รีวิวคอนเสิร์ต TWO DOOR CINEMA CLUB กราฟิกอย่างโหด จัดหนัดทุกบีท โยกจนเมื่อย

รีวิวคอนเสิร์ต TWO DOOR CINEMA CLUB มาเมื่อไรก็จัดเต็มเสมอ ครั้งนี้ก็สร้างความประทับใจให้กับแฟนเพลงชาวไทยอีกเช่นเคย ขนมาแต่เพลงฮิต ใครได้ไปดูวันนั้นคือโชคดีสุดๆ

กลับมาอีกครั้งกับหนึ่งในวงดนตรีที่ควรคอนเสิร์ตก่อนตาย (แต่ชาวไทยได้ดูพวกเขาเป็นครั้งที่ 3 แล้ว) กับ TWO DOOR CINEMA CLUB Live In Bangkok 2023 เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ณ ภิรัช ฮอลล์ (BHIRAJ HALL) ไบเทค บางนา โดย Defiance Entertainment ร่วมกับ Skesh Entertainment ผู้จัดของชาวร็อคในไทย โดยมีวงเปิดเป็น Panician และ Sobboy ที่เรียกวอร์มอัพความสนุกได้อย่างไม่ผิดหวัง

21.00 น. ได้เวลาของวงหลัก 3 หนุ่ม Alex Trimble, Kevin Baird และ Sam Halliday จาก TWO DOOR CINEMA CLUB พร้อม 2 นักดนตรีแบ็กอัพเดินขึ้นมาเวทีพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะไม่พูดพล่ามทำเพลง เริ่มเพลงแรกจังหวะกลางๆ เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องกับ “This Is Life” ก่อนจะค่อยๆ เริ่มเพิ่มจังหวะและความมันด้วย “I Can Talk” ที่แฟนๆ ร้องเฮตั้งแต่อินโทร ส่งต่อพลังไปกับเพลงถัดไป “Are We Ready? (Wreck)”, “Undercover Martyn” และ “Handshake” เรียกได้ว่าขนเซ็ตลิสต์เพลงฮิตเก่าๆ มาให้แฟนๆ ได้ฟังกันตั้งแต่เปิดตัวเลย

หลังจากเล่นเพลงในอัลบั้มเก่าอย่าง “Satellite” และ “Eat That Up, It's Good for You” ไปเรียบร้อย ก็ถึงเวลาของเพลง “Wonderful Life” จากอัลบั้มล่าสุดที่ปล่อยออกมาในปี 2022 Keep On Smiling ที่ถึงแม้จะเป็นเพลงใหม่ที่อาจจะไม่คุ้นหูแฟนๆ มากเท่าเพลงเก่าๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เอเนอร์จี้จากคนดูในฮอลล์ลดลงเลย โดยหลังจากจบเพลงใหม่ก็กลับไปลุยเพลงเก่าสุดฮิตกันต่อ ทั้ง “Come Back Home”, “Talk”, “Changing of the Seasons”, “Next Year” และ “Do You Want It All?” ก่อนจะสลับมาเล่นเพลงใหม่ “Lucky” แล้วกลับมาลุยเพลงเก่าที่แฟนๆ คุ้นหูร้องตามเต้นตามกันไม่หยุดอย่าง “What You Know”, “Costume Party”, “Someday”, “Cigarettes in the Theatre”, “Sun”, “Sleep Alone” และ “Something Good Can Work” แบบม้วนเดียวจบไม่ต้องมีอังกอร์กันไปเลย

ตลอด 1.30 ชม. 21 เพลงฮิต ต้องบอกได้เลยว่าเป็นคอนเสิร์ตรวมเพลงฮิตจริงๆ เพราะกว่า 98% มีแต่เพลงเก่าที่แฟนๆ คุ้นหู ทุกคนบนเวทีแสดงได้อย่างเต็มที่ เอเนอร์จี้ไม่ตกตั้งแต่เพลงแรกยันเพลงสุดท้าย เล่นดนตรีดีเสียงร้องชัดเจนทรงพลังเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน และที่เป็นเอกลักษณ์จัดๆ ของ TDCC คือกราฟิกบนจอ LED ที่สวยงามจนมองเพลินทุกเพลง

น่าเสียดายที่การกลับมาของ TDCC ในครั้งนี้อาจไม่ใช่ช่วงพีคของวงเหมือนครั้งก่อนที่มีคนดูเต็มฮอลล์ธันเดอร์โดม ในครั้งนี้คนดูอาจจะไม่มากเท่าครั้งก่อน แต่วงยังคงเล่นดี พูดน้อยต่อยหนัก และรู้สึกดีที่ได้มาดูวงนี้อีกครั้ง แม้ว่าจะดูมาหลายรอบแล้ว แต่ก็ยังคงสนุกและสะใจ โยกกันจนเมื่อยตัวเหมือนเดิม

หวังว่าแฟนๆ ชาวไทยจะได้ดูพวกเขาอีกครั้ง และอีกหลายๆ ครั้งในอนาคต