"ซินดี้ สิรินยา" ไม่รู้คุณค่าของชีวิตจนกระทั่งมีลูก! แคร์คนอื่นมากไปไม่เคยได้เป็นตัวเอง

ซุปเปอร์โมเดลเบอร์ต้นๆ ของวงการอย่าง "ซินดี้ สิรินยา" เปิดหมดเปลือกในรายการ WOODY FM ถึงเรื่องราวชีวิตที่เข้าวงการตั้งแต่อายุ 17 ปี ไม่เคยได้ค้นหาว่าจริงๆ แล้วต้องการอะไร แคร์คนอื่นมากไปจนไม่เคยได้เป็นตัวเอง ไม่รู้คุณค่าของชีวิตจนกระทั่งได้มีลูก เป็นคน Perfectionist และเหมือนเป็น Panic ตลอดเวลาถึงขั้นคิดจะไปปรึกษาแพทย์

ความที่เราเป็นคนหน้าตาดี เป็นค่านิยม แต่พอโตขึ้นมาภายในของคนที่มีคนชมว่าสวย ผู้หญิงที่เป็นนางแบบชั้นนำภายใต้จิตใจของเราความมั่นว่าฉันสวยมันสักเท่าไหร่ ?

ซินดี้ สิรินยา : วู้ดดี้เชื่อไหม ฉันเป็นคนไม่มี Self Esteem เลย หมายความว่าเมื่อก่อนนะ จริงๆ แล้วทุกวันนี้ฉันยังปรับปรุงตัวเอง แล้วก็เตือนตัวเองว่าฉันดีได้กว่านี้ ซึ่งคนมักจะคิดไปว่า สวย มั่นใจ พร้อมเธอมีทุกอย่าง จะมีปัญหาอะไร แต่มันมาจากการตัดสินของคนภายนอกตลอดเวลา แล้วด้วยความที่ฉันเป็นเพอร์เฟคชั่นนิสโตมากับคุณพ่อที่ค่อนข้างคาดหวังเยอะ คุณแม่ที่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามสิ่งที่เขาคาดหวัง มันเลยทำให้เราโตมาแล้วก็เอาคุณค่าของตัวเองไปพวงกับการยอมรับของคนอื่นตั้งแต่เด็กๆ แล้วอยู่ดีๆ เราก็ไปประกวดซึ่งในตอนอายุ 17 เป็นช่วงเวลาที่ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังค้นหาตัวเอง กำลังที่จะต้องเรียนรู้การรู้จากตัวเอง อยู่ดีๆก็ไปอยู่บนแท่นถือมงกุฎแล้วก็ต้องพรีเซนต์ประเทศ ตอนนั้นฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่พอเวลาผ่านไปพอเราเริ่มโตขึ้น ก็เข้าใจว่าจริงๆ แล้วเราไม่มั่นใจเลย รู้สึกว่าเรารู้แล้วแหล่ะว่าความมั่นใจจริงๆ คุณค่าของตัวเองจริงๆ มันอยู่ตรงไหน

ในตอนที่เราไม่เห็นคุณค่ามันย้อนแย้งขนาดไหน ?

ซินดี้ สิรินยา : มันจะนำไปสู่พฤติกรรมต่างๆ ที่เราทำเพื่อที่จะได้คำชมจากคนอื่น เช่นเป็นคนที่ใครให้ทำอะไรก็ทำ บางทีมันก็เป็นพฤติกรรมที่มันไม่ได้ Healthy เท่าไหร่ แบบไม่ได้ดูแลตัวเอง ให้ทุกคนเป็นคนที่สำคัญมากกว่าเรา

เริ่มเห็นคุณค่าของตัวเองจากอะไร ?

ซินดี้ สิรินยา : ซินดี้ว่าสิ่งที่เปลี่ยนที่สุดก็คือตอนมีลูก เราต้องเป็นคนที่เทคแคร์แล้วก็เป็นแบบอย่างให้กับคนอื่น ก็เลยรู้ว่างั้นเราก็ต้องทำอะไรสักอย่าง (หัวเราะ) ที่ฉันจะได้ใช้ชีวิต เพราะว่าเราไม่อยากให้ทั้งลูกสาวและลูกชายต้องเจอในสิ่งที่ หรือไม่รู้ว่าคุณค่าของเขาอยู่ตรงไหน ก็เลยเริ่มเปลี่ยน หันมาอ่านหนังสือมากขึ้น เริ่มค้นหาว่าตัวตนที่แท้จริงของซินดี้คือใคร ไม่ใช่กับสิ่งที่คนอื่นเขาได้ตั้งเอาไว้ เราอยู่ในวงการตั้งแต่ 17 อาจจะเด็กกว่านั้น เราเลยโตมากับความที่เป็นคนบันเทิง เป็นคนของประชาชนแต่ยังไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง คิดว่ามันก็เริ่มจากตอนมีลูก แล้วก็พอเราเริ่มมาทำสิ่งที่มันมากกว่าแค่งานในวงการ เช่น Don't Tell Me How To Dress เริ่มมาศึกษา เราทำอื่นๆ สิ่งที่รู้สึกว่ามีความหมายมากขึ้น

คุณทำงานหนักมากจนไม่รู้ว่าตัวเองรับความกดดัน มีความเครียด ?

ซินดี้ สิรินยา : เราเหมือนไหลลงไปในหลุม ซึ่งจะบอกว่ามันเป็นหนึ่งเหตุการณ์อะไรที่ชัดเจน เกิดอะไรขึ้น ฉันไม่สามารถที่จะบอกได้ มันมาจากหลายๆอย่าง น่าจะเป็นช่วงที่ทำแคมเปญแต่ก็ไม่ได้มาจากความเครียดกดดันอะไร แต่ว่าด้วยความที่เราเอาตัวเองเข้าไปใส่งานเยอะมาก อยากจะทำให้ออกมาดีที่สุด ต้องการให้คนเข้าใจในสิ่งที่ทำ บวกกับลูก 2 คน แล้วน่าจะช่วงโควิดด้วย เลยแบบหลายสิ่ง แล้วอาการของซินดี้คือเหมือนแบบปิดสวิตช์สมองไม่ได้ เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่ามันย้ำคิดย้ำทำตลอดเวลา เหนื่อยมาก ขนาดอาบน้ำยังแบบไม่รู้จะหยุดมันยังไง คิดโน้นนี่แล้วมันมาหลากหลายมาก สิ่งแรกที่คิดทุกเช้าคือฉันต้องทำอะไรวันนี้ แต่บางทีเกิดขึ้นเร็วมาก มันไม่มั่นคง แล้วก็ไม่ได้โอเค แล้วก็ไม่ดีต่อที่จะเปิดอยู่ตลอดเวลา

อยู่ในโหมดที่เหมือนจะ Panic ตลอดเวลาส่งผลอะไรให้กับตัวเอง ?

ซินดี้ สิรินยา : ไม่คิดก่อน หลายครั้งถ้าเราอยู่ในโหมดนั้น ถ้าสมมุติลูกเข้ามาปุ๊บ! เราก็จะตอบไป จะรีแอคโดยที่เรายังไม่ได้ฟังเลยว่าต้องการอะไร บางครั้งเขาไม่ได้ต้องการให้เราช่วย เขาแค่อยากจะบ่นให้ฟัง แต่ด้วยเราอยู่ในโหมดที่แบบจัดการทุกสิ่งอย่าง เราก็จะกลายเป็นคุณแม่หรือภรรยาที่เจ้ากี้เจ้าการ หรือว่าเจ้านายที่สั่งๆๆ ซึ่งจริงๆ แล้วเราไม่ได้เป็นคนแบบนั้น แต่พอเราไม่ได้ดูแลตัวเอง ไม่มีสติ ไม่ได้อยู่กับปัจจุบัน มันเลยกลายเป็นแบบรีแอค ซึ่งเราไม่ควรตอบสนองแบบนั้น ก็เลยรู้ ตอนนั้นถึงขั้นคิดว่าจะต้องไปปรึกษาแพทย์ แต่เราก็เป็นคนที่กลัวหมออีก กลัวว่าจะโดนวินิจฉัยในสิ่งที่มันอาจจะไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น แล้วก็กลัวที่จะต้องกินยา ก็เลยขอลองหาวิธีให้กับตัวเองก่อน แต่รู้แล้วว่าตอนนี้ไม่ปกติแล้ว พยายามหาข้อมูล อ่านหนังสือก็ค้นพบหลากหลาย ที่มันก็ช่วยเราได้ แต่ไม่ใช่ว่าทำแล้วจบหายไป ทุกวันนี้ก็ต้องทำเรื่อยๆ

สามารถติดตาม Woody FM ได้ที่ช่องทาง Podcast : WOODY FM , Facebook: Woody, Youtube: Woody ทุกวันพุธ เวลา 19.00 น.

 

คลิกชมย้อนหลัง : https://www.youtube.com/watch?v=LiFQjBhOAZU&t=12s

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.