เปิดระบบ Cruise Control ช่วยประหยัดน้ำมันได้มั๊ย?

     ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ หรือ Cruise Control เริ่มติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถรุ่นใหม่ๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายเมื่อขับขี่ทางไกลได้เป็นอย่างดี แต่หลายคนยังมีข้อสงสัยว่าการเปิดระบบครูซคอนโทรล จะทำให้เครื่องยนต์กินน้ำมันมากกว่าหรือน้อยกว่าการเลี้ยงคันเร่งด้วยตัวเอง บทความนี้ Sanook Auto จะพาไปหาคำตอบกัน

     ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) เป็นฟังก์ชันที่ช่วยให้รถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าตามความเร็วที่กำหนดไว้โดยอัตโนมัติ ผู้ขับขี่จึงไม่จำเป็นต้องเหยียบคันเร่งค้างไว้ตลอดเวลา และเมื่อใดก็ตามที่ผู้ขับขี่มีการแตะเบรก ระบบดังกล่าวจะตัดการทำงานโดยอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัย

     ขณะที่รถยุคใหม่มีการอัปเกรดเป็นระบบ Adaptive Cruise Control ซึ่งใช้กล้องหรือเรดาร์ในการตรวจจับรถที่อยู่ด้านหน้า และจะปรับความเร็วตามรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นไปอีก เนื่องจากผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องแตะเบรกเมื่อรถคันหน้าชะลอความเร็วลง และจะกลับไปใช้ความเร็วที่ตั้งไว้อีกครั้งโดยอัตโนมัติเมื่อทางโล่ง

เปิด Cruise Control ช่วยประหยัดน้ำมันได้หรือไม่?

     คำถามที่ว่าการเปิดใช้งานระบบ Cruise Control (เอาเฉพาะระบบ Cruise Control ปกติที่ไม่ใช่ระบบปรับความเร็วอัตโนมัติตามคันหน้า) จะช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองเมื่อเทียบกับการเลี้ยงคันเร่งด้วยตัวเองหรือไม่นั้น อันที่จริงแล้วไม่มีคำตอบที่ตายตัว เนื่องจากมีความเป็นไปได้ทั้ง 2 กรณี ทั้งเปลืองน้ำมันกว่าและประหยัดน้ำมันกว่า โดยมีเหตุผลหลักๆ อันจะกล่าวถึงดังต่อไปนี้

กรณีแบบไหนที่ Cruise Control ประหยัดน้ำมันมากกว่า?

     หากเป็นการขับรถบนทางเรียบ สภาพการจราจรคล่องตัว ไม่มีรถตัดหน้าไปมา อันเป็นเหตุให้ต้องแตะเบรกอยู่บ่อยๆ แล้วล่ะก็ การเปิดใช้ระบบ Cruise Control จะช่วยประหยัดน้ำมันได้มากกว่า เนื่องจากหัวใจหลักของการขับประหยัดขณะขับขี่ทางไกล คือการประคองความเร็วให้คงที่สม่ำเสมอ ไม่เพิ่มหรือลดความเร็วโดยไม่จำเป็น ซึ่งระบบครูซคอนโทรลสามารถทำหน้าที่นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยขจัด Human Error ที่อาจเผลอเพิ่มน้ำหนักเท้าขวาโดยไม่ตั้งใจได้

แล้วกรณีแบบไหนที่ Cruise Control กินน้ำมันมากกว่า?

     หากเป็นการขับขี่บนถนนที่มีเนินชันสลับขึ้นลงไปมา หรือถนนที่มีลมพัดแรง กรณีเช่นนี้การเปิดใช้งานระบบ Cruise Control จะทำให้รถกินน้ำมันมากกว่า เนื่องจากระบบจะคอยรักษาความเร็วให้ได้ตามที่ตั้งไว้ตลอดเวลา แตกต่างจากการควบคุมโดยมนุษย์ที่จะยังคงเหยียบคันเร่งเท่าเดิม แล้วปล่อยให้ความเร็วค่อยๆ ลดลงเล็กน้อยแทน ซึ่งวิธีนี้จะทำให้รถกินน้ำมันน้อยกว่า

แล้วมีวิธีไหนอีกที่จะช่วยประหยัดน้ำมันได้?

     การขับรถประหยัดน้ำมันสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงปฏิบัติตามข้อแนะนำ 5 ข้อ ดังนี้

     1. ไต่ระดับความเร็วอย่างช้าๆ - หลีกเลี่ยงการเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรง หากเป็นเครื่องยนต์เบนซิน ควรประคองคันเร่งให้เกียร์เปลี่ยนที่รอบเครื่องยนต์ประมาณ 1,800 - 2,500 รอบต่อนาที ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลไม่ควรเกิน 2,000 รอบต่อนาที ก็เพียงพอแล้วสำหรับการใช้งานโดยทั่วไป

     2. รักษาความเร็วคงที่ - ความเร็วที่ประหยัดน้ำมันที่สุดจะอยู่ในช่วง 90 - 100 กม./ชม. พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงการเพิ่มหรือลดความเร็วโดยไม่จำเป็น เว้นระยะห่างระหว่างรถคันหน้าให้มากขึ้น วิธีนี้จะช่วยลดการแตะเบรกลงได้

     3. ตรวจสอบลมยางสม่ำเสมอ - การปล่อยให้ลมยางอ่อนเกินไป จะทำให้รถกินน้ำมันเพิ่มขึ้นได้ แต่หากต้องการความประหยัดเพิ่มขึ้น สามารถเติมลมยางมากกว่าที่ผู้ผลิตกำหนดไว้ประมาณ 2 - 4 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว (PSI) จะช่วยลดแรงต้านทานของยางได้ โดยไม่ทำให้รถกระด้างมากจนเกินไป

     4. เพิ่มอุณหภูมิแอร์ให้อุ่นขึ้นเล็กน้อย - ระบบปรับอากาศต้องใช้พลังงานมากในการทำความเย็น จึงควรปรับแอร์ให้เย็นแต่พอดี จะช่วยลดการทำงานของคอมเพรสเซอร์ และลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ลงได้มาก

     5. วางแผนเส้นทางล่วงหน้าเสมอ - ตรวจสอบเส้นทางรถติดผ่าน Google Maps รวมถึงเลือกใช้เส้นทางที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการใช้ทางลัดโดยไม่จำเป็น เพราะทางลัดโดยส่วนมากจะมีขนาดเล็ก หรือตัดผ่านชุมชน ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมการขับขี่ที่ทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้น

     หวังว่าเคล็ดลับทั้งหมดที่กล่าวมานี้ จะช่วยให้คุณขับรถได้ประหยัดน้ำมันขึ้นไม่มากก็น้อยนะครับ

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.