"จอย บียอนด์ - แหวดศรี" เปิดใจหลังแจ้งความ ถูกตลกดังด่ากราดไล่ออกจากงาน
จอย บียอนด์ พร้อมกับ แหวดศรี เปิดใจหลังตลกดังด่ากราด ไล่ออกจากงาน ทำให้อับอาย ยันเอาเรื่องถึงที่สุด
ออกมาตั้งโต๊ะเปิดใจแถลงข่าวข้อเท็จจริงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำหรับนักร้องสาว จอย บียอนด์ และ แหวดศรี นครสวรรค์ น้องสาว ฮาย-อาภาพร นครสวรรค์ หลังเดินทางไปเล่นคอนเสิร์ตในงานวันเกิดกำนัน จังหวัดสุพรรณบุรี แต่กลับถูกตลกดังด่ากราดไล่ลงจากเวที ไม่ให้ขึ้นแสดง ทำให้เกิดความอับอาย และได้แจ้งความไปก่อนหน้านี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"อีกฝ่ายมีการพูดจาด่า ข่มขู่ทอเสียงดัง คนบริเวณนั้นหันมามองทำให้เกิดความอับอาย เสียใจอยากร้องไห้ ไม่อยากร้องเพลงแล้ว เลยกลับไปที่รถจะกลับบ้าน แต่ผู้ใหญ่ที่ติดต่อมาก็เดินไปตามว่ายังไงก็ต้องร้อง แต่ตนไม่สามารถขึ้นไปร้องเพลงได้ เพราะอีกฝ่ายด่าทอ ไม่ให้ขึ้น และพยายามจะโผเข้ามา และล็อกตัวอีกฝ่ายไว้ ด่าหยาบคาย ให้ของลับ เหมือนเราไปทำให้เขาแค้นมาก ด้วยความที่เขาดื่มน้ำเปลี่ยนนิสัยไปด้วย ตนรู้สึกเหมือนโดนรุม"
"เขาจะมีปัญหากับทุกคน ชอบพูดลับหลัง และถูกเรียกว่าอี เลยทำให้ไม่คุยกับเขามา 2 ปี และทำให้ไม่ไปยุ่งกับเขาเลย รวมถึงคนอื่นๆที่เจอมาเหมือนกันด้วย พอประจวบเหมาะไปอยู่ในพื้นที่เขาด้วย เขาเลยอาจจะรู้สึกมีพาวเวอร์มาก มีการกีดกันไม่ให้ขึ้นเวทีร้องเพลง ด่าทอ ข่มขู่ ที่ตนออกมาพูดเพราะเป็นฝ่ายถูกกระทำให้เกิดความอับอาย มีการพุ่งตัวจะเข้ามา แต่ไม่ทราบว่าจะเข้ามาตบตีมาผลัก มาแกล้งทำหรืออะไร แต่ตอนนั้นเราเกิดความหวาดกลัว อับอาย และอยากจะร้องไห้ อยากจะกลับบ้าน ยืนยันว่าที่พูดมาทั้งหมดมีหลักฐาน เพราะตนเป็นฝ่ายถูกกระทำ และทุกอย่างอยู่ในสำนวนคดีความ ไม่จำเป็นต้องโกหก แค่รักษาศักดิ์ศรีที่โดนกระทำ และเรียกร้องสิทธิหากไปร้องเพลที่ไหนแล้วต้องเจอแบบนี้อีก ส่วนอีกฝ่ายจะพูดอะไรก็พูดได้ แต่ขอให้มีหลักฐาน"
"ซึ่งได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว เนื่องจากเขาทำอุกอาจต่อหน้าสาธารณชน ทำให้เกิดความอับอาย อยากให้เป็นตัวอย่างว่าจะทำแบบนี้กับทุกคนไม่ได้ อยากให้เขาได้รับบทเรียนต่อความผิดที่เขากระทำ ทำให้คนอับอาย ให้เป็นเรื่องของกฎหมายต่อไป ไม่ได้อยากให้เป็นอะไรขนาดนั้น เพราะไม่ใช่เรื่องร้ายแรง แต่ความอายของแต่ละคนมีขีดจำกัด เพราะตนเองเป็นหัวหน้าคนด้วย ส่วนหนึ่งเป็นศิลปิน แต่อีกด้านหนึ่งก็ทำธุรกิจด้วย ซึ่งเขาก็ท้าทายเขาบอกว่าจะไม่ขอโทษ เพราะเขาบอกว่าเขาไม่ผิด"
ด้าน แหวดศรี น้องสาว ฮาย-อาภาพร นครสวรรค์ เผยต่อว่า Wตอนแรกไม่ติดใจอะไร เพราะอีกฝ่ายโทรมาขอโทษแล้ว ก็คุยกับเขาบอกเขาว่า ขอโทษหนูแล้วก็จบในส่วนของหนู แต่ในส่วนของพี่จอย ถ้าพี่จอยให้เป็นพยานก็ต้องไป ถ้าจะโกรธ ไม่คบหนูต่อก็แล้วแต่พี่นะ เขาก็บอกว่าถ้าหนูไปเป็นพยาน เขาก็มีพยานเหมือนกัน ก็เลยบอกว่าแล้วแต่พี่ เขาก็บอกว่าพยานของเขาเดี๋ยวนายกหาให้ได้จะเอากี่คน ร้อยคน ยี่สิบคนก็หาให้ได้ ก็เลยบอกว่าแล้วแต่ ไม่รู้ว่าเวลานั้นเขาเบ่งหรืออะไร แต่เขาพูดกับเราแบบนี้ ก็พอรู้นิสัยเขา แต่ไม่คิดว่าเขาจะหนักขนาดนี้ ไม่เคยเจอหนักขนาดนี้ แต่ที่ไม่แจ้งความเพราะว่าเราเห็นเขาเป็นพี่ชาย ส่วนพี่จอยหนูก็ทิ้งเขาไม่ได้ เพราะเขาก็เป็นพี่สาวและเราเป็นคนพาเขาไป และยังรู้สึกเสียใจว่าพาพี่จอยไปเจออะไร"
"หากอีกฝ่ายยอมขอโทษ ก็ให้ทนายเป็นคนดูอีกที ตอนนี้เรารู้สึกว่าทุกอย่างมันยังใหม่มาก เพิ่งเกิดขึ้น อารมณ์ของคนนานๆไปอาจจะเบาลง เพราะเราก็คนในวงการเดี่ยวกัน ไม่ชอบกันก็ต่างคนต่างอยู่ เราไม่ได้ไปผูกใจเจ็บว่าเจอหน้ากันต้องไปเอาคืน ไม่ได้อยากได้เงิน แต่อยากเรียกร้องสิทธิความเป็นศิลปินให้กับคนอื่นๆที่อาจจะโดนเหมือนกัน และไม่มีความโกรธแค้นส่วนตัว แต่สิ่งหนึ่งที่เสียใจคือ เขาจะไม่ขอโทษกับการกระทำทีตัวเองทำ มันแย่มาก ไม่อยากให้เขาทำแบบนี้กับคนอื่น"
"ไม่อยากฝากบอกอะไรเขาเป็นการส่วนตัวนะ คือการกระทำที่เกิดจากการมีสติ หรือไม่มีสติก็ดี ผลของการกระทำที่ทำไปแล้ว มันมักจะย้อนกลับมาทำให้เกิดความเสียหายอย่างที่เขาเป็นอยู่ ณ ตอนนี้ ไม่ว่าจะหลักเลี่ยงยังไงก็ตาม แต่วันไหนที่พิสูจน์ได้ ก็ต้องยบอมรับผลการกระทำอันนั้น"
"ตอนนั้นเขาผลักหัวหนูก่อน เราเลยเอาพี่จอยมายืนไว้ข้างหลัง ก็บอกว่าไม่มีอะไน เดี๋ยวเราเคลียร์เอง รอบแรกเขาก็ด่าเราว่า อีเห*ย เพราะมึงคนเดียวเลย อีสั** อันนี้คือรอบแรกนะ ยังไม่มีใครอยู่ตรงนั้น พอด่าหนูเสร็จ ก็ด่าพี่จอย แล้วก็มาด่าหนูต่อว่า เพราะมึงคนเดียวเลยอีแหวด อีเห** มึงรู้ว่ากูมีปัญหากับมันยังพามันมา เราก็คิดในใจว่าก็เคลียร์กับผู้ใหญ่แล้วหนิ ก็ไม่จบ เขาก็ด่าๆเรื่อยๆ จนพี่จอยบอกว่ากลับ พอหัวหน้าบอกกลับ เราจะอยู่ทำไม เราก็เสียใจร้องไห้เลยนะ แต่พี่จอยเก่งมาก ไม่ร้อง แล้วก็มีพี่วิ่งมาช่วยเคลียร์ มันไม่อยากร้อง แต่มันไม่ไหวจริงๆ ถามว่าหนุอยากด่ากลับไหม อยากนะ แต่อยู่ในเครื่องแบบ ไม่ได้ด่ากลับเลย เงียบมาก พยานก็มี เป็นคนของพี่เขาด้วย จะไม่พอใจก็แล้วแต่เขา เราพุดตามความจริง"
"เราไม่ได้อยากเป็นข่าวนะ หนูไม่เคยเล่าอะไรให้พี่ฮายฟังเลยนะ จนเกิดเรื่อง พี่จอยก็บอกว่าทำไมไม่บอกพี่สาว หนูเลยบอกว่าหนูน่าจะเคลียร์ได้ พี่จอยเล่าให้ครูบอยฟัง แล้วครูบอยก็ไปสื่อสารให้พี่ฮายฟัง หนูก็บอกว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร น่าจะเคลียร์ได้ หนูก็เล่าให้เขาฟัง พี่ฮายก็บอกว่า มึงยอม แต่กูไม่โอเค เหมือนมันเหยียบหน้ากูเลยนะตอนนี้ มันด่ามึงก็เหมือนด่ากู มันทำจอย ก็เหมือนทำศิลปินคนอื่น เดี๋ยวต้องทำให้เป็นตัวอย่าง จริงๆเขาคงไม่อยากจะเปิดเผยชื่อหรอก หนูคิดว่าตอนนั้นพี่ฮายก็ต้องโกรธ หนูรับได้นะ หนูเป็นคนพูดคำหยาบอยู่แล้ว แต่ตอนนั้นมันหยาบจนรู้สึกว่าพี่หรือแม่ก็ไม่เคยด่าขนาดนี้ ถ้าไม่มีคนห้ามวันนั้นหนูอาจจะเจ็บตัว เพราะเขาพุ่งเข้ามา ก็โดนไปก่อนหน้านั้นนิดนึง เพราะพี่จอยอยู่กับหนู"
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.