ดิ เอ็มโพเรียม ดิ เอ็มควอเทียร์ ชวนอัปเดตเทรนด์ล่าสุดประจำฤดูกาล 2023
ดิ เอ็มโพเรียม ดิ เอ็มควอเทียร์ ศูนย์การค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์ระดับโลก ชวนอัปเดตเทรนด์แฟชั่น Fall / Winter กับงาน “#EMFASHIONICON : THE FALL/WINTER ISSUE 2023” ชวนเหล่าแฟชั่นนิสต้า อัปเดตเทรนด์ โดยแฟชั่นกูรูและสไตลิสต์แถวหน้าของเมืองไทย “หนุ่ม - อภิวัฒน์ ยศประพันธ์” ที่มาแนะนำเทรนด์แฟชั่นและไอเท็มที่ควรมีสำหรับ Fall/winter 2023 รวมถึงเทคนิคการมิกซ์แอนด์แมตช์ในหลากหลายสไตล์จากแบรนด์ดังมากมาย รวบรวมไว้ที่ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม และ ดิ เอ็มควอเทียร์ ให้ทุกคนเลือกช้อปไอเท็มชิ้นโปรดเติมความคูลให้กับสไตล์ของตนเองในช่วง Fall / Winter นี้
อรธิรา ภาคสุวรรณ์ ผู้บริหาร ดิ เอ็มดิสทริค กล่าวถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า “เพื่อเป็นการอัพเดตเทรนด์แฟชั่นล่าสุดในฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูหนาว 2023 ตอกย้ำการเป็น Fashion Destination เมืองไทย ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรี่ยม และ ดิ เอ็มควอเทียร์ จึงจัดงาน “#EMFASHIONICON : THE FALL/WINTER ISSUE 2023” เพื่อแนะนำเทรนด์แฟชั่นล่าสุดของฤดูกาล คัดเลือกไอเท็มสุดฮอตจากแบรนด์ชั้นนำภายในศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม ดิ เอ็มควอเทียร์ อาทิ LOUIS VUITTON, DIOR, DOLCE & GABBANA, FENDI, SAINT LAURENT, VALENTINO, LOEWE, OFF-WHITE, PALM ANGELS, CK, PRADA และEMILIO PUCCI เป็นต้น มามิกซ์แอนด์แมตช์เป็น 7 เทรนด์ลุค กับหลากหลายสไตล์เป็นไอเดียในการแต่งตัวให้กับทุกคนในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูหนาวนี้ พร้อมจัดโปรโมชันสุดพิเศษเอาใจเหล่าแฟชั่นนิสต้า และกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีพให้กับลูกค้า #EMFASHIONICON CLUB โดยเฉพาะ เพื่อตอกย้ำการเป็นศูนย์กลางแฟชั่นไลฟ์สไตล์ชั้นนำของย่านสุขุมวิทใจกลางกรุงเทพมหานคร”
ด้าน อภิวัฒน์ ยศประพันธ์ แฟชั่นกูรูและสไตลิสต์ชื่อดังแถวหน้าของเมืองไทย อัปเดตเทรนด์แฟชั่น Fall/Winter 2023 ว่า “โทนสีเด่นของซีซั่นนี้ ได้แก่ สีเชอร์เบท พาสเทล เพราะง่ายต่อการมิกซ์แอนด์แมตช์ ในช่วง Fall/Winter นี้ โดยอาจเลือกเป็นไอเท็มชิ้นบนหรือชิ้นล่างแล้วนำมาแมตช์กับเครื่องแต่งกายชิ้นอื่นที่เป็นสีเทาอ่อน น้ำตาล หรือเบจ ก็ได้ ส่วน Items Must have ในปีนี้ที่สาวไทยควรมีติดตู้ ได้แก่ กระเป๋าครัช เสื้อโค้ช และแจ็คเก็ตเสริมไหล่ ส่วนหนุ่มๆ แนะนำเป็น ‘ชุดไนลอนโค้ช’ เพราะไนลอนมีความเบา สวมใส่สบาย ไม่หนาวไม่ร้อนจนเกินไป” โดย อภิวัฒน์ ยศประพันธ์ ได้นำเสนอเทรนด์ผ่าน 7 ลุคเป็นไอเดียในการมิกซ์แอนด์แมตช์ให้ทุกคนแต่งตามในช่วง Fall/Winter 2023 ได้แก่
เริ่มที่ ลุคแรก LUX MUPPET จากแบรนด์ MAX MARA สำหรับลุคนี้จะเน้นเครื่องแต่งกายโทนพาสเทล สบายตา โดยไฮไลต์ของลุค คือ แพทเทิร์นเสื้อคอผูกทั้งของผู้ชายและของผู้หญิง รวมถึงเสื้อโค้ทขนเฟอร์ที่มีลักษณะขนสั้นเหมือนตุ๊กตา หรือ “MUPPET FUR” ซึ่งทำจากขนสัตว์ที่ร่วงแล้วมาปั่นเป็นเส้นใย ไม่ใช้ขนสัตว์จากการถลกหนังเพื่อรักษาชีวิตสัตว์ไว้
ลุคที่ 2 SHERBET PASTEL จากแบรนด์ PS PAUL SMITH สีพาสเทลยังคงเป็นสียอดนิยมตั้งแต่ช่วง SPRING/SUMMER จนถึง FALL/WINTER แต่สำหรับซีซั่นนี้จะพิเศษด้วยการจับคู่สีเพื่อให้ “เชอร์เบท พาสเทล” ดูหวานขึ้น
ลุคที่ 3 WORRY-FREE TRAVELING SET จากแบรนด์ EMPORIO ARMANI ฤดูแห่งการท่องเที่ยวกับเทรนด์ผ้าไนลอนที่ทรีทเม้นท์ทำให้เกิดรอยยับย้น ตอบโจทย์คนที่ชอบเดินทางเพราะไม่อยากกังวลเรื่องการยับของชุด แต่ยังคงความเท่แบบมีสไตล์
ลุคที่ 4 BLUE AND BEYOND จากแบรนด์ FERRAGAMO เติมสีสันให้กับซีซั่นด้วยเสื้อผ้าโทนสีฟ้าสว่าง โดยลุคนี้มาในชุดผ้าไนลอนโทนสีฟ้าที่เนื้อผ้ามีลักษณะยับย้น เมื่อสวมใส่ให้ลุคดูสบายแต่แฝงด้วยความเท่อย่างมีสไตล์
ลุคที่ 5 BIG AND BOLD จากแบรนด์ STELLA MCCARTNEY ลุคนี้เป็นการนำ 3 เทรนด์ฮอตของ Fall/Winter มามิกซ์ไว้ด้วยกัน ได้แก่ Bold Shoulder เสื้อแจ็กเก็ตใหล่ใหญ่แต่ไม่ใช่ทรง Over Size และ Neo Clutch กระเป๋าคลัทช์ทรงใหญ่ ลักษณะหนังนุ่ม พร้อมด้วย New Jeans กระโปรงยีนส์ที่ผสมสไตล์ของกางเกงเข้าไว้ด้วยกัน ช่วยทำให้การใส่ยีนส์ดูมีเลเยอร์
ลุคที่ 6 LITTLE BLACK DRESS WITH A TWIST จากแบรนด์ TORY BURCH ชุด Cocktail Dress สีดำที่ผู้หญิงทุกคนต้องมี โดยชุดนี้เราจะตีความ Little Black Dress หรือชุดเดรสสีดำตัวสั้นใหม่ ด้วยการทวิสต์สร้างแพทเทิร์นกราฟฟิกใหม่เป็นลูกเล่นให้เดรส
ลุคที่ 7 FIFTY SHADES OF BROWN จากแบรนด์ LONGCHAMP สำหรับลุคนี้ให้นึกถึงสีของช็อกโกแลต ด้วยการไล่เฉดของสีน้ำตาล เริ่มตั้งแต่สีเบจไปจนถึงดาร์กช็อคโกแลต ดังนั้น เมื่อเลือกมิกซ์แอนด์แมตช์ไม่ว่าจะเป็น เสื้อ กางเกง แจ็คเก็ต และกระเป๋า จะมีการผสมผสานด้วยการไล่เฉดสีจากน้ำตาลอ่อนจนไปถึงน้ำตาลแก่
นอกจากร่วมอัปเดตเทรนด์แฟชั่นประจำซีซั่นนี้แล้ว ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรี่ยม และ ดิ เอ็มควอเทียร์ ยังมอบโปรโมชันสุดพิเศษให้เหล่าแฟชั่นนิสต้าโดยเฉพาะ กับแคมเปญ EMPORIUM EMQUARTIER THE FALL/WINTER ISSUE 2023 ระหว่างวันที่ 1 กันยายน 2566 - 30 กันยายน 2566 รับบัตรกำนัลศูนย์การค้าสูงสุด 10,000 บาท (เมื่อช้อปครบตามเงื่อนไข) และรับบัตรกำนัลสูงสุด 8,000 บาท เมื่อจ่ายผ่านบัตรเครดิต กรุงศรี หรือรับบัตรกำนัลเพิ่มสูงสุด 9,000 บาท เมื่อจ่ายผ่านบัตรเครดิต SCB M พิเศษ รับเงินคืนสูงสุด 22% เมื่อจ่ายผ่านบัตรเครดิตชั้นนำที่ร่วมรายการ
และร่วมเป็น #EMFASHIONICON CLUB เพื่อรับสิทธิพิเศษจาก ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรี่ยมดิ เอ็มควอเทียร์ และ พาร์ทเนอร์มากมาย ผ่านแอปพลิเคชัน M Card อาทิ รับฟรี! บัตรกำนัลศูนย์การค้าดิ เอ็มโพเรียม ดิ เอ็มควอเทียร์ มูลค่า 500 บาท (จำกัด 100 สิทธิ์ / เดือน) ส่วนลด 5% สำหรับอาหารและเครื่องดื่มที่ร้าน ESCAPE BANGKOK ชั้น 5 อาคาร B ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ และรับส่วนลด 5% สำหรับอาหารและเครื่องดื่มที่ร้าน FLAMENCO ชั้น 9 อาคาร A ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ได้ตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน 2566 – 31 ธันวาคม 2566
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.