"รถรางเที่ยวสุดท้าย" ละครไทยน้ำดี ภาพสะท้อนของคนสองรุ่น

ขณะที่สังคมไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) นั้น ภาษาในโลกโซเชียลก็เริ่มมีคำศัพท์เกิดขึ้นใหม่เพื่อใช้ล้อเลียนผู้สูงวัยด้วยคำว่า มนุษย์ป้า มนุษย์ลุง และทางฝั่งผู้สูงวัยก็มักดูถูกดูแคลนเด็กรุ่นใหม่ว่าขาดความอดทนและก้าวร้าว

  • เรื่องย่อ รถรางเที่ยวสุดท้าย ละครสะท้อนสังคม คนต่างรุ่นบนความเปลี่ยนแปลงต่างยุค

ไทยพีบีเอส ร่วมกับ บริษัท สตาร์ฟีนิกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด โดย ใจเอื้อ โกศลธนศังกร , วิธิวัสส์ ศุภศิริวัฒนกุล  ผลิตละครเรื่อง “รถรางเที่ยวสุดท้าย” จากบทประพันธ์/บทโทรทัศน์โดย สมเกียรติ  วิทุรานิช กำกับการแสดงโดย จีรภา ระวังการณ์ ละคร ความยาว 12 ตอน ตอนละ 52 นาที โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำประเด็นความขัดแย้งทางความคิดของคนสองรุ่น คือคนรุ่นเจน Y (Millennial) กับคนรุ่นเจน B (Baby Boomer) มาเป็นตัวละครหลักของเรื่อง เพื่อนำเสนอเรื่องราวให้คนทั้งสองรุ่นได้หยุดคิด และทำความเข้าใจกับทัศนคติของตัวเองเป็นหลัก

ตัวละครหลักของทั้งสองฝั่งจึงถูกสร้างขึ้นมาเป็นคู่ โดยให้คนรุ่นเจน Y มีตัวละครที่ชื่อ ภราดร (พลวิชญ์ เกตุประภากร) และ นที (กิตติภัทร แก้วเจริญ) คนหนึ่งแข็งกร้าวอีกคนอ่อนโยน เพื่อให้เขาทั้งสองทำหน้าที่คอยเตือนสติกัน ด้านรุ่นเจน B ก็มีตัวละครที่ชื่อ อารักษ์ (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) และ บริพัตร (สมภพ เบญจาทิกุล) ซึ่งมีอุปนิสัยและทัศนคติที่แตกต่างกัน เพื่อให้มีจุดประสงค์เช่นเดียวกันกับตัวละครรุ่นเจน Y

เมื่อตัวละครทั้งสี่โคจรมาเจอกัน ด้วยเหตุผลที่ว่า ภราดร และ นที ต้องการมาหาข้อมูลจาก อารักษ์และบริพัตร เพื่อนำเรื่องราวชีวิตของพวกเขาไปเขียนเป็นบทภาพยนตร์ ระหว่างทางที่วัยรุ่นทั้งสองรับรู้เรื่องราวชีวิตของผู้อาวุโสทั้งคู่ พวกเขาก็ได้เรียนรู้และเข้าใจบริบทของสังคมไทยในอดีตมากขึ้น รวมถึงเรื่องราวรักสามเส้าระหว่าง อารักษ์ บริพัตร และ มุกดา (นฤมล นิลวรรณ) ในอดีตก็ได้ทับซ้อนกับรักสามเส้าของ นที ภราดร และซอแก้ว (นัฐรุจี วิศวนารถ) ในปัจจุบัน แต่ชีวิตรักของผู้อาวุโสในอดีต ได้นำไปสู่ความล้มเหลว  เพราะค่านิยมของสังคมในยุคนั้นทำให้ความรักของพวกเขามีปัญหา ส่วนชีวิตรักของ ภราดร นที และซอแก้วนำไปสู่การคลี่คลาย เพราะตัวละครกล้าเผชิญหน้ากับความจริงมากขึ้น ท้ายสุดแม้อารักษ์ จะมีผู้หญิงคนใหม่ บุหงา (รัดเกล้า อามระดิษ) แม่ของซอแก้ว เป็นผู้หญิงที่ให้ความสำคัญกับการตอบแทนบุญคุณต่อผู้มีพระคุณ แต่ชีวิตรักก็ยังล้มเหลว ทำให้อารักษ์ ต้องตัดสินใจระหว่างการเคลื่อนตัวไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม หรือจะหยุดนิ่งตรึงตัวเองอยู่กับอดีตที่เขาจดจำเฉพาะสิ่งสวยงามและซุกซ่อนความล้มเหลวไว้ใต้พรม

“รถรางเที่ยวสุดท้าย” เป็นละครที่เป็นภาพสะท้อนของยุคแต่ละยุค ทำให้เห็นความขัดแย้งของคนสองรุ่นได้อย่างชัดเจน  ซึ่งจะได้เห็นวิธีคิดจากคนรุ่นเก่า ที่มีทั้งมุมมองดีและไม่ดี และมุมมองของเด็กที่มองว่าทำไมผู้ใหญ่ต้องบังคับ ต้องบงการชีวิต ซึ่งผู้ชมจะได้เห็นทั้งในมุมมอง บริบทของทั้ง 2 ฝ่าย และสามารถเข้าใจในความคิดของคนทั้ง 2 รุ่นได้ โดยได้นักแสดงมากฝีมือชั้นครูอย่าง นิรุตติ์ ศิริจรรยาสมภพ เบญจาธิกุลรัดเกล้า อามระดิษภารดี วงษ์สวัสดิ์ ร่วมด้วยนักแสดงนิวเจนอย่าง กิตติภัทร แก้วเจริญพลวิชญ์ เกตุประภากร และ นัฐรุจี วิศวนารถ พร้อมด้วยนักแสดงสมทบอีกคับคั่ง อาทิ ภูริต พลอยมีค่า, ภารดี วงษ์สวัสดิ์  ที่มาร่วมกันสร้างความกลมกล่อมให้กับ การทำความเข้าใจคนทั้งสองรุ่น บนพื้นฐานความเชื่อที่ว่า คนที่สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้นั้นจำต้องยอมรับกฏธรรมชาติที่ว่า สิ่งมีชีวิตคือการเปลี่ยนแปลง

ติดตามชมละครเรื่อง “รถรางเที่ยวสุดท้าย” ได้ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทางไทยพีบีเอส ช่องหมายเลข 3 และยังสามารถติดตามชมได้ที่ VIPA.me

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.