XPeng G6 เอสยูวีคูเป้ไฟฟ้า 100% จ่อเผยโฉมครั้งแรกในไทยที่มอเตอร์โชว์ 2024

XPeng G6 เอสยูวีคูเป้ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% เตรียมเผยโฉมในไทยที่งานบางกอกอินเตอร์เนชันแนลมอเตอร์โชว์​ 2024 ราคาเริ่มต้น 209,900 หยวน หรือประมาณ 1 ล้านบาทต้นที่จีน

XPeng G6 ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกที่ประเทศจีนเมื่อเดือนมิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ชูจุดขายด้วยรูปทรงแบบคูเป้เอสยูวี พร้อมแพล็ตฟอร์มไฟฟ้า 800V SiC (Silicon Carbide) ที่รองรับการชาร์จได้เร็วเป็นพิเศษ โดยหากชาร์จผ่านเครือข่ายสถานีซูเปอร์ชาร์จเจอร์ของ XPeng เพียง 10 นาที จะได้ระยะทางขับขี่เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 300 กิโลเมตร

ปัจจุบัน XPeng G6 ในตลาดประเทศจีนแบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อยหลัก ได้แก่ 580 Long Range ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหลังจำนวน 1 ตัว กำลังสูงสุด 218 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 440 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.6 วินาที พร้อมแบตเตอรี่ที่ให้ระยะทางขับขี่สูงสุด 580 กิโลเมตรเมื่อชาร์จเต็ม (ตามมาตรฐาน CLTC)

ขยับขึ้นมาเป็นรุ่น 755 Super-Long Range ที่ใช้มอเตอร์ขับเคลื่อนล้อหลังเช่นเดียวกัน แต่เพิ่มขนาดแบตเตอรี่ใหญ่ขึ้น สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เหลือ 5.9 วินาที และเพิ่มระยะทางขับขี่ไกลขึ้นเป็น 755 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มแต่ละครั้ง

ส่วนรุ่นท็อปสุดเป็นรุ่น 700 4WD Performance ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าหน้าและหลังข้างละ 1 ตัว ให้กำลังสูงสุดรวม 358 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 660 นิวตัน-เมตร ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.9 วินาที พร้อมแบตเตอรี่ที่ให้ระยะทางขับขี่ไกลสุด 700 กิโลเมตร โดยทั้ง 3 รุ่นสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 202 กม./ชม.

โครงสร้างตัวถังของ XPeng G6 ถูกพัฒนาให้มีการกระจายน้ำหนักหน้าและหลังแบบ 50:50 พร้อมด้วยเทคโนโลยีขึ้นรูปโครงสร้างด้วยอะลูมิเนียม และการติดตั้งแบตเตอรี่แบบ CIB (Cell Integration Body) ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้างเป็นพิเศษ ขณะที่ชุดแบตเตอรี่เองถูกพัฒนาให้สามารถทนความร้อนได้สูงสุดถึง 700 องศาเซลเซียส และผ่านมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68 ซึ่ง XPeng ระบุว่าสูงกว่าที่ใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าเป็นส่วนใหญ่

ด้านความปลอดภัยได้มีการติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ (ADAS) ที่เรียกว่า XNGP ทำงานผ่านเซ็นเซอร์รอบคันกว่า 31 ตัว โดยจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็น LiDARs จำนวนถึง 2 ตัว ทำงานบนชิปความเร็วสูง NVIDIA DRIVE Orin-X เพื่อให้ตัวรถสามารถตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบคันได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

ขณะที่ห้องโดยสารถูกออกแบบให้มีความกว้างขวางเป็นพิเศษโดยเฉพาะพื้นที่เหนือศีรษะสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 14.96 นิ้ว ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Xmart OS4.0 ที่ประมวลผลด้วยชิป Qualcomm Snapdragon SA8155P ซึ่งสามารถโต้ตอบผู้ใช้งานได้คล้ายกับ GPT รวมถึงมีฟังก์ชันสั่งงานด้วยเสียงที่ทำงานได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งสามารถอ่านคำสั่งได้ตลอดเวลา และยังใช้งานได้แม้ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอีกด้วย

ส่วนรายละเอียดการทำตลาดในประเทศไทยต่อรอภายหลังจากการเปิดตัวที่งานมอเตอร์โชว์อีกครั้ง

 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.