรูปร่างแปลกตาที่เกิดจากการกัดเซาะของคลื่นลมและการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาตลอดหลายพันปี หินบางก้อนมีรูปร่างเหมือนสัตว์หรือสิ่งของต่างๆ ซึ่งทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกเหมือนกำลังสำรวจพื้นที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวลึกลับ พื้นที่นี้ยังมีเส้นทางเดินชมธรรมชาติที่ตัดผ่านภูมิทัศน์อันงดงาม แถมได้รับกลิ่นไอทะเล วิวมหาสมุทรแปซิฟิกที่เรียกว่าโดดเด่นมาก
ท่าเรือประมงสุยเหว่ย
ซึ่งสถานที่นี้เราได้ไปเดินตอนกำลังจะกินอาหารกลางวัน นั่นคือ ท่าเรือประมงสุยเหว่ย (Shuijwei Fishing Harbor) จุดเด่นสำคัญคือ เป็นท่าเรือที่มีการจำหน่ายอาหารทะเล และรวมไปถึงมีการปรุงพร้อมรับประทาน การตกแต่งของสถานที่นี้ได้มีการออกแบบจากสถาปนิกที่โดดเด่น ดึงดูดนักท่องเที่ยวรวมถึง คนไต้หวัน
ประภาคารฟู่กุ้ยเจี่ยว สุดเขตแผ่นดินไต้หวัน
อีกสถานที่ที่สวยงามมากนั่นคือ ประภาคารฟู่กุ้ยเจี่ยว (Fuguijiao Lighthouse) ตั้งอยู่ที่จุดเหนือสุดของไต้หวันในเขตสือเหมิน (Shimen) เมืองนิวไทเป (New Taipei City) สถานที่ที่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการเดินเรือและสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงาม ซึ่ง การเดินทางไปถึงต้องใช้คำว่าเดินกันหน่อยและมีการแข่งกับลมทะเลที่ทำให้พัดแรง โดยสถานที่นี้ถูกสร้างในช่วง ค.ศ. 1897 โดยหน้าที่นำทางเรือที่เดินทางผ่านช่องแคบไต้หวันด้วยแสงไฟที่ส่องสว่างไกลถึง 26.8ไมล์ทะเล โครงสร้างของประภาคารโดดเด่นด้วยรูปทรงกระบอกสีขาวสะอาดตา ตั้งตระหง่านบนเนินเขาเล็กๆ ที่หันหน้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิก บริเวณรอบๆ ประภาคารเป็นพื้นที่ธรรมชาติที่เงียบสงบ
แถมสถานที่นี้ก็อาจจะทำให้ Memory มือถือหรือกล้องคุณเติมได้เพราะแต่ละมุมถ่ายภาพสวยจนใช้คำว่าเปลืองได้เลย
วัดเปลือกหอย
ชมวิวก็เยอะแล้วรอบนี้มาดูกันเรื่องสายมูกันหน่อยกับ วัดเปลือกหอย (Shimen Coral Shell Temple) ตั้งอยู่ในเขตสือเหมิน (Shimen) เมืองนิวไทเป (New Taipei City) จุดเด่นของวันนี้คือมีการตกแต่งที่ให้อารมณ์เหมือนกับเปลือกหอย แถมในรอบนี้ก็ยังมีการไหว้ขอพรเบาๆ เพื่อเป็นสิริมงคล
สวนจือหลัน (Zhilan Park Ocean Viewing Platform)
จบจากการไหว้เพราะแล้วเราไปดูสถานที่ดูวิวอีกที่กับ สวนจือหลันมาพร้อมกับความโดดเด่นทั้งการดูทะเลจรดกับแผ่นดินที่สวยงามและมีวิวที่โดดเด่นแถมถ้ามาช่วงพระอาทิตย์ตกรับรองว่าสวยงามครับ
วัดกวนอิมหยวนเต้า
สถานที่สุดท้ายของตอนแรก กับ วัดกวนอิมหยวนเต้า ที่มีจุดเด่นความสวยงามและเป็นอีกแหล่งที่มี ความสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมสำหรับชาวไต้หวัน โดยเฉพาะในเรื่องของการนับถือเจ้าแม่ กวนอิม (Guanyin) หรือเทพเจ้าแห่งความเมตตาและความกรุณา แถมมีองค์กวนอิมทำจากไทเทเนียมองค์ใหญ่อลังการมากเช่นเดียวกันครับ
ซึ่งภาพรวมของสถานที่วันแรกนั้นถ้าเป็นสายปั่นจักรยาน พูดเลยว่าเส้นทางค่อนข้างดีและสวยช่วยให้คุณเพลินกับการปั่นจักรยานท่องเที่ยวแทนการนั่งรถได้เช่นเดียวกัน
หลังจากนั้นเราได้เดินทางลงไปทางนิวไทเป และใกล้กับเมือง ตั้นสุย ซึ่งจะมีสถานที่อะไรที่น่าตื่นเต้นให้ได้ดูอีก ติดตามต่อในครั้งต่อไปครับ
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.