สังเกต 7 อาการบ่งบอกติดเชื้อ HIV ระยะแรกในผู้ชาย
มาทำความรู้จักกับโรคอันตราย ที่สามารถติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ นั่นคือ เอดส์หรือเอชไอวี (HIV : Human immunodeficiency virus) ซึ่งส่งผลให้เกิดความบกพร่องทางระบบภูมิคุ้มกัน ร่างกายจึงอ่อนแอลงเรื่อยๆ ทั้งนี้การพัฒนาของโรคขึ้นอยู่กับสุขภาพ อายุ และกรรมพันธุ์ แต่หากได้รับการรักษาเร็ว ในบางคนอาจไม่มีอาการ แม้จะได้รับเชื้อมานานหลายปี จากผลสำรวจ พบว่า 50% ของผู้ชาย ติดเชื้อจากการร่วมรักแบบไม่สวมถุงยางอนามัย ดังนั้นวันนี้เราจะพาคุณผู้ชายมาเช็ก 7 อาการในระยะแรกของโรคเอดส์ เพื่อให้คุณได้แนวทางในการสังเกตตัวเอง
1.มีไข้
ผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อมา อุณภูมิร่างกายจะสูงขึ้นในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ในบางคนอาจมีไข้เพียงเล็กน้อยในระยะเวลาไม่นานก็หายเป็นปกติ แต่จะเป็นบ่อยครั้ง
2.ท้องเสีย
ในระยะแรกผู้ป่วยจะมีอาการถ่ายเหลว ติดต่อกันหลายวัน ถึงแม้จะทานยาฆ่าเชื้อที่เหมือนกับอาการท้องเสียธรรมดา ก็ไม่หายเป็นปกติ
3.ปวดกล้ามเนื้อและข้อต่อ
อาการปวดเมื่อนกล้ามเนื้อและบริเวณข้อต่อตามส่วนต่างๆ เช่น แขน ขา เอว หลัง เป็นต้น อาจเป็นผลมาจากการถ่ายต่อเนื่อง ติดกันเป็นระยะเวลานาน
4.มีผื่นผิวหนัง
เนื่องจากเชื้อไวรัสเอชไอวี เข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาว ทำให้การดักจับสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย ทำได้น้อยลง ร่างกายจึงมีผดผื่นขึ้นตามผิวหนัง หรือในบางส่วนอาจเกิดการอักเสบ
5.ไอ
ในผู้ชายที่ได้รับเชื้อมา อาจมีอาการไอแห้ง ถี่ติดกันเป็นเวลานาน หรือที่เรียกว่าอาการไอเรื้อรัง อาจมีเสมหะเล็กน้อย หรือในบางคนไม่มีเลย
6.ต่อมน้ำเหลืองบวม
บริเวณที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนที่สุดคือ บริเวณใต้รักแร้หรือบริเวณขาหนีบ หรือให้บางคนต่อมน้ำเหลืองที่คออาจบวมใหญ่ แต่อาการบวมไม่ได้มีสาเหตุมาจากการรับเชื้อเอชไอวีมาอย่างเดียว อาจเกิดจากโรคต่อมน้ำเหลืออักเสบ ไซนัส เป็นต้น
7.น้ำหนักลด
เมื่อระบบภูมิคุ้มกันถูกทำลาย และเชื้อไวรัสได้เข้ามาบุกรุกเซลล์เม็ดเลือดที่สำคัญ ทำให้ผู้ชายที่ได้รับเชื้อไวรัสชนิดนี้ บางคนมีอาการน้ำหนักลดลงอย่างผิดปกติ เนื่องจากมีการเปลี่ยนสารอาหารที่นำเอาไปใช้เป็นพลังในร่างกายผิดแปลกไปจากเดิม จึงทำให้ร่างกายผอมลงและอาจมีอาการอ่อนเพลียร่วมด้วย
ทั้งนี้คุณจะทราบได้ 100% ก็ต่อเมื่อไปตรวจอย่างละเอียดที่โรงพยาบาล โดยการเจาะเลือดตรวจหาแอนติเจนหรือแอนติบอดีที่จำเพาะต่อโรคเอดส์โดยเฉพาะ หากตรวจเจอและรักษาเร็ว การทานยาควบคุมจะช่วยลดการเพิ่มจำนวนของเชื้อภายในร่างกาย และทำให้ไม่มีอาการใดๆ แต่ไม่ว่าอย่างไรคงไม่มีใครอยากเป็นโรคชนิดนี้ เพราะฉะนั้นแล้วควรป้องกันทุกวิธี ให้ห่างไกลจากตัวเรามากที่สุด
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.