"ทิดแอม" ช่วยหนึ่งชีวิต ต่อลมหายใจทั้งครอบครัว (มีคลิป)
เบื้องหลัง "ทิดแอม" นักร้องเพลงดัง "บักคนซั่ว" ยื่นมือช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสหนึ่งชีวิต ต่อลมหายใจให้ทั้งครอบครัว
เปิดเรื่องราว "ทิดแอม" นักร้องขวัญใจสายอินดี้ ตั้งใจให้ความช่วยเหลือ "อาเกอร์" วิสา เจ๊กน้อย ผู้มีปมด้อยทางด้านร่างกาย จนกลายมาเป็นคู่หูต่างวัย
ทิดแอม บอกกับทีมข่าว Sanook.com ว่า เขาเจอกับอาเกอร์ครั้งแรก เมื่อ 3 ปีก่อน ตอนนั้นเดินทางไปทำงานกับทีมถ่ายหนังสั้น ที่หมู่บ้านในอ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น
"มีเด็กกลุ่มหนึ่งมาดูพวกเราทำงาน อาเกอร์เป็นหนึ่งในนั้น ผมเห็นเขาตัวเล็กกว่าคนอื่น ก็เกิดความรักและเอ็นดู ตอนนั้นผมยังไม่มีชื่อเสียง จำได้ว่ามีเหรียญอยู่ในกระเป๋ากางเกง 40 บาท ก็ล้วงให้เขาหมดเลย บอกว่าเอาไปกินขนมเด้อ"
ทิดแอมเล่าต่อว่า เส้นทางการศึกษาของอาเกอร์ จบที่ชั้น ป.6 เพราะครอบครัวไม่เงินส่งเรียนต่อ ที่บ้านน้ำไฟโดนตัดเป็นว่าเล่น ถูกยกมิเตอร์ไฟฟ้าหลายครั้ง
"เมื่อก่อนบ้านอาเกอร์โดนยกหม้อไฟฟ้าประจำ ผมก็ไปจ่ายเอาออกมาให้ ด้วยความสงสารและเห็นใจ"
เจ้าของเสียงร้องเพลงบักคนซั่วบอก ต่อมาจึงได้ปรึกษากับครอบครัวของอาเกอร์ว่า ถ้าน้องไม่เรียนต่อลองไปทำงานกับเขาไหม ไปแสดงบนเวทีคอนเสิร์ตด้วยกัน เพื่อให้น้องมีรายได้มาจุนเจือครอบครัว ก่อนกลายมาเป็นคู่หูต่างวัยในปัจจุบัน
"น้องอยากเรียน แต่ว่าทางบ้านลำบาก ถ้าไม่เรียนจะทำอะไร คือจะไปรับจ้างแบกหามก็ไม่ได้ เพราะว่าน้องเป็นคนแคระ ด้วยสรีระ ร่างกาย เป็นแบบนั้นด้วย ทำอย่างอื่นไม่ได้ ก็เลยบอกว่าถ้าอย่างนั้น มาคอนเสิร์ตด้วยกัน เดี๋ยวไปงานด้วยกัน คือว่ามันมีความน่ารักน่าเอ็นดูของมันอยู่ เอามาร่วมแสดงด้วยดีกว่า ตอนนี้ก็คือไปไหน ไปงานก็ไปด้วยกันครับ เวลาถ่ายนั่นถ่ายนี่ก็พาไปด้วยตลอดครับ คือคนก็ว่าเหมือนลูกชายคนหนึ่ง"
นักร้องหนุ่มชาว จ.ฉะเชิงเทรา ย้ายไปลงหลักปักฐานที่ จ.ขอนแก่น บอกต่อว่า ที่เขายื่นมือเข้าไปช่วยเหลืออาเกอร์ เพราะอยากส่งต่อโอกาสดีๆ ให้กับคนด้อยโอกาส เพื่อให้มีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น
"ผมก็เป็นคนหนึ่ง ที่ไม่ใช่ว่าเก่ง มาถึงจุดนี้ผมว่าผมได้รับโอกาสจากคนที่เขามอบโอกาสให้ พอผมได้โอกาสมาแล้ว ผมก็เลยอยากให้โอกาสกับคนที่ด้อยโอกาสต่อ ผมว่าการให้โอกาสกับคนที่ด้อยโอกาส มันดีกว่าการให้โอกาสกับคนที่ฉวยโอกาส"
หลังจากอาเกอร์มาร่วมแสดงบนเวทีคอนเสิร์ต เห็นน้องมีเงินไปให้ครอบครัวใช้จ่าย ทิดแอมบอกว่า รู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ ที่การให้โอกาสกับหนึ่งชีวิต ส่งผลให้อีกหลายชีวิตมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตามไปด้วย
"ที่เอาน้องมาทำงานด้วย อยากให้เขารู้ว่า กว่าจะได้เงินมาแต่ละบาทมันไม่ง่าย ให้รู้จักคุณค่าของเงิน รู้จักคุณค่าของความเป็นคน ทำหน้าที่ลูกที่จะตอบแทนพ่อแม่ มีพี่น้อง 3 คน เขาเป็นพี่ชายคนกลาง ตอนนี้ก็เป็นเขาที่ออกไปงานกับผม แล้วก็มีเงินมาจุนเจือครอบครัว จากที่แบบลำบาก โดนตัดไฟตัดน้ำ ตอนนี้ไม่มีแล้ว ถามน้องว่า ภูมิใจในตัวเองไหม เขาว่าก็ภูมิใจในตัวเองที่ได้หาเงินเลี้ยงดูครอบครัว ตอนนี้เขาอายุ 15ปี ย่าง 16 ปี ขนาดผมตอนเด็ก ก็ยังหาเงินได้ไม่เท่าเขาครับ เห็นเขาซื้อของ แล้วก็เอาเงินให้แม่ คือเราทำให้เด็กคนหนึ่งมีรายได้ ทำไปแล้วมันมีความสุขครับ อยากให้เขามีอะไรที่ดีขึ้นกว่าเดิมครับ ถ้าถามว่าอยากให้เรียน ก็อยากให้เรียน อยากให้เด็กเรียน เพราะว่าประสบการณ์การเรียนก็สำคัญ แต่ว่า มันจับพัดจับผลูมาแบบนี้แล้ว มันก็ต้องดำเนินต่อไป"
ด้าน อาเกอร์ เปิดใจว่า เขาโชคดีที่ได้เจอกับ "ทิดแอม" ได้รับความรัก และความหวังดี การที่นักร้องคนดัง ให้โอกาสเขาไปร่วมแสดงบนเวทีคอนเสิร์ต และแสดงหนังสั้นเผยแพร่ผ่านเพจเฟซบุ๊ก "เรื่องของกู" ทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นเสาหลักในการหารายได้ ดูแลครอบครัวให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจากเดิม
"เมื่อก่อนผมก็ไปตกปลา หากินตามหมู่บ้านนี่แหละครับ เวลาหม้อไฟโดนยกเขาก็ช่วย ก็นับถือเขาเป็นพี่เลยครับ เพราะเขาเข้ามาช่วยจุนเจือครอบครัวผม ที่ผมไปทำงานกับพี่แอม ก็มีถ่ายหนังเพจเรื่องของกูนี่ล่ะครับ ถ่ายหนังพวกหนังสั้นครับ กับพวกคลิปลง TikTok ครับ กับไปคอนเสิร์ตก็ไปเต้น โดยเฉลี่ยเวลาผมไปคอนเสิร์ตกับพี่แอม ประมาณหนึ่งอาทิตย์ครับ ได้เงินกลับบ้านมารอบละ 5-6 พันบาท ดีไม่ดีก็ได้มากกว่านั้นครับถ้าได้ทิปมากจะได้ประมาณ 7-8 พันบาท"
อาเกอร์ ยอมรับว่า ในแต่ละวันที่ทำงานมีความเหน็จเหนื่อยเมื่อยล้า ถือว่าเป็นเรื่องปกติของการทำงาน กว่าจะได้รับค่าจ้าง ไม่แลกมาด้วยสมอง ก็ต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย และไม่ว่าจะแลกมาด้วยสมอง หรือหยาดเหงื่อแรงกายก็มีความเหน็จเหนื่อยเมื่อยล้าด้วยกันทั้งสิ้น
"ไปทำงานเหนื่อยอยู่ครับแต่มันได้เงินมาจุนเจือครอบครัวครับ ช่วยให้แม่กับน้องไม่อดยากครับ พอให้หายเหนื่อยอยู่ครับ ได้มาก็ให้แม่ครับ แม่ก็จะไปใช้จ่ายในบ้านนี่ล่ะครับ พี่ทิดแอมช่วยผมเท่ากับต่อลมหายใจให้กับครอบครัวของผม แต่ก่อนแม่ผมทำงานคนเดียว เดี๋ยวนี้ผมเป็นคนเลี้ยงเขาแล้ว ครอบครัวที่ผมดูแลอยู่ตอนนี้ก็มีน้อง มีพี่สาว มีแม่ มีพ่อครับตอนนี้ว่าจะซื้อรถเข็นครับให้แม่ขายของตามบ้าน แบบรถสามล้อเข็นลูกชิ้นขายหน้าโรงเรียน เพราะแถวบ้านมีเด็กเยอะ อยู่ตรงข้ามสนามเด็กเล่น ก็เคยฝันนะครับว่าจะปลูกบ้านใหม่ให้แม่ แต่ตอนนี้พอให้จุนเจือครอบครัวไปก่อนครับ ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปครับ วันนี้ของผม และครอบครัวแตกต่างจากเมื่อวานไปในทางที่ดีขึ้น ก็ดีมากแล้วครับ"
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.