MAXUS eTERRON 9 กระบะไฟฟ้าเครือ MG บุกยุโรป วิ่งไกลสุด 430 กม.
MAXUS eTERRON 9 กระบะไฟฟ้าจากเครือ SAIC ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ยุโรป พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 442 แรงม้า (PS) ขับเคลื่อนสี่ล้อ พร้อมแบตเตอรี่ขับขี่ไกลสุด 430 กม.
MAXUS eTERRON 9 ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ยุโรปในงาน IAA Transportation ณ เมืองฮันโนเฟอร์ ประเทศเยอรมนี โดยพัฒนาให้เป็นรถกระบะขนาดกลางขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% มีแผนเตรียมวางจำหน่ายที่ยุโรปช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2567 นี้
MAXUS eTERRON 9 ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัว แบ่งเป็นมอเตอร์ขนาด 170 แรงม้า สำหรับขับเคลื่อนล้อหน้า และขนาด 272 แรงม้า สำหรับขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังรวมสูงสุด 442 แรงม้า พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่รองรับการขับขี่ทั้งแบบ On-road และ Off-road
ตัวรถมาพร้อมระบบ All-terrain System (ATS) ที่มีโหมดการขับขี่ให้เลือก เช่น Normal, Mud และ Sand รวมถึงผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าต่างๆ เองได้ ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัย, กำลังมอเตอร์ไฟฟ้า, ระบบควบคุมเสถียรภาพ, ระบบกู้คืนพลังงาน รวมถึงระดับความสูงของช่วงล่างแบบถุงลม ซึ่ง MAXUS ระบุว่าสามารถปรับเปลี่ยนได้มากถึง 400 แบบเลยทีเดียว
MAXUS eTERRON 9 มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium Iron Phosphate ขนาดความจุ 102 kWh ขับขี่ได้เป็นระยะทางสูงสุดราว 430 กม. ต่อการชาร์จแต่ละครั้งตามมาตรฐาน WLTP รองรับการชาร์จด่วนกำลังสูงสุด 115 kW สามารถชาร์จจาก 20% - 80% ได้ในเวลาราว 40 นาที
ทั้งยังมีฟังก์ชัน Vehicle to Load (V2L) สามารถเปลี่ยนรถเป็นแหล่งจ่ายไฟเคลื่อนที่ โดยมีช่องจ่ายไฟขนาด 2.2 kW ติดตั้งบริเวณฝากระโปรงหน้า (Frunk) และกระบะท้าย และรองรับอุปกรณ์จ่ายไฟขนาด 6.6 kW สำหรับชาร์จเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟสูง เช่น จักรยานไฟฟ้าหรือตู้เย็นเคลื่อนที่ ฯลฯ สามารถรองรับน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 620 กิโลกรัม
ภายในห้องโดยสารถูกติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานระดับพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็นวัสดุหนังที่มีความนุ่มเป็นพิเศษ พร้อมเบาะไฟฟ้าผู้ขับขี่ปรับได้ 8 ทิศทาง มีฟังก์ชันนวดผ่อนคลายและระบบระบายอากาศ ช่องเก็บสัมภาระภายในห้องโดยสารรวม 20 ตำแหน่ง รวมถึงกระโปรงหน้าและฝากระบะท้ายสามารถเปิดออกด้วยไฟฟ้า
ระบบช่วงล่างด้านหลังของ MAXUS eTERRON 9 เป็นแบบ Multi-link พร้อมโช้กอัปถุงลมไฟฟ้า สามารถปรับระดับความสูงได้ขึ้นอยู่กับความเร็วเช่นเดียวกับรถยนต์นั่ง จะช่วยลดอาการโคลงของตัวรถและลดแรงต้านอากาศที่ความเร็วสูง อีกทั้งยังสามารถลดระดับความสูงของกระบะท้ายได้สูงสุด 60 มิลลิเมตร เพื่อให้การขนถ่ายสิ่งของทำได้สะดวกมากขึ้น
MAXUS eTERRON 9 ใช้แชสซีซ์แบบ Semi-monocoque ที่รวมข้อดีของแชสซีซ์แบบยูนิบอดี้้และขั้นบันไดเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งยังมีการใช้วัสดุเหล็ก Ultra-high-strength ราว 73% โดยเฉพาะบริเวณเสา A, B และ C ซึ่ง MAXUS คาดว่าจะได้คะแนนความปลอดภัยจากการชนระดับ 5 ดาวจาก Euro NCAP
ส่วนกำหนดการวางจำหน่ายที่ยุโรปจะมีขึ้นในช่วงปลายปี 2567 นี้
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.