นางเอกสายบุญ "นุ่น วรนุช" เล่าประสบการณ์ฝึกจิตในป่าช้า
นางเอกสาว นุ่น วรนุช เล่าถึงชีวิตที่ยังคงยึดติด เป็นคนชอบปฏิบัติธรรมตั้งแต่เด็ก แต่ก็ยังมีกิเลสอยู่ ครั้งหนึ่งเคยมีประสบการณ์ไปฝึกจิตในป่าช้า พร้อมเล่าถึงการเรียนรู้คนในชีวิตจริงผ่านตัวละครที่ได้รับ ทำให้เข้าใจชีวิตมากขึ้น ในรายการ WOODY FM
ในยุคโซเชียลมีเดียเราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง ?
นุ่น วรนุช : เยอะแยะหมดเลย เห็นทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นในทุกๆแพลตฟอร์มที่เกิดขึ้นมาใหม่ๆ แล้วก็รู้สึกว่าแพลตฟอร์มเหล่านั้นมันอยู่ที่เราเลือกเสพ มีทั้งดี ทั้งโทษ แล้วแต่ที่คนจะเลือก ก็คือมองดูแต่ว่าไม่ลึกไปกับมัน หรือบางทีเราก็ทำคอนเทนส์เพื่อความสนุก เราก็รู้แล้วว่าทำไมคนถึงอยู่ตรงนี้ เพราะมันสนุกแล้วก็ฮีลตัวเองในแต่ละวัยในช่วงอายุด้วย นุ่นโชคดีที่ยังเล่นละครอยู่เรื่อยๆ เพราะฉะนั้นเราจะเจอนักแสดงที่เด็กๆ กว่าเยอะ มันก็เลยเหมือนมีเพื่อนเยอะ เขาก็ชวนทำนั่นทำนี่ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นให้เราได้ทำอะไรหลายๆ อย่าง
เพิ่งทราบว่าคุณปฏิบัติหรือนั่งสมาธิมาตั้งแต่เด็ก ?
นุ่น วรนุช : เริ่มต้นตั้งแต่ตอนเด็กๆ เราอยู่กับคุณแม่ แล้วคุณแม่พาไปนั่งสมาธิตอนประถม จนอายุประมาณ 20 กว่า ก็มีโอกาสได้ไปวิปัสสนาแต่เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่เรามีความทุกข์ในบางอย่าง พอไปนั่งทำให้เราหาคำตอบว่าอย่าไปสนใจมัน เป็นเรื่องเก่าไปแล้ว อย่าไปอยากรู้ รู้ไปไม่ได้ประโยชน์ แล้วก็ทำบุญส่งบุญให้ทุกๆ คนที่อยู่รอบข้างเรา และ 2 ปีที่แล้วก็ไปนั่งในป่าช้า แต่ไปแบบเงียบๆ ไม่ได้ลงโซเชียล เพราะมีโอกาสได้ไปปฏิบัติธรรมกับพระรูปหนึ่ง ท่านก็บอกว่าบางครั้งที่แบบนั้นบุญไปไม่ถึง เหมือนเราก็ไปนั่งฝึกจิตแล้วก็แผ่เมตตาให้กับตรงนั้นด้วย สิ่งที่ได้ก็รู้สึกโล่งสบาย ได้แบ่งบุญให้รอบๆ ข้างที่เขาอาจจะไม่มีโอกาสได้
ที่บอกว่าไม่คิดว่าจะละได้เพราะว่ายังอยู่ในการยึดติดคือยังไง ?
นุ่น วรนุช : ในการนั่งสมาธิไม่ได้บอกว่านุ่นทิ้งไปเลยนะคะ บางทีถ้าอยู่บ้านง่ายๆ นุ่นนอนสมาธิ ถ้าช่วงไหนบางทีนอนไม่ค่อยหลับ ทำสมาธิก็จะตัวเบาแล้วก็หลับสบายมาก คือนุ่นไปในที่ๆ เคร่งมากๆ มาจนเคร่งน้อยๆ เลยมองหาว่าอะไรเหมาะกับเรา ไม่ได้ต่อต้านว่าใครทำดีไม่ดีแต่ทุกคนจะมีในแบบของตัวเอง เพราะรู้สึกว่าการทำบุญหรือนั่งสมาธิของเราไม่ได้หวังนิพพาน ไม่ได้หวังว่าจะไม่เวียนไหว้ตายเกิดอีกแล้ว ก็ยังเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีกิเลสที่อยากทำนั่นทำนี่หลายอย่าง ก็อาจจะตรงกับทางพุทธศาสนาที่ให้มองในปัจจุบัน นุ่นจะไม่คิดอะไรไกลๆ ไม่ได้มองว่าอนาคตเราอีก 3 ปีจะเป็นยังไง แค่เดือนหน้าไปเที่ยวไหนดี หรือจะแพลนไปตรงไหนยังไงแค่นั้นค่ะ แล้วก็ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
คนเรามักจะติดในการไปห่วงอนาคตหรืออดีต ?
นุ่น วรนุช : แต่อาจจะเป็นเพราะตัวนุ่นเอง รู้สึกว่านุ่นมีครอบครัวที่อบอุ่น มีพี่น้องก็ปัญหาเป็นปกตินะคะ มีปัญหาก็ต้องแก้ไป ถ้ามันจะต้องมีอะไร เราจะไปปวดหัวกับปัญหานั้นตลอดหรือไปโทษปัญหาตลอดมันไม่ได้ แล้วก็มีอยู่คำหนึ่งกับเพื่อนๆ ชอบพูดกันอย่ามีความสุขมากไป ความสุขหรือหัวเราะเยอะๆ เดี๋ยวมีเรื่องมาละ มันก็จริงนะคะ เพราะฉะนั้นก็คือมันจะไม่อยู่กับเราตลอด ทุกข์ก็จะไม่อยู่กับเราตลอด มีสลับไปมา นุ่นอาจจะโชคดีที่มีเพื่อนคอยรับฟัง คือไม่ใช่ว่านุ่นจะทำได้เองทุกอย่าง เพื่อนสามารถซัพพอร์ตและคุยในเรื่องเดียวกันได้ เพราะเคยไปปฏิบัติด้วยกัน ความว่างเปล่าเจอมาแล้วดีมากๆ ดีจนไม่อยากออกจากปฏิบัติธรรมเลย อันนั้นเป็นความว่างเปล่าแบบบวก ความว่างเปล่าแบบลบมันก็มี ซึ่งเราเจอในตัวละคร
เล่าให้ฟังหน่อยสิ ?
นุ่น วรนุช : อย่างในตัววารีที่นุ่นได้รับ ในซีรีส์ อย่ากลับบ้าน คือบางทีมันเสียใจจนมันนิ่ง คล้ายๆกับเป็นอาการทางความคิด จิตใจที่บกพร่อง หรือเพื่อนบางคนก็เคยบอกว่ารู้สึกว่างเปล่าไม่อยากอยู่ คือจะเป็นว่างเปล่าในแบบนั้น แล้วนุ่นมาเจอในตัวละคร ก็คือสิ่งหนึ่งที่ทำให้นุ่นเข้าใจชีวิต ซึ่งก็เหมือนกับที่หม่อมน้อยบอกว่าเราเล่นละครเยอะๆ รู้จักเพื่อนรู้จักคนรอบข้างผ่านตัวละคร แล้วจะทำให้เราสามารถเรียนรู้คนในชีวิตจริงเราได้ ก็ทำให้เราใช้ชีวิตง่ายขึ้น แล้วก็มองทุกคนด้วยความสุขหมดเลยค่ะ
สามารถติดตาม Woody FM ได้ที่ช่องทาง Podcast : WOODY FM , Facebook: Woody, Youtube: Woody ทุกวันพุธ เวลา 19.00 น.
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.