"แม่อั้ม อธิชาติ" เปิดใจถึงลูกชาย มุมที่ไม่เคยมีใครรู้ หลังเลิกรา "นัท มีเรีย"
อั้ม อธิชาติ เกี่ยวก้อยคุณแม่ เปิดใจความผูกพัน เผยอาการป่วยที่คุณแม่เผชิญอยู่ ด้านคุณแม่เผยมุมลูกชายที่ทำน้อยใจ
วันนี้ (19 ธ.ค.) รายการคุยแซ่บ Show ได้เชิญพระเอกสุดหล่อ อั้ม อธิชาติ พร้อมคุณแม่ ถึงความรักความผูกพัน และอาการป่วยที่คุณต้องเผชิญอยู่ ด้านคุณแม่ได้เปิดใจถึงลูกชายกับมุมที่ไม่ใครรู้หลังเลิกรากับ นัท มีเรีย เป็นการเปิดใจคู่แม่ลูกครั้งแรก
คุณแม่เข้าโรงพยาบาลหลายรอบเลยเพราะกรดไหลย้อนคุณแม่เป็นมานานหรือยัง?
คุณแม่ : เป็นมาเกือบ 10 ปีแล้ว
อั้ม : คุณแม่เป็นคนเอ็นจอยกับการทานมากๆ แล้ววันนึงไปปฎิบัติธรรมที่นครสวรรค์วันนั้นโทรมาแล้วบอกหายใจไม่ออก อารมณ์เหมือนจะไปแล้วและให้เราพยามพาไปหาคุณหมอ คุณหมอก็ตรวจบอกว่าเป็นกรดไหลย้อน หลังจากนั้นคุณแม่ก็ควบคุมอาหารมาโดยตลอด มาดูแลตัวเอง สิ่งที่คุณหมอบอกคือต้องควบคุมอาหารห้ามเครียดต้องออกกำลังกายให้เลือดไหลเวียน
คุณแม่ : แม่ชอบกินข้าวเยอะๆ แค่ข้าวกับน้ำปลาก็อร่อยแล้ว ตอนนี้ก็พยามควบคุมอาหารอย่างที่คุณหมอแนะนำ
อั้ม : พอเราทราบอาการคุณแม่มาห้าหกปี พอเราได้เรียนรู้ เวลากดมันขึ้นมาเราแยกไม่ออกว่าเป็นกรดหรือเป็นโรคหัวใจ เพราะฉะนั้นเวลาเกิดขึ้นตอนนั้นทานอาหารแล้วมือสั่นหน้าเริ่มซีดเราก็สงสัยว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร ก็ได้มีการตรวจเอกซเรย์ขึ้นหัวใจ ก็เลยต้องพาไปนอนโรงพยาบาล
สาเหตุหลักๆ มาจากความเครียดด้วย เห็นจากการคอมเมนต์หรือเปล่า?
คุณแม่ : ปกติคุณแม่ไม่ค่อยอ่าน ลูกก็บอกคุณแม่อย่าอ่านเนาะเค้าเป็นห่วง จุกและเครียดเห็นคอมเมนต์อ่านแล้วร้องไห้
อั้ม : ก็พยามพาคุณแม่ออกกำลังกายทำสวน ก็บอกเค้าอย่าอ่าน
ก่อนหน้านี้คุณแม่มีอาการกำเริบเกือบเสียชีวิตสองครั้ง?
อั้ม : คือตอนนั้นคุณแม่คุณแม่ก็ใจเสีย เพราะกลัวว่าจะไปหรือเปล่าเพราะเค้าอายุมากแล้ว
คุณแม่ : ลูกคือห้ามเยอะมากของทอดขนมเค้กปาท่องโก๋
อั้ม : คือเราให้กินแต่พอดีแต่มันไม่พอดีไง ก็เลยเกิดเหตุการณ์ที่หายใจไม่ออก แน่นก็เลยต้องพาไปหาหมอฉีดยาเข้าเส้น ตอนแรกเราไม่เคยเป็นเพราะไม่เข้าใจอาการ พอพาไปหาคุณหมอ แล้วคุณหมอบอกว่ามันไม่ใช่เล่นเล่นนะ นี่คือก็เลยรีบจัดการทันที เพราะหายใจเฮือกๆ ตลอดเวลา
คุณแม่ : แล้วผู้เฒ่าผู้แก่แบบแม่ก็มีอาการแบบนี้แต่เค้าจะไม่ทราบว่าเป็นกรดไหลย้อน เค้าจะสับสนว่าเป็นโรคกรดไหลย้อนหัวใจ บางคนต้องไปเปลี่ยนเส้นบายพาสหัวใจ
คุณแม่ดื้อมั้ย?
คุณแม่ : ดื้อ ลูกก็ดื้อ
อั้ม : ด้วยความที่แม่เลี้ยงตอนเด็กๆ คนคิดว่าเป็นตุ๊ดหรือเปล่า? เพราะเราเรียบร้อย เรามีความเก็บกดอยู่ในใจพอขึ้น ม. 4 อยากจะใช้ชีวิตแบบเพื่อนบ้านเตะบอล ก็มีผู้หญิงเข้ามาในโรงเรียน ก็ขอใช้ชีวิตของตัวเองแล้วตอนนั้นก็เกรดตกเลย
คุณแม่ : คือเค้าเป็นดื้อเงียบ ไม่พูด เราก็เคยถือไม้เรียวเพื่อจะไปตีเขาบนห้อง แต่ก็ต้องวางไม้เรียวแล้วก็ไปร้องไห้
อั้ม : ก่อนหน้านั้นคือทะเลาะกันมาตลอด แล้วก็จากวันนั้นก็มาคิดได้
คุณแม่ : วิธีจัดการก็คือแม่ก็ไม่ตอแย อยู่บ้านเดียวกันแต่เขียนจดหมายแล้วก็ใส่ในชั้นเสื้อผ้าให้เค้าอ่าน
อั้ม : ที่เราไม่พูดเพราะเราคิดว่าพูดไปแม่ก็ไม่เข้าใจ แรกๆ ก็เขียนแต่หลังๆ มาเริ่มพิมพ์เพราะว่ามี LINE
คุณแม่ : ซึ่งบางครั้งเค้าก็ตอบบางครั้งก็ไม่ตอบ
จริงๆ อั้มเข้าวงการเพราะคุณแม่ดัน?
อั้ม : อย่าเรียกว่าแม่ด่าแม่ถีบเลย ตอนนั้นคือเราไม่อยากเข้าวงการ ไม่ชอบการที่ไปแสดง เรารู้สึกว่ามันไม่จริงใจ ตอนนั้นไม่อยากเข้าวงการเป็นคนขี้อายมาก ตอนนั้นก็มีโมเดลมาถ่ายรูปตอนนั้นไปก็หน้าหงิกตลอด คือเราไม่ได้ไปด้วยความเต็มใจ เพราะถ่ายรูปประกวดเสร็จปุ๊บ เราก็ไม่อยากไปป่วย ไปถึงเสร็จปุ๊บแม่ก็ขึ้นไปแนะนำตัว ก็ไม่ได้ร้ายกับใคร เพราะเค้าประกาศช่วงท้ายว่ารางวัลที่หนึ่งจะเป็นรถยนต์หนึ่งคัน จากง่วงๆ เราก็เริ่ม มีความอยากได้ คือเราเข้าวงการคุณแม่ก็เตรียมให้หมด
คุณแม่เห็นอะไรในตัวเขาที่จะเข้ามาในเป็นพระเอก ?
คุณแม่ : ตอนนั้นก็คืออยากให้เค้าลอง คุณแม่พยายามตามสุดฤทธิ์ ระหว่างที่รอการถ่ายทำ เค้าก็พยามสะกิดให้เรากลับเถอะ ใจเขาไม่อยาก เมื่อก่อนคือต้องไปกับเขา สาเหตุที่ไปเพราะเขางอแงไม่อยากมากอง
เมื่อก่อนเป็นคุณแม่ที่ดูแลพี่อั้ม แต่ตอนนี้พี่อั้มมาดูแลคุณแม่แล้วมีวิธีการดูแลคุณแม่บ้าง?
อั้ม : จุดมุ่งหมายหลักๆคือการไหลเวียนข้างใน ถ้าเรานอนดี เจออากาศที่ดี ก็พยามบอกคุณแม่ เราก็พาคุณแม่ไปอาบแดดตอนเช้า ก็ดูแลคุณแม่ด้วยรับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมด้วย
อีกเรื่องหนึ่งที่คุณแม่ตัดสินใจโกนผมบวชที่อินเดีย เพราะผ่านการตาย?
คุณแม่ : คือจริงๆ ผ่านการบวชมาสามครั้งแล้ว คืออั้มเป็นคนพาไปบวชที่อินเดีย บวชตรงประถมมาเทศนาอยู่ที่นั่น 9 วัน แล้วก็กลับมารักษาศเดินเท้าอยู่ที่จังหวัดสุพรรณให้ครบเดือน
เราเห็นเค้าแบบนี้เป็นยังไงบ้างแม่?
คุณแม่ : เค้าก็ซ่อนความรู้สึก
เค้ามีพูดอะไรกับแม่บ้างไหม ?
คุณแม่ : เค้าไม่ค่อยพูดเค้ารู้ว่าแม่เป็นยังไงไม่ค่อยพูดไม่ค่อยเล่า เพราะครั้งหนึ่งเราก็เคยน้อยใจลูกเวลาไปไหนทำไมถึงไม่ชวนแม่ไปไปวัดไปอะไรก็บ่นกับเขา ก็อยู่เป็นกำลังใจให้ลูกชายตลอดเวลา
อยากบอกอะไรกับคนที่ให้แฟนๆ ?
อั้ม : ขอบคุณทุกกำลังใจขอบคุณทุกความคิดเห็น ไม่ว่าจะเป็นความความคิดเห็นที่ต่างกันก็ตาม เราเข้าใจทุกคนรักจึงเป็นแบบนั้นจึงเป็นสิ่ง แต่อยากให้ทุกคนเคารพในสิ่งที่เป็น การไปคอมเม้นต์บาดหมางเราไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เพราะเราตกลงกันแบบนี้
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.