"หมอเจี๊ยบ" ความรัก 8 ปีแฮปปี้ช่วยเติมเต็มชีวิต! เคยเครียดหนักกับคำว่าแพทย์หญิง

"หมอเจี๊ยบ" ความรัก 8 ปีแฮปปี้ช่วยเติมเต็มชีวิต! เคยเครียดหนักกับคำว่าแพทย์หญิง

ถือเป็นอีกหนึ่งคุณหมอคนเก่งของวงการบันเทิงสำหรับ "หมอเจี๊ยบ-ลลนา ก้องธรนินทร์" ที่นอกจากจะเคยคว้ามงกุฎนางสาวไทยมาครองแล้ว ยังเดินหน้าช่วยเหลือสังคมอย่างมากมาย ล่าสุดมาเปิดใจในรายการ WOODY FM เผยเรื่องพบเจอการจากลามากมายจนรู้สึกปล่อยวางไม่ยึดติดกับชีวิต ในด้านความรัก 8 ปี น้องเดียร์ แฟนสาวช่วยเติมเต็มและเยียวยาใจในวันที่ทุกข์หนัก

การที่คุณเป็นหมอเรื่องที่จะได้เจอบ่อยๆคือการจากลา ?

หมอเจี๊ยบ : ต้องขอพูดก่อนว่าดีใจมาก ๆ ที่ได้เจอพี่วู้ดดี้ในวันนี้ เราเจอกันตั้งแต่เจี๊ยบยังเด็กอยู่เลย 10 กว่าปีแล้ว ซึ่งตอนนั้นเจี๊ยบยังเรียนต่อแพทย์ฉุกเฉินอยู่เลย แล้วตอนนี้จบมาเป็นแพทย์ฉุกเฉินแล้ว ดีใจที่ได้มานั่งคุยกันในวันนี้ อยากจะบอกว่าความคิดในตอนนั้นกับตอนนี้เปลี่ยนไปเยอะมาก ตอนนั้นเหมือนเป็นช่วงที่เรากำลังเรียนรู้ กำลังเติบโต แต่พอมาถึงตรงนี้รู้สึกว่าได้ทำงานเยอะขึ้น โตมากขึ้น เราเจอสิ่งต่างๆมากมายแต่สิ่งหนึ่งที่เราคิดว่ามันจะมาไม่ถึง แล้วก็คิดว่าคงไม่เป็นเราหรอก แต่จริงๆมันอยู่ตรงนั้น นั่นก็คือการจากลา หรือเราจะต้องพลัดพรากจากคนที่เรารัก มันต้องมาแน่ๆ

ตอนเรียนหมอคุณก็มีอาจารย์ใหญ่ หรือคิดว่าจะไม่ได้เจอเหตุการณ์เหล่านั้น ?

หมอเจี๊ยบ : ด้วยความที่ยังเด็ก แล้วคิดว่ามันคงไม่ใช่เราหรอก ตอนที่เป็นนักศึกษายังไม่ได้อยู่ในแผนกอุบัติเหตุฉุกเฉิน หรือว่าเจอการจากลาหรือเสียชีวิตได้บ่อย เท่ากับที่เราเจอตอนเป็นหมอฉุกเฉิน มันเป็นแผนกที่พบเจอการจากลาในหลากหลายรูปแบบมาก แล้วก็หลายช่วงอายุมาก มาในสิ่งที่เขาคาดไม่ถึง เขาไม่ได้ตั้งใจว่าจะจากลากันเลย อยู่ดีๆมาเจอข่าวร้าย แล้วมันก็เป็นเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำมาเรื่อยๆ ทำให้รู้สึกว่าเดี๋ยววันใดวันหนึ่งก็ต้องเป็นเราที่จะเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ แล้วก็รู้ว่าไม่ว่าคุณจะมีเงิน หรือคุณจะมีอำนาจ จะมีชื่อเสียงขนาดไหนก็ตาม สิ่งเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเจอเหมือนกัน มันไม่มีอะไรที่จะป้องกันได้เลย

สิ่งที่พูดมาทั้งหมดส่งผลอะไรบ้างกับจิตใจเราในฐานะที่เป็นหมอคนหนึ่ง ?

หมอเจี๊ยบ : เอาจริงๆ ตอนเด็กก็ยังไม่ตระหนักถึง มันเคยนอยด์ในช่วงแรกๆ ที่กลับไปเรียนแพทย์ฉุกเฉิน วันหนึ่งเราจะทำยังไงพยายามคิดหาวิธี แต่ก็ไม่มีวิธีไหนรู้แค่ว่าเราต้องทำ ณ โมเมนต์นั้นให้ดีที่สุดกับคนที่เรารัก กับสิ่งที่อยากจะทำ เพราะถ้าวันนั้นมาถึงจะได้รู้สึกว่าไม่เสียดายอะไรแล้ว แล้วเราก็เผลอเรอไม่คิดว่าวันนั้นจะมาถึงอีกก็ใช้ชีวิตด้วยความประมาทจนกระทั่งโตขึ้นมาเรื่อยๆอายุเลข 3 ตอนปลาย มันก็เริ่มคิดได้ว่ายิ่งเราเจอความทุกข์หรือใดๆ เข้ามาในชีวิตเรื่อยๆ เริ่มทำให้เราเห็นว่าสุดท้ายแล้วความสุขมันก็ไม่ได้มีอะไรที่จีรังยั่งยืน

ซึ่งเคยคิดว่าถ้าเราสอบติดหมอความสุขอยู่ตรงนั้นแล้ว ต้องสุขต้องแฮปปี้มากๆ เป้าหมายชีวิตคือตรงนั้น แต่วันที่ประกาศผลออกมาจำได้เลยว่าเจี๊ยบเฉยมาก ดีใจนะแต่เหมือนทุกอย่างที่เราทุ่มมา 3 ปีไม่ได้รู้สึกเหมือนที่เราคาดไว้ตอนนั้น หลังจากสอบติดเรียนหมอความทุกข์ใหม่เข้ามาอย่างถาโถม การเรียนอันหนักหน่วง เราก็ตั้งเป้าใหม่ว่าถ้าเรียนจบหมอจะสุดยอดแล้ว อดทนแล้ววันที่เรียนจบ ภายใต้คำว่าแพทย์หญิงครั้งแรกเครียดมาก ทุกข์กว่าเดิมอีก พอออกมาเราต้องรับผิดชอบชีวิตของคนไข้ด้วยลายเซ็นของตัวเองไม่มีอาจารย์ให้ถามแล้ว จนกระทั่งได้กลับมาเรียนหมอฉุกเฉินใหม่เพื่อจะได้เป็นหมอที่เก่งและดีขึ้น แล้วก็ตั้งเป้าใหม่ว่าฉันเป็นหมอฉุกเฉินทุกอย่างจะจบแล้ว พอจบมาก็กลายเป็นโรคแพนิกแทน ไม่มีความสุขที่แท้จริงและยั่งยืนขนาดนั้น ก็เลยรู้สึกว่าชีวิตก็เป็นแบบนี้แหล่ะ เพราะฉะนั้นเราจะต้องอย่าไปยึดติด ต้องรู้จักปล่อยวางกับสิ่งต่างๆ จะทำยังไงมากกว่าถ้ามีความทุกข์เข้ามาแล้วเราจัดการเหตุการณ์ต่างๆได้ดีกว่านี้

การมีคนรักมันเติมเต็มในชีวิตไหม ?

หมอเจี๊ยบ : การที่มีคนรักน่าจะเป็นสิ่งที่มีคุณค่าที่สุดนะสำหรับเจี๊ยบมากกว่าชื่อเสียง เงินทอง หรืออำนาจใดๆ ก็ตาม เจี๊ยบว่าบางทีมันเป็นสิ่งที่เงินก็หาซื้อมาไม่ได้ ความมีอำนาจก็หาซื้อความรักที่แท้จริงไม่ได้ มันเป็นพลังงานพลังใจที่ดีมาก ในการที่ทำให้เราผ่านพ้นปัญหาต่างๆ หรืออุปสรรคไปได้ ยิ่งโตขึ้นมาเจี๊ยบให้เวลากับครอบครัวกับคนรักเป็นอันดับ 1

คนรักเยียวยาเรายังไงบ้าง ?

หมอเจี๊ยบ : ทั้งในเรื่องของครอบครัวเป็นส่วนเติมเต็มที่ทำให้เจี๊ยบเดินมาถึงทุกวันนี้ได้พ่อแม่พี่น้องอะไรต่างๆ และด้วยตัวคนรักของเจี๊ยบน้องเดียร์

คบกันกี่ปีแล้ว?

หมอเจี๊ยบ : จะ 8 ปีแล้ว เขาเข้ามาในวันที่เหมือนเราอ่อนแอมากๆ พูดง่ายๆ คืออกหักครั้งแรกแหล่ะ ไม่เคยทุกข์ใจแบบนี้มาก่อน มันทำให้เจี๊ยบรู้ว่าคนเราเวลามันป่วยใจมันยาก เพราะว่าเจี๊ยบเป็นหมอรักษากาย เรารู้ว่าเป็นอะไรก็ตามกินยาตัวนี้เดี๋ยวคุณดีขึ้นถ้ามันเป็นโรคที่รักษาได้ แต่เวลาที่คนเราเศร้าใจในเรื่องใดๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะผิดหวัง สอบตก อกหักใดๆ มันไม่มียาที่คุณกินไปแล้วหายเศร้า สุดท้ายแล้วมันอยู่ที่ใจคุณ ฮีลใจตัวเองได้เมื่อไหร่ เมื่อนั้นคุณก็จะหายเศร้า แต่ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะทำได้ แต่น้องเดียร์เขาดันเป็นหมอรักษาใจให้เจี๊ยบได้ในวันนั้น คำพูดหรือการกระทำต่างๆ ของเขา ทำให้ฮีลใจของเราขึ้นมา จนเรารู้สึกมีคุณค่าแล้วก็ทุกวันนี้เหมือนเราก้าวไปด้วยกัน แล้วเขาก็กำลังเรียนเป็นนักจิตวิทยา เจี๊ยบก็เลยบอกว่าเราเป็นหมอรักษากายนะ ส่วนเขาเป็นหมอรักษาใจ เจี๊ยบเลยรู้สึกชื่นชมกับคนที่รักษาใจคนได้มาก เพราะรู้สึกว่ามันยากในการที่เราจะทำให้คนๆ หนึ่ง เปลี่ยนมุมมองชีวิตหรือว่ามีพลัง ที่จะกลับขึ้นมาใช้ชีวิตในแบบที่เขาอยากเป็น รู้สึกขอบคุณเขาเหมือนกันและดีใจที่เขาเดินในเส้นทางนี้

 

สามารถติดตาม Woody FM ได้ที่ช่องทาง Podcast : WOODY FM , Facebook: Woody, Youtube: Woody ทุกวันพุธ เวลา 19.00 น.

 

คลิกชมย้อนหลัง : https://www.youtube.com/watch?v=4BXXX2WMpYg&t=5s

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.