คนท้องดื่มชา กาแฟ โกโก้ ชาเขียว ได้ไหม ดื่มอย่างไรไม่ทำลายสุขภาพ

ในคุณแม่ตั้งครรภ์มักจะมีอาหารต้องห้ามด้วยกันหลายอย่าง และนอกจากอาหารแล้ว ในส่วนของเครื่องดื่มก็มีเหมือนกันนะคะ โดยเฉพาะเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

ทำไมคนท้องควรงดดื่มชา กาแฟ?

เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ไม่ว่าจะเป็นชาหรือกาแฟ สำหรับทางการแพทย์ถือว่าสารคาเฟอีนนั้นสามารถถ่ายทอดผ่านสายรกไปสู่ทารกในครรภ์ได้ โดยอาจมีผลกระทบต่อกระบวนการเจริญเติบโตของทารกและสุขภาพของคุณแม่ด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะยังไม่มีรายงานผลสรุปในเรื่องดังกล่าวว่าชาและกาแฟจะเป็นเครื่องดื่มอันตรายต่อทารกอย่างชัดเจนแน่นอนหรือไม่ หากก็ไม่ได้หมายความว่า คุณแม่ตั้งครรภ์จะควรดื่มเช่นกัน เพื่อสุขภาพของตัวคุณเองและเพื่อความปลอดภัยของทารกน้อย แพทย์จึงแนะนำให้คุณแม่งดดื่มชาและกาแฟนั่นเอง

เมื่อแม่ท้องอยากดื่มชา กาแฟ ดื่มอย่างไรให้เหมาะ ไม่ทำลายสุขภาพ !

คนท้องดื่มคาเฟอีนได้ แต่ต้องรู้จักดื่มในปริมาณจำกัด

คุณแม่บางท่านที่ติดการดื่มชา กาแฟอย่างมาก และถ้าหากไม่สามารถงดดื่มได้ คุณแม่ก็ยังคงสามารถดื่มได้เหมือนกันค่ะ เพียงแต่จะต้องจำกัดปริมาณของการรับคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกายให้น้อยลง ซึ่งโดยปกติแล้ว คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรให้ร่างกายได้รับปริมาณคาเฟอีนเกินวันละ 100-200 มิลลิกรัม หากในแต่ละวันสามารถควบคุมการดื่มเครื่องดื่มคาเฟอีนในปริมาณไม่เกินดังกล่าวได้ก็ถือว่าไม่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์เช่นกัน แต่หากเมื่อไรที่เผลอดื่มเข้าไปในปริมาณมากเกินกว่ากำหนดก็ย่อมมีผลกระทบต่อทารกในครรภ์ดังต่อไปนี้ได้

ปริมาณคาเฟอีนในเครื่องดื่มและขนมที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรระมัดระวัง

  • กาแฟ: สำหรับกาแฟสำเร็จรูป 1 แก้ว จะมีคาเฟอีนประมาณ 63 มิลลิกรัม ขณะที่กาแฟชงเองสามารถมีคาเฟอีนได้ระหว่าง 95 ถึง 165 มิลลิกรัม
  • ชา: ชาสำเร็จรูป 1 แก้ว มีคาเฟอีนประมาณ 26 ถึง 36 มิลลิกรัม ส่วนชาที่ชงเองจะมีคาเฟอีนประมาณ 48 มิลลิกรัม
  • โกโก้: โกโก้ร้อน 1 แก้ว มีคาเฟอีนประมาณ 8 ถึง 12 มิลลิกรัม
  • น้ำอัดลม: น้ำอัดลม 1 กระป๋อง มีคาเฟอีนประมาณ 37 มิลลิกรัม
  • ขนมช็อกโกแลต: ช็อกโกแลตทั่วไป 1 ชิ้น มีคาเฟอีนประมาณ 25 มิลลิกรัม ขณะที่ดาร์กช็อกโกแลตจะมีคาเฟอีนประมาณ 30 มิลลิกรัม

เมื่อแม่ท้องอยากดื่มชา กาแฟ ดื่มอย่างไรให้เหมาะ ไม่ทำลายสุขภาพ !

อันตรายต่อคุณแม่และทารกในครรภ์ เมื่อดื่มคาเฟอีนในปริมาณมาก

  1. การดื่มคาเฟอีนเข้าไปในปริมาณมากเกินไปจะส่งผลทำให้หัวใจทารกในครรภ์มีอัตราการเต้นที่เร็วผิดปกติ เพิ่มความเสี่ยงโดยจะทำให้ทารกเสียชีวิตในครรภ์หรือเกิดโอกาสแท้งง่ายนั่นเอง

  2. การขับปัสสาวะบ่อยก็เป็นหนึ่งในอาการคนท้องอยูแล้ว และเนื่องจากคาเฟอีนก็เป็นสารที่มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ถ่ายปัสสาวะบ่อยก็จะยิ่งทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและแคลเซียมมากขึ้น อาจมีผลทำให้สุขภาพคุณแม่และทารกในครรภ์ย่ำแย่ได้

  3. การดื่มชาเขียวซึ่งส่วนมากมักจะมีส่วนประกอบจากน้ำตาลสูง หากร่างกายคุณแม่ได้รับปริมาณน้ำตาลมากจนเกินไปก็อาจส่งผลในด้านน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นได้มาก และยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานอีกด้วย

  4. คาเฟอีนมีผลต่อการขัดขวางกระบวนการดูดซึมสารอาหารสำคัญด้วยกันหลายชนิด ซึ่งหากทารกในครรภ์ได้รับสารอาหารอย่างไม่เพียงพอก็ย่อมมีผลกระทบในด้านการเจริญเติบโตและยังทำให้พัฒนาการด้านสมองช้าอีกด้วย

  5. คาเฟอีนทำให้นอนหลับยาก หลับไม่สนิท หากคุณแม่ตั้งครรภ์พักผ่อนไม่เพียงพอ การเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ก็ย่อมได้รับผลกระทบตามด้วยเช่นกัน

จะเห็นได้ว่าโทษจากการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนปริมาณมากสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์นั้นก็มีอย่างมากทีเดียว ดังนั้น หากต้องการดื่มจริงๆ ในคนที่ไม่สามารถงดได้เลย ก็ควรดื่มในปริมาณจำกัดต่อวันจะดีที่สุด โดยอาจดื่มเพียงแก้วเล็กๆ ให้พอหายอยากก็พอแล้ว เพราะหากยังคงดื่มในปริมาณแก้วกลางปกติ รู้มั้ยคะว่าร่างกายของคุณก็จะได้รับปริมาณคาเฟอีนสูงถึง 60-150 มิลลิกรัมเลยทีเดียว

แต่สำหรับคุณแม่ที่ต้องการดื่มชาเขียวหรือชาซึ่งถือว่าเป็นเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนอยู่น้อยกว่ากาแฟมาก ก็อาจจะงดดื่มกาแฟแล้วหันมาดื่มชาเขียวหรือชาแทนก็ได้เช่นกัน เพราะชาหรือชาเขียวนั้นจะมีปริมาณคาเฟอีนอยู่ที่ 40-60 มิลลิกรัมต่อแก้วเท่านั้นค่ะ

หากทำได้แบบนี้สุขภาพก็จะแข็งแรงทั้งแม่และลูก หมดกังวลเรื่องอาการคนท้องที่มีสาเหตุมาจากคาเฟอีนกันได้แล้ว

ขอบคุณภาพประกอบจาก : pexels.com

  • คนท้องดื่มกาแฟได้หรือไม่ อันตรายต่อทารกในครรภ์หรือเปล่า?

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.